26 มีนาคม 2559

สูตรคำนวณหาวันอีสเตอร์


สูตรคำนวณหาวันอีสเตอร์

          วันอีสเตอร์เป็นวันสำคัญของพี่น้องชาวคริสต์ศาสนิกชน ด้วยเป็นวันที่พระเยซูคริสต์ทรงคืนพระชนม์ คริสตศาสนิกชนนิกายโรมันคาทอลิกในประเทศไทยเรียกว่า “วันสมโภชปัสกาพระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพ” เป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญมากที่สุดในศาสนาคริสต์ จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการคืนพระชนม์ของพระเยซูหลังจากที่ถูกตรึงกางเขนและสิ้นพระชนม์ไปแล้วสามวัน โดยวันที่จะเปลี่ยนไปในแต่ละปีแต่กำหนดให้ทุกปีต้องจัดขึ้นในวันอาทิตย์ (เพราะเป็นวันที่ทรงถูกตรึงกางเขนตามพระคัมภีร์)
          คำว่า “อีสเตอร์” ที่นำมาใช้สำหรับการฉลองนั้นมาจากคำว่า “
EOSTRE” ซึ่งเป็นชื่อของเทพเจ้าแห่งฤดูใบไม้ผลิของพวกทูโทนิค เป็นเทพเจ้าแห่งการฟื้นคืนชีพ เพราะก่อนถึงฤดูนี้ ต้นไม้ ใบหญ้า ดอกร่วงหล่นเหลือแต่ซาก พอถึงฤดูใบไม้ผลิมันจะกลับผลิดอกออกใบมีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง ฉะนั้นฤดูใบไม้ผลิ จึงถูกนำมาเปรียบกับการฟื้นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูด้วย จึงเรียกวันนี้ว่า "อีสเตอร์"
          ความน่าสนใจประการหนึ่ง คือ การคำนวณหาวันอีสเตอร์ ซึ่งมีกำหนดกฎเกณฑ์ไว้ว่าวันอีสเตอร์จะต้องเป็นวันอาทิตย์ ถัดจากวันพระจันทร์เต็มดวงหรือจันทร์เพ็ญแรก หลังจากวันวสันตวิษุวัต(กลางวันยาวเท่ากลางคืน) ประมาณ 20 หรือ 21 มีนาคม(
Vernal Equinox,March Equinox) ซึ่งมีสูตรการคำนวณที่ได้จัดทำเป็น vba function บน Excel ดังนี้

Function easter(year As Double) As String
Dim a, b, c, d, e, f, g, h, i, j, k, l, m, n, p As Double
a = year Mod 19
b = Int(year / 100)
c = year Mod 100
d = Int(b / 4)
e = b Mod 4
f = Int((b + 8) / 25)
g = Int((b - f + 1) / 3)
h = ((19 * a) + b - d - g + 15) Mod 30
i = Int(c / 4)
k = c Mod 4
l = (32 + (2 * e) + (2 * i) - h - k) Mod 7
m = Int((a + (11 * h) + (22 * l)) / 451)
n = Int((h + l - (7 * m) + 114) / 31)
p = ((h + l - (7 * m) + 114)) Mod 31
easter = p + 1 & "/" & n & "/" & year
End Function

          โดยที่ตัวแปร year คือปีคริสตศักราชที่เราประสงค์จะทราบว่าวันอีสเตอร์ตกอยู่ในวันที่เท่าไรของเดือนมีนาคมหรือเมษายน จากสูตรการคำนวณนี้ทดสอบหาวันอีสเตอร์ตั้งแต่ปีคริสศักราช 2013 – 2022 ได้ผลดังนี้

31 มีนาคม 2013
20 เมษายน 2014
5 เมษายน 2015
27 มีนาคม 2016
16 เมษายน 2017
1 เมษายน 2018
21 เมษายน 2019
12 เมษายน 2020
4 เมษายน 2021
17 เมษายน 2022

โดยตรวจสอบจาก The Book of Common Prayer,The Episcopal Church โดย Charles Mortimer Guilbert แล้ว มีความถูกต้องตรงตามกฎเกณฑ์ของการคำนวณหาวันอีสเตอร์ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบรูปแบบการคำนวณกับของไทยแล้ว คงคล้ายกับการหาวันสงกรานต์หรือวันเถลิงศกซึ่งมีรูปแบบกฎเกณฑ์คำนวณเฉพาะออกไปเช่นเดียวกัน และทำให้คำนึงว่าถ้าการคำนวณหาวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาตามปฏิทินจันทรคติมีกฎเกณฑ์ที่ง่ายต่อการคำนวณเช่นนี้ คงมีความสะดวกในการจัดทำปฏิทินหรือสนองตอบต่อการต้องการทราบผลของผู้สนใจ ซึ่งเรื่องนี้คงเป็นเป้าใหญ่จุดหมายรวมที่จะหวังได้ว่าในอนาคตระบบปฏิทินจันทรคติของไทย จะมีทิศทางที่สะดวกต่อการคำนวณมากยิ่งขึ้นดังกล่าว

ธีรพร  เพชรกำแพง
26 มีนาคม 2559



ลิงค์ดาวน์โหลด : http://www.mediafire.com/download/zseqtn5cwksjc38/Date+of+Easter.xls

25 มีนาคม 2559

เกร็ดความรู้เรื่องคราส จากคัมภีร์โบราณ

เกร็ดความรู้เรื่องคราส จากคัมภีร์โบราณ
เรื่องคราสนั้นต้องขอเท้าความเพื่อให้เข้าใจกันก่อน ว่าในคัมภีร์โบราณ(ปุราณะ) อันเป็นที่รวบรวมทั้งดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ และเทพนิยายนั้น ได้แบ่งปุราณะออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ มหาปุราณะ และ อุปปุราณะ มีประเภทละ 18 คัมภีร์ รวม 36 คัมภีร์ โดยกล่าวถึงชื่อ(ศัพท์) ของคำว่าคราสไว้ดังนี้
1.ครัส(ครสุ) หมายถึง กลืนกิน, ถือเอา, จับกุม
2.ครหะ หมายถึง ดาวเคราะห์ต่างๆ ในระบบสุริยจักรวาล ซึ่งก็รวมพระอาทิตย์ไว้ด้วย, การถือเอา, การจับ, การเข้าถือสิทธิ์, การสู้รบ, ความเพียรพยายาม, ความตั้งใจ
3.ครหณะ หมายถึง การพันธนาการ, การกักขัง, การผูกล่ามติด, การจับ, ตกลงยินยอม, สัญญา, อวัยวะรับความรู้สึก
4.คราสะ หมายถึง อาหารคำหนึ่งๆ, การจับกุม, การเข้าครองสิทธิ์โดยพลการ, การทำให้มืดมัว, การบดบังแสง, การเป้นฝ่ายตรงข้าม
5.ครัสตะ หมายถึง การกลืนกิน, การครอบงำของปิศาจ
6.โสปัปลวะ(โสปัปลพะ) หมายถึง การที่พระอาทิตย์ หรือ พระจันทร์อยู่ในเงาของคราส
7.ปราคะ หมายถึง เกสรของดอกไม้, ฝุ่นละออง, ไม้จันทร์หอม, เกียรติยศชื่อเสียง, การยกย่องสรรเสริญ, ทาสแห่งอารมณ์, การถูกบดบัง
8.อุปปะลวะ(อุปปะลพะ) หมายถึง การต่อสู้โดยไม่ใช่อาวุธ, ราหู, การเข้าบดบัง
9.อุปสรรชนะ หมายถึง การเคลื่อนเข้ามา, การเข้าหาอย่างฉับพลัน, ผู้แทนที่, ลางร้าย
10. อุปราคา หมายถึง ความทุกข์ทน, ความเศร้าหมอง, การกระทำอันผิดประเพณี, มารยาทอันไม่ดี, การนินทา, การใส่ร้าย, การทำให้มืดมัว, การเสียเกียรติ

ลางร้ายแห่งคราส(แบบมหาภาค)
คราสนั้นถือเป็นปรากฏการณ์ ซึ่งในปุราณะเรียกว่า อามะนายะอุตปาตะอันถือว่าเป็นลางบอกเหตุร้าย ซึ่งเชื่อถือกันมาแต่ครั้นโบราณกาล โดยจะนำมาซึ่งเรื่องร้ายอันยิ่งใหญ่ 5 ประการ (วยโตปาต หรือ อีติ) แก่บ้านแก่เมือง ดังนี้
อนาวฤษฏี ทำให้ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล อากาศแห้งแล้ง
อติวฤษฏี ทำให้เกิดฝนตกมากเกินไป จนเกิดน้ำท่วมดินถล่ม
ทุรภิกษะ เกิดยุคข้าวยากหมากแพง อดอยาก ภัยอันเกิดจากผู้นำ
กีฏะภยะ เกิดหนอน หรือ แมลง เข้าทำลายพืชในไร่นาสวน
สหมรณา เกิดการตายหมุ่ของประชาชน เช่น เกิดสงคราม, เกิดโรคระบาด, เกิดแผ่นดินไหว, เกิดพายุพัดถล่มบ้านเมือง, ไฟป่าขนาดใหญ่

ความสำคัญของสุริยคราส
สุริยคราส คือ การที่พระอาทิตย์และพระจันทร์โคจรมาอยู่ร่วมในจุดเดียวกันบนเส้นระวิมรรค แล้วมีราหุ หรือ เกตุเข้าร่วม
พระอาทิตย์นั้นเป็นดาวฤกษ์ซึ่งมีแสงในตัวเอง เมื่อดาวใดก็ตามโคจรเข้าไปใกล้พระอาทิตย์แล้วนั้น ดาวดวงนั้นก็จะถูกแสงของพระอาทิตย์บดบัง แต่พระอาทิตย์เองซึ่งสามารถส่งแสงบดบังดาวต่างๆ ได้นั้นก็กลับถูกบดบังแสงในชั่วขณะได้เช่นกันด้วยอิทธิพลของสุริยคราสนั่นเอง (ถูกพระจันทร์โคจรเข้ามาบดบังแสง)
นั่นเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่เป็นไป แต่ในทางโหราศาสตร์กับมองว่าการเกิดคราสนั้นย่อมมีผลกับโลก ถ้าจะมองในแง่วิทยาศาสตร์แล้วในระหว่างเกิดสุริยคราสนั้นย่อมทำให้เกิดอากาศเปลี่ยนแปลงโดยฉับพลัน
ส่วนทางโหราศาสตร์กล่าวไว้ว่า สุริยคราสนั้นมีอิทธิพลมากกว่าจันทรคราส โดยถ้าพระอาทิตย์ดับน้อยผลกระทบกับสรรพชีวิตบนโลกก็น้อยไปตามส่วน ถ้าพระอาทิตย์ดับมากเท่าใดก็จะมีผลต่อสรรพชีวิตบนโลกมากเท่านั้น
แล้วในคัมภีร์ยังกล่าวต่ออีกว่าถ้าพระอาทิตย์นั้นเกิดคราสในเวลาเที่ยงวัน (ณ จุดศิโรพินทุ หรือ จุดบนศีรษะ) แล้วนั้นคราสนั้นย่อมส่งมีอิทธิพลแก่สรรพชีวิตเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว ฉะนั้นให้สังเกตว่าสุริยคราสนั้นเกิดในช่วงเวลาใด ความหนักเบาก็แบ่งไปตามสัดส่วน อาทิเช่น เกิดในช่วงรุ่งเช้า หรือ ช่วงเย็นใกล้พระอาทิตย์อัสดงคราสนั้นก็ส่งผลน้อย, ถ้าเกิดในช่วงเวลาสายๆ หรือ ช่วงบ่าย คราสนั้นก็ส่งผลปานกลาง แต่ถ้าเกิดในช่วงเที่ยงย่อมให้ผลรุนแรง
*หมายเหตุ คราสช่วงเช้า สาย ให้ถือว่าให้ผลน้อยกว่าคราสช่วงบ่าย เย็น
สุริยคราสนั้นให้ผลรุนแรงกว่าจันทรคราส และในคัมภีร์ยังกล่าวไว้อีกว่า คราสของพระอาทิตย์ที่เกิดขึ้นในตำแหน่งที่ใกล้กับราหูนั้นย่อมมีอิทธิพลรุนแรงมากกว่าคราสของพระอาทิตย์ที่เกิดขึ้นในตำแหน่งที่ใกล้กับเกตุและ คราสของพระจันทร์ที่เกิดขึ้นในตำแหน่งที่ใกล้กับเกตุนั้นย่อมมีอิทธิพลรุนแรงกว่าคราสของพระจันทร์ที่เกิดขึ้นในตำแหน่งที่ใกล้กับราหู

คราสให้ผลแก่ดวงชะตา
การเกิดคราสนั้นให้พิจารณาจุดอมาวสีของคราส (จุดศูนย์กลางของการเกิดคราส) นั้นเป็นหลัก ว่าจุดอมาวสีของคราสนั้นไปต้องกับดาวดวงใดในดวงชะตาบ้าง อันมีผลในการทำนายดี หรือ ร้าย ตามลักษณะของดาวดวงนั้นๆ
จุดสำคัญที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษ คือ ถ้าจุดอมาวสีของคราสนั้นทับลัคนา, ทับพระอาทิตย์ หรือ เล็งลัคนา, เล็งพระอาทิตย์ ในดวงชะตากำเนิด (ไม่เกิน 3 องศา 20 ลิปดา) คราสนั้นย่อมส่งแก่ดวงชะตาเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าสนิทองศา (ไม่เกิน 1 องศา) ย่อมส่งผลแก่ดวงชะตานั้นๆ มากที่สุด
แต่ถ้าจุดอมาวสีของคราสนั้นไปต้องกับดาวอื่นๆ ในดวงชะตา จะมีอิทธิพลมากน้อย ก็ขึ้นอยู่กับว่าดาวเคราะห์ในดวงชะตากำเนิดนั้นๆ อยู่ใกล้เส้นระวิมรรคเพียงใด
ถ้าดาวเคราะห์นั้นๆ (อังคาร, พุธ, พฤหัส, ศุกร์, เสาร์, ฯลฯ) ไม่ได้อยู่ใกล้เส้นระวิมรรคของคราสเลย แม้จุดอมาวสีของคราสจะต้องโดนตำแหน่งของดาวเคราะห์ในดวงชะตากำเนิด ก็จะไม่ส่งผลแก่เจ้าชะตามากนัก

ครัสตพินทุ (จุดเกิดคราส)
คราสนั้นมีด้วยกัน 2 ประเภท คือ สุริยคราส กับ จันทรคราส ฉะนั้นในวันที่เกิดคราสเราจำต้องรู้เสียก่อนว่าพระอาทิตย์ หรือ พระจันทร์นั้นสถิตอยุ่ในราศีใด กี่องศา กี่ลิปดา โดยจุดที่เกิดคราสอย่างเต็มที่ตรงนั้นเรียกว่า ครัสตพินทุ
ถ้าจุดครัสตพินทุนั้นไปต้องกับดาวใดในดวงชะตากำเนิดโดยห่างจากดาวดวงนั้นๆ ไม่เกิน 1 องศา ย่อมแสดงว่าคราสที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นย่อมมีอิทธิพลต่อดวงชะตาอย่างเต็มที่
ถ้าจุดครัสตพินทุนั้นอยู่ห่างจากดาวในดวงชะตากำเนิดนั้นๆ มากกว่า 1 องศา แต่น้อยกว่า 3 องศา 20 ลิปดา คราสที่เกิดขึ้นนั้นย่อมมีอิทธิพลต่อดวงชะตาเพียงครึ่งเดียว
ถ้าจุดครัสตพินทุนั้นอยู่ห่างจากดาวในดวงชะตากำเนิดนั้นๆ มากกว่า 3 องศา 20 ลิปดา แต่น้อยกว่า 5 องศา คราสที่เกิดขึ้นนั้นย่อมมีอิทธิพลต่อดวงชะตาเพียงหนึ่งในสี่ส่วน
ถ้าจุดครัสตพินทุนั้นอยู่ห่างจากดาวในดวงชะตากำเนิดนั้นๆ มากกว่า 5 องศาขึ้นไป คราสที่เกิดขึ้นนั้นย่อมไม่มีอิทธิพลต่อดวงชะตาเลย ยกเว้นจะมีกรณีอื่นๆ มาเพิ่มความรุนแรง

อศุภมหาราศี หรือ ทุสถานะร่วม
ดาวทุกดวงรวมทั้งลัคนานั้น ย่อมมีทุสถานะด้วยกันทั้งสิ้น คือ ภพที่ 6 (อริ), ภพที่ 8 (มรณะ) และ ภพที่ 12 (วินาส) ซึ่งตามความเข้าใจแบบธรรมดาแล้ว เรามักจะเข้าใจกันว่าภพทุสถานะนั้นเกิดจากตำแหน่งที่สถิตของลัคนาเพียงอย่างเดียว แต่ในความเป็นจริงดาวทุกดวงในชะตากำเนิดก็มีภพทุสถานะของตัวเองเช่นกัน
อาทิเช่น ดาวอังคาร (๓) ในดวงชะตากำเนิดสถิตอยู่ราศีเมษ ดังนั้นภพทุสถานะของดาวอังคารในดวงกำเนิด ก็จะเป็นราศีดังนี้ คือ ราศีกันย์ (ราศีที่ 6 ของดาวอังคาร), ราศีพิจิก (ราศีที่ 8) และ ราศีมีน (ราศีที่ 12)
อศุภมหาราศีนี้มีความสำคัญมากในการพิจารณาดวงชะตากำเนิดอันเกี่ยวกับคราสในเวลาต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยอศุภมหาราศีนั้นจะคำนวณจากตำแหน่งของ พระอาทิตย์ (๑), พระจันทร์ (๒) และ ราหู (๘) ในดวงชะตากำเนิดเป็นหลัก โดยดูว่าดาวทั้ง 3 นี้มีทุสถานะร่วมกันทั้ง 3 ดวงในราศีใด ราศีนั้นจะได้ชื่อว่า อุศภมหาราศีซึ่งแม้จะเกิดครัสตพินทุ ณ ราศีนั้นผลของคราสก็จะไม่รุนแรง หรือ อาจไม่เกิดเลยก็ได้
ตัวอย่าง
ดวงชะตากำเนิด พระอาทิตย์ (๑) กับ ราหู (๘) สถิตราศีกุมภ์ และ พระจันทร์สถิตราศีเมษ ดังนั้นจะเห็นว่า จุดทุสถานะของดาวทั้ง 3 ที่อยู่ร่วมกันได้แก่ ราศีกันย์ ดังนั้นถ้าเกิดครัสตพินทุในราศีกัน เจ้าชะตานั้นจะได้รับผลร้ายของคราสเพียงเบาบาง หรือ ไม่ส่งผลเลยก็ได้

การสลับเรือนของดาวในดวงชะตากำเนิด มีผลต่อครัสตคราส
ถ้าในดวงชะตากำเนิดมีดาวสลับเรือนซึ่งกันและกัน หรือ ดาวมากกว่า 2 ดวงสลับเรือนกัน (อาทิอาทิตย์ (๑) ไปอยู่ราศีเมษ ซึ่งเป็นเรือนของดาวอังคาร (๓), ดาวอังคาร (๓) ไปอยู่ราศีธนู ซึ่งเป็นเรือนของดาวพฤหัส (๕) และดาวพฤหัส (๕) ไปอยู่ราศีสิงห์ ซึ่งเป็นเรือนของพระอาทิตย์ ซึ่งมักเรียกกันว่า ปริวรรตเกษตรเป็นต้น)
ในกรณีเช่นนี้ถ้าเกิดคราสในราศีที่ดาวในดวงชะตากำเนิด ดวงนั้นสถิตอยู่ด้วย คราสนั้นย่อมส่งผลเป็นอย่างมาก หรือ เรียกง่ายๆว่าคราสนั้นเกิดการปริวรรตขึ้นตามการปริวรรตของดาวในดวงชะตากำเนิดด้วย

ปริคัณฑานตะ (คราสที่เกิดในฤกษ์สนธิ หรือ นวางค์ขาด)
ใน 1 จักรราศีเราแบ่งออกเป็น 108 นวางค์ โดยทั้ง 108 นวางนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ช่วงด้วยกัน ช่วงละ 36 นวางค์ ซึ่งฤกษ์สนธิ หรือ นวางค์ขาดนั้นก็คือ นวางค์ลูกสุดท้ายของราศีกรกฏ, ราศีพิจิก และ ราศีมีน โดยถ้าเกิดคราสในจุดนี้ในคัมภีร์โยราณจะเรียกว่า ปริคัณฑานตะนวางศ์
ปริคัณฑานตะนั้น แปลว่า ข้อพับ, บานพับ, ข้องอศอก ดังนั้นถาเกิดคราสในนวางค์สุดท้ายของ 3 ราศีที่กล่าวมา คราสนั้นย่อมให้ผลที่รุนแรงและอันตราย

วิกลคต (การโคจรผิดปกติของดาว)
คำว่า วิกลคต หมายถึงการที่ดาวเคราะห์นั้นๆ โคจรผิดปกติ การโคจรผิดปกตินั้นเกิดขึ้นได้กับดาวเคราะห์ทุกดวง ยกเว้นพระอาทิตย์และพระจันทร์
การโคจรผิดปกติได้แก่ การโคจรเร็วกว่าปกติ, โคจรช้ากว่าปกติ หรือ หยุดอยุ่เฉยๆ และ โคจรถอยหลัง (เสริด, มนท์, พักร์)
จุดสำคัญของเรื่องนี้อยู่ตรงที่ เมื่อดาวเคราะห์นั้น หยุดนิ่งอยู่กับที่ก่อนที่จะเดินถอยหลัง หรือ ก่อนที่จะเดินปกติเมื่อถอยหลังมาถึงที่สุดแล้ว จุดตรงนี้เองที่มีความสำคัญในเรื่องการเกิดคราสมาก เพราะในขณะที่เกิดคราสต้องสังเกตว่าดาวดวงใดกำลังวิกลคตอยู่ในจักรราศีของวันนั้นในกรณีเช่นนี้บ้าง หรือ จุดเกิดคราสไปต้องดาวที่เดินวิกลคตในดวงชะตากำเนิดเดิมของเจ้าชะตาเช่นนี้ ดาวดวงนั้นย่อมได้รับอิทธิพลของคราสเป็นอย่างมาก

วรโคตรนวางค์
ถ้าคราสนั้นเกิดครัสตพินทุในจุดวรโคตรนวางค์ คราสนั้นย่อมให้ผลรุนแรงมากกว่าเกิดในนวางค์อื่นๆ

ครหจัณฑาล
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าการเกิดครัสตพินทุคราสนั้น ให้พิจารณาว่าดาวดวงใดสถิตร่วมจุดครัสตพินทุหรือไม่ (ไม่เกิน 3 องศา 20 ลิปดา) ถ้าเป็นสุริยคราสก็ให้สังเกตพระอาทิตย์เป็นหลัก ถ้าเป้นจันทรคราสก็ให้สังเกตพระจันทร์เป็นหลัก
ดาวเคราะห์ที่ร่วมจุดครัสตพินทุนี้จะมีชื่อเรียกว่า ครหจัณฑาลโดยดาวทุกดวงสามารถเป็นครหจัณฑาลได้ในการเกิดสุริยคราส แต่ในจันทร์คราสดาวพุธและดาวศุกร์ จะมีข้อยกเว้นว่าดาวทั้ง 2 ดวงนี้จะไม่เป้นครหจัณฑาลเมื่อเกิดจันทรคราส
ดังนั้นเจ้าชะตาที่มีลัคนาสถิตอยู่ในราศีที่เป็นเรือนเกษตรของดาวพุธ (ราศีเมถุน และ กันย์) หรือ ดาวศุกร์ (ราศีพฤษภ และ ตุลย์) เจ้าชะตาจะได้รับผลจากจันทรคราสเพียงเบาบาง

สารัมภ์ภาวะ หรือ องศาที่เท่ากับลัคนา
เมื่อผูกดวงชะตาขึ้นมาแล้วเราก็จะทราบว่าลัคนาเรามีองศาที่เท่าใด เมื่อทราบองศาที่แน่นอนแล้ว องศาที่ลัคนาสถิตทุกๆ ราศีจะมีจุดที่องศาเท่ากับลัคนาในดวงกำเนิด จุดเหล่านี้เรียกว่า สารัมภ์ภาวะของลัคนา
ถ้าเกิดคราสขึ้นไม่ว่าจะในราศีใดๆ ถ้าองศาของคราสนั้นๆ มีองศาเท่ากับสารัมภ์ภาวะแล้ว คราสนั้นย่อมส่งผลต่อเจ้าของชะตาเป็นอันมาก
ในวันที่เกิดจันทรุปราคา พระจันทร์จะเริ่มถูกกลืนกินทางขอบทิศตะวันออกก่อนเสมอไป เพราะพระจันทร์นั้นเคลื่อนโคจรไปสู่ทิศตะวันออกเสมอ จึงค่อยๆ ถูกเงาของโลกบดบังจากทิศตะวันออก
ในวันที่เกิดสุริยุปราคา พระอาทิตย์จะเริ่มถูกกลืนกินทางขอบทิศตะวันตกก่อนเสมอไป เพราะพระอาทิตย์เคลื่อนโคจรไปสู่ทิศตะวันตกเสมอ เมื่อโคจรสวนทางกับพระจันทร์ ดังนั้นพระจันทร์จะเริ่มบดบังพระอาทิตย์จากทางขอบด้านทิศตะวันตกก่อนเสมอ
พระจันทร์นั้นจะโคจรผ่านหน้าพระอาทิตย์นับจากวันแรม 15 ค่ำพระจันทร์จะค่อยๆ ห่างจากพระอาทิตย์ไปทุกที จนกระทั่งมาเล็งกันกับพระอาทิตย์ในวันขึ้น 15 ค่ำ ถ้าในขณะนั้นวิถีโคจรของพระจันทร์โคจรอยู่บนเส้นระวิมรรคพอดี พระจันทร์ก็จะโคจรเข้าผ่านเงามืดของโลก แล้วจะเกิดจันทรุปราคาขึ้นทันที
ในการเกิดจันทรุปราคานั้นเราสามารถมองเห็นได้เกือบครึ่งโลก แต่ในการเกิดสุริยุปราคาเราจะมองเห็นได้ในบริเวณจำกัด
ในกรณีของจันทรุปราคาที่เกิดไม่เต็มดวง มุมของพระจันทร์จะมีลักษณะป้าน ไม่เรียวแหลมทั้งสองข้าง แต่ในกรณีสุริยุปราคาที่ไม่เต็มดวง มุมของพระอาทิตย์จะมีลักษณะเรียวแหลมทั้งสองข้าง จึงทำให้สุริยุปราคาสามารถมองเห็นได้บริเวณแคบกว่าจันทรุปราคา
การเกิดคราสนั้นเป็นปรากฏการณ์ปกติของธรรมชาติ ไม่ถือว่าเป็นลางร้ายที่น่ากลัวอะไรมากนัก แต่มีข้อสำคัญอยู่ว่าในช่วงวันที่เกิดคราสนั้นมีปรากฏการณ์ที่น่ากลัวอย่างอื่นที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าปรากฏขึ้นร่วมด้วยหรือไม่ เช่น ผีพุ่งใต้, อุกกาบาตตก, ปรากฏการณ์ดาวหาง, ฝนดาวตก, ฯลฯ ถ้าปรากฏเช่นนั้น ท่านถือว่าเป็นลางร้ายอันน่ากลัวยิ่ง
ถ้าเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคาในเดือนเดียวกัน จะเกิดผลร้ายอย่างไม่คาดฝัน ผู้นำประเทศจะถูกทำลาย ต้องสูญเสียการปกครอง เกิดการปฏิวัติรัฐประหารจากกลุ่มทหารของตนเอง จะเกิดการสู้รบอย่างดุเดือดน่ากลัวเลือดนองแผ่นดิน
ถ้าเกิดคราสในขณะที่พระอาทิตย์ หรือ พระจันทร์กำลังขึ้น หรือ ตก ท่านว่าเป็นนิมิตรที่ไม่เป็นมงคล พืชพันธุ์ธัญญาหารที่เก็บเกี่ยวในฤดูร้อนจะให้ผลน้อยมาก ผู้ปกครองประเทศจะวิบัติโดยที่ไม่สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ถ้าเกิดสรรพคราสในลักษณะเช่นนี้ แล้วมีดาวเคราะห์อื่นเข้าร่วมคราสด้วย ถ้าดาวเคราะห์ที่เข้าร่วมนั้นเป็นบาปเคราะห์ก็จะก่อให้เกิดข้าวยากหมากแพง เกิดโรคระบาด ประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนนานับประการ
ถ้าเกิดคราสในขณะที่พระอาทิตย์ หรือ พระจันทร์โผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาได้เพียงครึ่งดวงในทิศตะวันออก พวกชนชั้นต่ำจะประสบความวิบัติ การกระทำพิธีกรรมขอพร การพลียัญ พิธีสะเดาะเคราะห์ ฯลฯ จะไม่ช่วยก่อให้เกิดผลดีเลยแม้แต่น้อย
มหาฤษีให้กฏเกณฑ์ว่า ท้องฟ้าในส่วนจากทิศตะวันออกไปจดทิศตะวันตกในช่วงทิวา หรือ ราตรีนั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 7 ส่วนเท่าๆ กัน (รวมเป็น 14 ส่วนทั้งกลางวันและกลางคืน) ถ้าเกิดคราสในส่วนต่างๆ ทั้ง 7 ส่วนผลของคราสก็จะแตกต่างกันไปตามลำดับ (เวลาที่ให้นั้นกำหนดโดยประมาณ เมื่อเทียบกับเวลาสากล ซึ่งความจริงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น-ตก ของแต่ละวันในช่วงฤดูต่างๆ จะสั้นยาวไม่เท่ากัน)
- คราสเกิดในส่วนที่ 1 (06.01 น. 07.44 น. หรือ 18.01 น. 19.44 น.)
ผู้ที่มีอาชีพเกี่ยวกับความร้อน หรือ ไฟ เช่นพวกช่างทอง ช่างเหล็ก ฯลฯ และ พวกนักบุญ นักการศาสนาต่างๆ จะประสบกับความวิบัติในลักษณะที่แตกต่างกันไป
- คราสเกิดในส่วนที่ 2 (07.44 น. 09.27 น. หรือ 19.44 น. 21.27 น.)
ผู้ที่ประกอบอาชีพกสิกรรม บุคคลนอกศาสนา พ่อค้านักธุรกิจ แม่ทัพนายกอง และผู้นำประเทศ จะประสบกับความวิบัติ
- คราสเกิดในส่วนที่ 3 (09.27 น. 11.10 น. หรือ 21.27 น. 23.10 น.)
ศิลปินสาขาต่างๆ ผู้ใช้แรงงาน ประชาชนที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ชาวป่าชาวเขา ผู้มีตำแหน่งสูงทางการเมืองและการบริหารประเทศ จะประสบความวิบัติ
- คราสเกิดในส่วนที่ 4 (11.10 น. 12. 51 น. หรือ 23.10 น. 00.51 น.)
คราสส่วนนี้คือคราสที่เกิดเหนือศีรษะเรา ในเวลาเที่ยงวัน หรือ เที่ยงคืน จะเกิดเหตุการณ์ชั่วร้ายต่างๆ เกินขึ้นในเมืองหลวง ผู้นำประเทศ หรือ ราชวงศ์ชั้นสูงจะประสบความหายนะ ล้มหายตายจาก สูญเสียอำนาจการปกครอง แต่ข้าวปลาธัญญาหารต่างๆ จะไม่ถูกกระทบกระเทือน
- คราสเกิดในส่วนที่ 5 (12.51 น. 14.34 น. หรือ 00.51 น. 02.34 น.)
พ่อค้านักธุรกิจ พวกที่เคยเสพสุขบนกองเงินกองทอง พวกอนุภรรยา พวกประกอบอาชีพบำเรอความสุข เหล่าขุนนางผู้ใหญ่ ตลอดจนสัตว์จตุบาท สัตว์บกสัตว์น้ำ ต่างจะต้องประสบความวิบัติด้วยกันทั้งสิ้น
- คราสเกิดในส่วนที่ 6 (14.34 น. 16.17 น. หรือ 02.34 น. 04.17 น.)
สตรีเพศ ตลอดจนสัตว์เพศเมียทุกชนิด จะได้รับความลำบากเดือดร้อนจากการแพร่พันธุ์ เช่น แท้งลูก การคลอดก่อนกำหนด การคลอดบุตรยาก ฯลฯ พวกชนชั้นต่ำจะได้รับความเดือดร้อนมากเป็นพิเศษ
- คราสเกิดในส่วนที่ 7 (16.17 น. 18.00 น. หรือ 04.17 น. 06.00 น.)
พวกประกอบอาชีพทุจริต เช่น พวกโจร ผู้ค้าสิ่งผิดกฏหมาย พวกประกอบอาชีพทางการพนัน รวมทั้งพวกอาชญากรรมต่างๆ ตลอดจนประชาชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ตามเขตชายแดนของประเทศ จะประสบความวิบัติอย่างร้ายแรง

คราสที่ปรากฏในแต่ละราศี
คราสในราศีเมษ พวกอาชีพพรานล่าสัตว์ นักรบ ช่าง ผู้ที่ใช้ไฟในการประกอบอาชีพ จะประสบวิบัติ
คราสในราศีพฤษภ พวกปศุสัตว์ ตลอดจนเจ้าของปศุสัตว์ทั้งหลาย รวมถึงผู้ที่มีตำแหน่งใหญ่โตในบ้านเมือง จะประสบความวิบัติ
คราสในราศีเมถุน พวกสตรีชั้นสูง ผู้ที่มีตำแหน่งใหญ่โตดูเข้มแข็ง พวกศิลปิน จะประสบความวิบัติ
คราสในราศีกรกฏ พวกเลี้ยงวัว พวกนักมวย นักต่อสู้ เมืองหรือเผ่าที่ไม่เข้มแข็ง และ พวกพืชพันธุ์ธัญญาหารจะได้รับความวิบัติ
คราสในราศีสิงห์ พวกอาชีพฆ่าสัตว์ นักรบ ผู้ที่เรืองอำนาจอยู่ในขณะนั้น ผู้นำต่างๆ พวกท่องเที่ยวนิยมภัย จะประสบความวิบัติ
คราสในราศีกันย์ พวกประกอบอาชีพกสิกรรม ชาวนา นักประพันธ์ นักดนตรี จะประสบความวิบัติ
คราสในราศีตุลย์ พวกพ่อค้า นักธุรกิจ พวกผู้ดีมีสกุล จะประสบความวิบัติ
คราสในราศีพิจิก พวกนักรบที่นิยมใช้อาวุธอาบยาพิษ ผู้ค้าหรือนักเคมี ผู้ค้ายาปราบศัตรูพืช จะประสบความวิบัติ
คราสในราศีธนู พวกขุนนางผู้หลักผู้ใหญ่ในแผ่นดิน สัตว์จตุบาทเพื่อใช้เป็นพาหนะ พวกที่ประกอบอาชีพในการต่อสู้ พวกหมอรักษาโรค พวกนักธุรกิจข้ามชาติค้าขายกับต่างประเทศ พวกที่ใช้แรงงานแลกเงิน พวกที่ใช้อาวุธต่างๆ จะประสบความวิบัติ
คราสในราศีมกร พวกสัตว์น้ำจะหายาก พวกครอบครัวของผู้มียศฐาบรรดาศักดิ์ที่สูง พวกชนชั้นต่ำ พวกที่นิยมใช้เวทมนตร์คาถา ร่างทรง พวกที่ใช้สมุนไพรในการรักษาโรค พวกคนชรา พวกใช้อาวุธในการยังชีพ จะประสบความวิบัติ
คราสในราศีกุมภ์ คนที่อาศัยทางทิศตะวันตกจากเมืองหลวง พวกที่ต้องรับผิดชอบกิจการสำคัญ พวกมิจฉาชีพ พวกผู้ดีมีสกุลต่างๆ จะประสบความวิบัติ
คราสในราศีมีน วัตถุที่ได้จากแม่น้ำ หรือ ทะเลจะขาดแคลน พวกที่อยู่ในป่าลึก พวกปราชญ์บัณฑิตสาขาต่างๆ พวกประกอบอาชีพที่เกี่ยวกับน้ำ พวกที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ พวกที่ค้าขายวัตถุที่ได้มาจากน้ำ จะประสบความวิบัติ

สีของพระอาทิตย์ หรือ พระจันทร์ ในขณะเกิดคราส
คราสมีสีค่อนข้างขาวนวล จะเป็นนิมิตที่ดี ประชาชนจะร่มเย็นเป็นสุข ปราศจากโรคระบาด บ้านเมืองจะรุ่งเรืองทางโลกีย์ แต่พวกนักบวชจะเดือดร้อนด้วยประการต่างๆ
คราสมีสีแดงดั่งเปลวไฟ ประชาชน และ บ้านเมืองจะประสบกับอัคคีภัยอย่างใหญ่หลวง พวกที่ทำอาชีพเกี่ยวกับการใช้ไฟจะวิบัติ สรุปคือจะมีภัยอันเกิดจากไฟ
คราสมีสีเขียวคล้ำดุจสีของใบไม้ จะเกิดโรคระบาดอันนำมาซึ่งความตายอย่างร้ายแรง ผู้คนจะเจ็บป่วยล้มตายเป็นจำนวนมาก พืชพันธุ์ธัญญาหารจะเสียหาย ฝนฟ้าจะตกมากเกินไปจนเกิดอุทกภัย
คราสมีสีค่อนข้างออกสีน้ำตาล สัตว์ที่มีฝีเท้าเร็วจะเกิดโรคระบาดล้มตาย ชาวป่าชาวเขาจะประสบกับโรคระบาดและการขาดแคลนอาหาร
คราสมีสีอำพันดั่งพระอาทิตย์แรกขึ้น จะเกิดยุคข้าวยากหมากแพง ฝนฟ้าจะตกน้อยไม่ตกต้องตามฤดูกาล พื้นดินจะแห้งแล้งขาดน้ำ
คราสมีสีค่อนข้างเทา เป็นศุภนิมิตที่ดีมาก บ้านเมืองจะอยู่เย็นเป็นสุข ผู้คนมีศีลธรรม ฝนตกต้องตามฤดูกาลแต่จะค่อนข้างแห้งแล้งสักเล็กน้อย
คราสมีสีแดงคล้ำ, เหลืองคล้ำ หรือ ค่อนข้างเหลือง ในปีนั้นน้ำจะน้อย ประชาชนจะขาดแคลนอาหารอย่างหนัก
คราสมีสีดำคล้ำ พวกชาวไร่ชาวนา ชนชั้นต่ำ พวกใช้แรงงานขั้นต่ำ จะเกิดโรคระบาดตายเป็นจำนวนมาก
คราสมีสีคล้ายบุษราคัม (สีเหลืองปนเขียว) พวกพ่อค้านักธุรกิจจะประสบความเสียหายอย่างหนัก แต่บ้านเมืองจะร่มเย็นเป็นสุข
คราสมีสีดั่งเปลวไฟลุกโชน บ้านเมืองจะประสบกับอัคคีภัยครั้งใหญ่
คราสมีสีดุจทองคำ บ้านเมืองจะเกิดสงครามในระยะเวลาอันใกล้
คราสมีสีเขียวอมดำ หรือ สีเขียวปนเหลือง จะเกิดโรคระบาดทั้งกับมนุษย์และสัตว์ทำให้เจ็บป่วยล้มตายกันเป็นจำนวนมาก
คราสมีสีชมพู หรือ สีปูนแห้ง จะเกิดฟ้าผ่าขึ้นอย่างมากมาย ผู้คนจะโดนฟ้าผ่าตายเป็นจำนวนมาก หรือ ได้รับผลกระทบจากภัยฟ้าผ่าเป็นจำนวนมาก
คราสมีสีแดงคล้ำจนเกือบดำ ผู้ครองแค้วนครองประเทศจะวิบัติ และ สูญเสียอำนาจ บ้านเมืองจะเกิดความแห้งแล้งอดอยาก
คราสมีเหมือนตะวันยอแสง หรือ เป็นสีรุ้ง จะเกิดมหาสงครามไปทั่วทุกดินแดน หรือ ทั่วโลก

ผลของดาวที่เข้าร่วมขณะเกิดคราส
ดาวอังคารเข้าร่วมขณะเกิดคราส จะเกิดสงครามใหญ่ จะเกิดอัคคีภัย โจรผู้ร้ายจะชุกชุม การใช้อาวุธประหัตประหารกันจะมีมากขึ้น ผู้ปกครองประเทศจะเกิดความหยิ่งยะโสบ้าอำนาจ จะประสบความวิบัติ
ดาวพุธเข้าร่วมขณะเกิดคราส อาหารจำพวกนม เนย น้ำผึ้ง น้ำตาล น้ำมัน จะขาดแคลนและมีราคาสูงขึ้น ผู้ปกครองประเทศต่างๆ สตรีเพศ พวกนักรบ เด็กผู้ชาย พวกบัณฑิต จะประสบความวิบัติ
ดาวพฤหัสเข้าร่วมขณะเกิดคราส ผู้คงแก่เรียน พวกบัณฑิต ผู้ปกครองประเทศที่มีศีลธรรม พวกขุนนางตงฉิน เหล่าช้างม้าวัวควาย จะได้รับความวิบัติ
ดาวศุกร์เข้าร่วมขณะเกิดคราส พืชพันธุ์ธัญญาหารจะถูกทำลายพินาศสิ้น บ้านเมืองจะประสบภัยใหญ่ๆ หลายประการซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน พวกสตรี พวกข้าราชการฝ่ายหญิง จะวิบัติ
ดาวเสาร์เข้าร่วมขณะเกิดคราส จะเกิดฝนแล้ง น้ำท่าจะขาดแคลน ข้าวจะยากหมากจะแพง โจรผู้ร้ายจะชุกชุม พวกวัตถุที่ได้จากดิน อาทิ แร่ธาตุต่างๆ จะเสียหายย่อยยับ
ในกรณีที่มีดาวเคราะห์นั้นๆ ได้เข้าร่วมในขณะเกิดคราส การบรรเทาความวิบัติใดๆ ของดาวเคราะห์นั้นที่จะเกิดขึ้นจากคราสได้ ถ้าในขณะที่เกิดคราสดาวพฤหัสไม่เข้าร่วมในจุดคราส และให้แสงถึงจุดคราสที่เกิดขึ้นนั้น เปรียบดั่งน้ำที่สามารถดับไฟลงได้
(จาก หนังสือปฏิทินคราส ๒๕๐+๘๙ปี ของ พ.อ.ประจวบ -ปรเมศวร์ วัชรปาณ)
อ้างอิงจากบทความรู้ของผู้ใช้นามตั้งกระทู้ว่า “ฮินดี” เมื่อปี 2551 มิใช่งานของผู้เขียน เห็นว่าความรู้นี้มีประโยชน์สาระจึงขอยกนำมาไว้ให้ผู้สนใจได้อ่านศึกษาทำความเข้าใจ

23 มีนาคม 2559

กฎการเกิดอุปราคา


กฎการเกิดอุปราคา


กฎสำคัญส่วนใหญ่ของการเกิดอุปราคาหรือคราส มีดังนี้

1.จันทรุปราคาเกิดได้ในวันจันทร์เพ็ญ สุริยุปราคาเกิดได้ในวันจันทร์ดับ ไม่มีอุปราคาปรากฏทุกๆเดือน

2.สุริยุปราคาเกิดได้อย่างน้อยสองครั้งทุกๆปีและไม่เกินห้าครั้ง จันทรุปราคามีมาสุดสามครั้งในหนึ่งปี จำนวนสูงสุดของอุปราคา(รวมสุริยุปราคาและจันทรุปราคา)คือเจ็ดครั้ง

3.อุปราคามักเกิดเป็นคู่หรือสามครั้งติดต่อกันในแบบ : สุริยุปราคา-จันทรุปราคา-สุริยุปราคา การเกิดจันทรุปราคามักเกิดสุริยุปราคาไม่นำหน้าก็ตามหลังเสมอ(ระยะเวลาประมาณ 14 วัน)

4.ลักษณะการเกิดอุปราคามีวัฏจักรเป็น 18 ปี 11 วัน และอีก 8 ชั่วโมง เราเรียกวัฏจักรนี้ว่า “ซารอส” (Saros cycle) ลักษณะของการเกิดอุปราคาไม่จำเป็นต้องซ้ำกัน (บ้างอ่าน “แซรอส”)

5.ในขณะที่เกิดอุปราคาเต็มที่ ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งตรงกันข้ามหรือตำแหน่งร่วม ถ้ามุมระหว่างเส้นของจุดตัด(line of node) กับดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์มีค่ามากกว่า 12 องศา 15 ลิปดา จันทรุปราคาเต็มดวงไม่มีโอกาสปรากฏได้ แต้ถ้ามุมนี้มีค่าน้อยกว่า 9 องศา 30 ลิปดา จันทรุปราคาจะต้องปรากฏขึ้น , ถ้ามุมนี้มีค่ามากกว่า 18 องศา 31 ลิปดา สุริยุปราคาไม่สามารถปรากฏได้ แต่ถ้ามุมนี้มีค่าน้อยกว่า 15 องศา 31 ลิปดา สุริยุปราคาต้องปรากฏขึ้น

6.ในการเกิดจันทรุปราคาครั้งหนึ่ง ระยะเวลาการเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงยาวนานที่สุดเป็นเวลา 1 ชั่วโมง 40 นาที และระยะเวลาของเงามัวจันทรุปราคาบางส่วน-จันทรุปราคาเต็มดวง-จันทรุปราคาบางส่วนรวมกันมากที่สุด 3 ชั่วโมง 40 นาที , ระยะเวลายาวนานที่สุดของสุริยุปราคาเต็มดวงที่เส้นศูนย์สูตรคือ 7 นาที 40 วินาที และสุริยุปราคาวงแหวนสามารถเกิดได้ไม่เกิน 12 นาที 24 วินาที

 

ความรู้จาก : Practical Astronomy with your Calculator or Spreadsheet โดย Peter Duffett-Smith and Jonathan Zwat



ธีรพร เพชรกำแพง
23 มีนาคม 2559

14 มีนาคม 2559

ทัศนจักรสัมพันธ์ : จันทร์

ทัศนจักรสัมพันธ์ : จันทร์
จันทร์ กุม อาทิตย์
เป็นช่วงเวลาที่มีอุปสรรคในการที่จะนำไปสู่ผลที่คาดหวัง ความสนับสนุน/ร่วมมือในช่วงนี้มีน้อย ควรที่จะฟังเสียงคนรอบข้าง มีความต้องการในเรื่องความร่วมมือ การสื่อสารที่เปิดเผย การประคับประคองสถานการณ์ให้ดำเนินไปได้
จันทร์ เล็ง อาทิตย์
การได้รับความมุ่งสนใจจากบุคคลที่อยู่ร่วมในสภาพแวดล้อมใกล้ตัวหรือบุคคลผู้มีอายุน้อยกว่า ที่จะต้องสร้างความเข้าใจและปรับทัศนคติให้มีความถูกต้องตรงกันในแง่ของการสื่อสาร รวมถึงการปรับตัวแบบยืดหยุ่นในการอยู่ร่วมกัน
จันทร์ จตุโกณ อาทิตย์
รู้สึกขาดความราบรื่นในการแสดงออกหรือการกระทำทางกายภาพ สถานการณ์มีความติดขัดหน่วงเนิ่นล่าช้า การไม่ได้รับความร่วมมือ มีเรื่องขุ่นข้องหมองใจกับบุคคลใกล้ตัวหรือผู้มีอายุน้อยกว่า บุคคล/สิ่งแวดล้อมไม่เป็นใจทำให้รู้สึกเครียด
จันทร์ โยค อาทิตย์
ช่วงเวลาอันดีที่จะได้ร่วมทำกิจกรรมต่างๆกับบุคคลภายในครอบครัว การได้สัมผัสความรู้สึกของคนรอบข้าง เป็นการกระชับความสัมพันธ์และความกลมเกลียวในครอบครัวหรือกลุ่มคณะ
จันทร์ ตรีโกณ อาทิตย์
ช่วงเวลาอันดีที่จะได้ร่วมทำกิจกรรมต่างๆกับบุคคลภายในครอบครัว การได้สัมผัสความรู้สึกของคนรอบข้าง เป็นการกระชับความสัมพันธ์และความกลมเกลียวในครอบครัวหรือกลุ่มคณะ

จันทร์ กุม จันทร์
การได้รับความร่วมมือสนับสนุนเป็นอย่างดีจากบุคคลรอบข้าง อารมณ์ความรู้สึกภายในและการแสดงออกที่มีความสมดุล มีความเป็นตัวของตัวเอง มีความคล่องตัวในเรื่องการงาน การเงินมีความราบรื่นพอเพียง การแสดงออกที่ตรงกับจิตใจหรือความรู้สึกนึกคิด
จันทร์ เล็ง จันทร์
การมีความคิดเห็นที่แตกต่างกับคนอื่น การกระทบกระทั่งทางด้านอารมณ์ ความรู้สึกไม่ยินดีไม่พอใจ การงานขอดความร่วมมือทำให้ความราบรื่นลดลง การเงินมีความติดขัดบ้าง ความขัดแย้งกับคนรอบข้าง
จันทร์ จตุโกณ จันทร์
บางคนสร้างความต่อต้านทางด้านอารมณ์ทางด้านลบให้เกิดขึ้น การเข้ามาวุ่นวายหรือรบกวนจากบุคคลภายนอก การงาน/การเงินมีความติดขัดล่าช้า การถูกจำกัด ปิดกั้น และการโต้แย้ง
จันทร์ โยค จันทร์
มีทัศนวิสัยและความเข้าใจในสถานการณ์ต่างๆอย่างแจ่มแจ้ง ทำให้ดำเนินเรื่องราวต่างๆไปในทางที่ถูกต้องชัดเจน การได้รับความร่วมมือสนับสนุนส่งเสริมเป็นอย่างดี การเงิน/การงานมีความราบรื่น มิตรภาพสัมพันธ์ส่งผลดี
จันทร์ ตรีโกณ จันทร์
มีทัศนวิสัยและความเข้าใจในสถานการณ์ต่างๆอย่างแจ่มแจ้ง ทำให้ดำเนินเรื่องราวต่างๆไปในทางที่ถูกต้องชัดเจน การได้รับความร่วมมือสนับสนุนส่งเสริมเป็นอย่างดี การเงิน/การงานมีความราบรื่น มิตรภาพสัมพันธ์ส่งผลดี

จันทร์ กุม อังคาร
การได้รับความสนับสนุนที่ดีจากคนรอบข้าง สถานการณ์ที่ต้องควบคุมดำเนินการด้วยตนเอง การเริ่มต้นเรื่องราวหรือการกระทำริเริ่มที่ดี มีสุขภาพที่ดี ความรู้สึกเป็นไปตามธรรมชาติ
จันทร์ เล็ง อังคาร
สถานการณ์ที่ทำให้เกิดความขุ่นเคือง ไม่สบายใจ ความขัดข้องทางอารมณ์ ความรู้สึก ที่ส่อแววถึงผลเสียทางด้านการกระทำ มีบุคคลที่กระตุ้นทำให้เกิดอุปสรรคหรือโทสะ เป็นช่วงที่ทำให้เกิดความยุ่งยากในการควบคุมอารมณ์ของตนเอง
จันทร์ จตุโกณ อังคาร
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากตัวบุคคล และอุปสรรคที่เป็นปัญหาจากสภาวะแวดล้อม กระตุ้นอารมณ์ด้านลบ การปรับตัวได้ยากกับสถานการณ์ที่ต้องการความสงบและใจเย็น สิ่งเร้าทางด้านโทสะ
จันทร์ โยค อังคาร
การตระหนักรู้คุณค่าในการประกอบกิจใดๆให้มีความสำเร็จได้ด้วยตนเอง ความรับผิดชอบในหน้าที่และสิ่งที่มีความมุ่งมั่นกระทำ มีคนเข้าใจและให้ความร่วมมือ/ช่วยเหลือ/อุปถัมภ์
จันทร์ ตรีโกณ อังคาร
การตระหนักรู้คุณค่าในการประกอบกิจใดๆให้มีความสำเร็จได้ด้วยตนเอง ความรับผิดชอบในหน้าที่และสิ่งที่มีความมุ่งมั่นกระทำ มีคนเข้าใจและให้ความร่วมมือ/ช่วยเหลือ/อุปถัมภ์



จันทร์ กุม พุธ
เป็นช่วงเวลาที่ดีในการมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ การพักผ่อนหย่อนใจ อ่านตำราทบทวนความรู้ งานอดิเรก การคิดค้นหาความรู้ใหม่ๆ ความสามารถทางด้านการเจรจา ผลดีทางการติดต่อสื่อสาร คนรอบข้างเข้าใจในสิ่งที่ตนเป็น/กระทำอยู่
จันทร์ เล็ง พุธ
บุคคลไม่ยอมรับหรือเห็นด้วยกับสิ่งที่สื่อสารแสดงออก ความคิด การกระทำ คำพูด มักเกิดมีปัญหาในช่วงนี้ เป็นเรื่องยากที่จะสื่อสารทำความเข้าใจกับคนอื่น ขาดการสนับสนุนหรือการร่วมมือที่ดี
จันทร์ จตุโกณ พุธ
บุคคลที่เกี่ยวข้องกับกิจที่กระทำมักก่อให้เกิดความยุ่งยากลำบากใจและสร้างภาวะกดดันในการดำเนินเรื่องราวต่างๆ รู้สึกว่าตนเองขาดความรอบคอบ ลึกซึ้ง และเอาใจใส่ในกิจที่ทำ ทำให้เกิดความผิดพลาดไม่เป็นไปตามประสงค์ การสื่อสาร ติดต่อ เจรจาต่อรอง ไม่เป็นผลดี ไม่ได้รับความร่วมมือสนับสนุนตามต้องการ
จันทร์ โยค พุธ
เป็นช่วงโอกาสที่ดีในการใช้วาทศิลป์ให้เป็นประโยชน์ เด่นดีในด้านการพูด การเจรจาสื่อสาร/ต่อรอง ในสถานการณ์ขณะนี้จะได้รับการตอบสนองต่อการร้องขอ ความร่วมมือ อุปถัมภ์ จากบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี
จันทร์ ตรีโกณ พุธ
เป็นช่วงโอกาสที่ดีในการใช้วาทศิลป์ให้เป็นประโยชน์ เด่นดีในด้านการพูด การเจรจาสื่อสาร/ต่อรอง ในสถานการณ์ขณะนี้จะได้รับการตอบสนองต่อการร้องขอ ความร่วมมือ อุปถัมภ์ จากบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี

จันทร์ กุม พฤหัสบดี
การได้รับคำแนะนำช่วยเหลือจากผู้มีอาวุโสกว่า การได้ร่วมงานกับบุคคลที่มีอายุน้อยกว่า ที่จะต้องร่วมกันคิด กระทำ และตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มีความเข้าใจถึงวิธีการและมีแผนการรองรับเหตุการณ์สำคัญไว้พร้อมแล้ว
จันทร์ เล็ง พฤหัสบดี
ไม่ใช่จังหวะเวลาหรือโอกาสที่เหมาะสมในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญต่างๆ การได้รับแรงกดดันจากคนอื่น ความไม่ราบรื่นที่จะต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เป็นตามแผนที่วางไว้ การทำหน้าที่ด้วยความยากลำบากขึ้น
จันทร์ จตุโกณ พฤหัสบดี
เป็นช่วงเวลาที่อาจจะทำตัวไม่ค่อยถูก ปรับตัวเข้ากับเรื่องราวสถานการณ์ต่างๆค่อนข้างยาก การตัดสินใจผิดพลาด โดยเฉพาะสถานการณ์ที่ต้องเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่น อาจจะไม่ได้รับความร่วมมือสนับสนุนใดๆ การกระตุ้นเตือนให้ทราบถึงเวลาที่ยากลำบากในการกระทำกิจทั้งส่วนตัวและแบบมีส่วนร่วมกับบุคคลอื่น
จันทร์ โยค พฤหัสบดี
ช่วงเวลาที่ดีในการทำงานร่วมกับผู้อื่น การทำงานเป็นกลุ่มเป็นทีม การได้รับความร่วมมือหรืออุปถัมภ์เฉพาะเจาะจงมาที่ตนโดยตรง ความสามารถในการบริหารจัดการเรื่องต่างได้ดี ความมุ่งมั่นสูง
จันทร์ ตรีโกณ พฤหัสบดี
ช่วงเวลาที่ดีในการทำงานร่วมกับผู้อื่น การทำงานเป็นกลุ่มเป็นทีม การได้รับความร่วมมือหรืออุปถัมภ์เฉพาะเจาะจงมาที่ตนโดยตรง ความสามารถในการบริหารจัดการเรื่องต่างได้ดี ความมุ่งมั่นสูง 

จันทร์ กุม ศุกร์
แรงกระตุ้นที่ทำให้ได้รับความราบรื่นในชีวิต สัมพันธภาพที่ดีต่อคนรอบข้าง การสานสัมพันธ์คบหา การสร้างมูลค่าและความสำคัญให้กับสิ่งต่างๆ ระวังเรื่องความเพลิดเพลินจนทำให้ขาดความรอบคอบหรือเกิดความผิดพลาดได้
จันทร์ เล็ง ศุกร์
เกิดปัญหาท้าทายความสามารถในการจัดการเรื่องราวต่างๆ ความสัมพันธ์ที่ดูติดขัดคลุมเครือ ความไม่ชัดเจนและราบรื่นในการดำเนินกิจต่างๆ อุปสรรคทางการเงิน เสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม
จันทร์ จตุโกณ ศุกร์
ชีวิตทางด้านสังคมในช่วงนี้ได้รับแรงกระตุ้นในด้านลบ ความรู้สึกที่แข็งกร้าว ต่อต้าน ไม่ยินดี ขาดความราบรื่นในการร่วมมือต่างๆ การตัดสินใจมีโอกาสผิดพลาด ความไม่เป็นที่พึงพอใจและถูกจับตามองในการกระทำ
จันทร์ โยค ศุกร์
การดำเนินสถานการณ์ต่างๆเป็นไปด้วยความราบรื่น มีความคุ้มค่าในกิจที่กระทำ อารมณ์แจ่มใส การได้รับความร่วมมือ อุปถัมภ์ ช่วยเหลือ จากบุคคลที่มีมิตรภาพอันดีต่อกัน มีเสน่ห์ เป็นที่นิยม การได้รับของถูกใจ
จันทร์ ตรีโกณ ศุกร์
การดำเนินสถานการณ์ต่างๆเป็นไปด้วยความราบรื่น มีความคุ้มค่าในกิจที่กระทำ อารมณ์แจ่มใส การได้รับความร่วมมือ อุปถัมภ์ ช่วยเหลือ จากบุคคลที่มีมิตรภาพอันดีต่อกัน มีเสน่ห์ เป็นที่นิยม การได้รับของถูกใจ 

จันทร์ กุม เสาร์
เป็นช่วงเวลาที่ควรรวบรวมและจัดระเบียบกิจการ/การกระทำให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นไปในชีวิต การเสียเงินไปกับค่าใช้จ่ายในเรื่องที่มีความจำเป็น ความคิดหัวเก่า อนุรักษ์นิยม การพลัดพราก แยกจาก เฉยชา
จันทร์ เล็ง เสาร์
ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากบุคคลหรือบสังคมใกล้ตัว ภาระความรับผิดชอบที่มากกว่าปกติ ความวุ่นวายสับสนจนทำให้ลืมความสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลใกล้ตัว การเฝ้าระวังสังเกตจับผิดเกี่ยวกับเรื่องที่จะกระทำ
จันทร์ จตุโกณ เสาร์
ความรู้สึกที่อยากจะผ่านช่วงเวลานี้ไป การกระทำกิจต่างๆที่ถูกกำหนดกฎเกณฑ์ ข้อจำกัด อุปสรรค และที่สำคัญคือความเนิ่นช้าด้านเวลา ความต้องการแยกตนเองออกจากสังคม การอยู่อย่างสันโดษ
จันทร์ โยค เสาร์
การกระทำกิจต่างๆเป็นไปด้วยความราบรื่น จากการได้รับความร่วมมือจากผู้มีมิตรสัมพันธ์ที่ดี มีการจัดระเบียบแบบแผน ระมัดระวัง และรอบคอบในการทำงาน ความสงบเงียบขรึมทำให้มีท่วงท่าเป็นที่เชื่อถือมากยิ่งขึ้น
จันทร์ ตรีโกณ เสาร์
การกระทำกิจต่างๆเป็นไปด้วยความราบรื่น จากการได้รับความร่วมมือจากผู้มีมิตรสัมพันธ์ที่ดี มีการจัดระเบียบแบบแผน ระมัดระวัง และรอบคอบในการทำงาน ความสงบเงียบขรึมทำให้มีท่วงท่าเป็นที่เชื่อถือมากยิ่งขึ้น 

จันทร์ กุม ราหู
ความสามารถในการทำงานทั้งด้านรุกและด้านรับ มีคารมเจรจาวาทศิลป์ดี มีเครดิตดี เป็นที่น่าเชื่อถือ หากตกอยู่ในด้านลบจะหูเบา เชื่อคนง่าย ลุ่มหลง ไร้เหตุผล โมโหร้าย
จันทร์ เล็ง ราหู
การเผชิญหน้าปะทะคารมในด้านลบ อารมณ์รุนแรง การเกิดปัญหาอุปสรรคและความขัดข้อง การแตกหักทางมิตรภาพ สภาพพร่องทางด้านการเงิน ปัญหาภายในครอบครัว การถูกใส่ร้ายป้ายสี
จันทร์ จตุโกณ ราหู
การรอคอยข่าวสารหรือผลในเรื่องของการติดต่อ ความเนิ่นช้าในเรื่องเป้าหมายที่ต้องการ ความขุ่นข้องหมองใจกับมิตรสหายหรือคนใกล้ตัว ภาวะการเงินที่ต้องใช้จ่ายอย่างรอบคอบ
จันทร์ โยค ราหู
การเจรจาที่น่าเชื่อถือ ความราบรื่นในการติดต่อสื่อสาร อารมณ์ตั้งมั่นมีความสนใจลงไปในเรื่องเดียว มิตภาพความสัมพันธ์ส่งผลในด้านดี กิจกรรมที่ได้รับความร่วมมือสนับสนุนส่งเสริม
จันทร์ ตรีโกณ ราหู
การเจรจาที่น่าเชื่อถือ ความราบรื่นในการติดต่อสื่อสาร อารมณ์ตั้งมั่นมีความสนใจลงไปในเรื่องเดียว มิตภาพความสัมพันธ์ส่งผลในด้านดี กิจกรรมที่ได้รับความร่วมมือสนับสนุนส่งเสริม 

จันทร์ กุม เกตุ
มีความสามารถในการผสมผสานเรื่องราวที่มีความแตกต่างกันให้ลงตัว มีความคิดแปลกๆนำมาประยุกต์ใช้ได้ผลดี รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า มีพฤติกรรมที่ต่างไปจากสังคมรอบตัว มีจุดเด่นพิเศษที่ไม่เหมือนใคร
จันทร์ เล็ง เกตุ
อารมณ์ความคิดดุเดือดพลุ่งพล่าน การปะทะคารมด้วยเรื่องไร้สาระ การกระทำตัวที่ไร้เหตุผล ภาวะชีวิตขึ้นๆลงๆ เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ การถูกกล่าวหา โกหก หลอกลวง
จันทร์ จตุโกณ เกตุ
การอยู่ในภาวะอารมณ์ตึงเครียด ความสุ่มเสี่ยงต่อการตัดสินใจที่ถูกต้อง ปัญหาอุปสรรคความขลุกขลักที่ทำให้เป้าหมายเนิ่นช้าออกไป ภาวะการเงินอัตคัด ความคิดฟุ้งซ่าน เกิดเหตุยุ่งๆรำคาญใจ
จันทร์ โยค เกตุ
มีผู้หลักผู้ใหญ่หรือบุคคลคอยให้ความช่วยเหลือ มีญาณหยั่งรู้ คาดการณ์ได้ถูกต้องแม่นยำ ความสามารถในการเรียนรู้ที่ไว มีความชำนาญในวิทยาการแปลกๆไม่เหมือนใคร มีสมาธิเอาใจใส่ในเรื่องที่สนใจอย่างมาก
จันทร์ ตรีโกณ เกตุ
มีผู้หลักผู้ใหญ่หรือบุคคลคอยให้ความช่วยเหลือ มีญาณหยั่งรู้ คาดการณ์ได้ถูกต้องแม่นยำ ความสามารถในการเรียนรู้ที่ไว มีความชำนาญในวิทยาการแปลกๆไม่เหมือนใคร มีสมาธิเอาใจใส่ในเรื่องที่สนใจอย่างมาก 

จันทร์ กุม มฤตยู
มีโอกาสได้แสดงทักษะความรู้ความสามารถพิเศษเฉพาะตน โดยเฉพาะปฏิภาณไหวพริบในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า มีความเข้าใจรายละเอียดอย่างลึกซึ้ง ความคิดก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยและนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างดี รักความเป็นอิสระ ไม่ชอบสิ่งที่ซ้ำซากจำเจหรือซ้ำรอยคนอื่น
จันทร์ เล็ง มฤตยู
บุคคลรอบข้างสร้างความท้าทายในทัศนคติที่ไม่ลงรอยกัน สถานการณ์บางอย่างทำให้เกิดความขัดแย้งและหนทางตัน เป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะแก่การริเริ่มใดๆ สภาพแวดล้อมไม่เกื้อหนุนกับการกระทำ การงานโดยทั่วไปให้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจ
จันทร์ จตุโกณ มฤตยู
มักมีความขัดแย้งกับบุคคลอื่นในที่ประชุมชน ทัศนคติไม่ตรงกับบุคคลหรือกลุ่มคน ความกดดันระหว่างระเบียบปฏิบัติและความต้องการอิสระในการทำงาน ภาวะแวดล้อมไม่เหมาะสมอาจผลักดันให้เกิดความผิดพลาดได้
จันทร์ โยค มฤตยู
ทุกอย่างเป็นใจในการนำเอาทักษะความชำนาญเฉพาะด้านของตนออกมาใช้ มีคนให้ความสำคัญและคอยให้ความช่วยเหลือสนับสนุนให้การกระทำนั้นมีความราบรื่น มีการค้นพบและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ
จันทร์ ตรีโกณ มฤตยู
ทุกอย่างเป็นใจในการนำเอาทักษะความชำนาญเฉพาะด้านของตนออกมาใช้ มีคนให้ความสำคัญและคอยให้ความช่วยเหลือสนับสนุนให้การกระทำนั้นมีความราบรื่น มีการค้นพบและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ 

จันทร์ กุม เนปจูน
การชี้นำด้วยคำพูด แนวความคิด การแลกเปลี่ยนทัศนคติ จะนำไปสู่หนทางออกที่ดีของกิจกรรมต่างๆ เป็นช่วงที่เด่นดีในด้านการคิดการเขียนการประพันธ์ ศิลปะ การถ่ายทอดอารมณ์ความคิดที่มาจากมโนทัศน์หรือจินตนาการส่วนตัว การหลบเลี่ยงปัญหาด้วยทางออกแบบสุนทรียภาพ
จันทร์ เล็ง เนปจูน
การกระทำในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็นคุณค่า ความคิดที่ถูกมองเพียงว่าเป็นความเพ้อฝันหรือจินตนาการ การถูกท้าทายว่าจะทำในสิ่งที่มุ่งมั่นได้สำเร็จหรือไม่ การถ่ายทอดความคิดในอุดมคติให้ออกมาเป็นรูปธรรมด้วยความยากลำบาก
จันทร์ จตุโกณ เนปจูน
การกระทำที่ไม่เหมาะสมอารมณ์หมาย ความสำเร็จถูกหน่วงออกไปให้อืดอาดล่าช้า มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในการปฏิบัติหน้าที่ การกระทำที่ติดขัด ขาดการร่วมมือสนับสนุน สูญเสียความมุ่งมั่น เป้าหมาย ความตั้งใจ
จันทร์ โยค เนปจูน
ช่วงเวลาที่เหมาะสมทางด้านความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ การคาดการณ์เพื่อหวังผลในเรื่องต่างๆ ความคิดถูกถ่ายทอดแสดงออกเป็นที่สนใจของคนรอบข้าง มีเสน่ห์ดึงดูด เป็นที่ชื่นชอบชื่นชม เป็นที่นิยม
จันทร์ ตรีโกณ เนปจูน
ช่วงเวลาที่เหมาะสมทางด้านความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ การคาดการณ์เพื่อหวังผลในเรื่องต่างๆ ความคิดถูกถ่ายทอดแสดงออกเป็นที่สนใจของคนรอบข้าง มีเสน่ห์ดึงดูด เป็นที่ชื่นชอบชื่นชม เป็นที่นิยม 

จันทร์ กุม พลูโต
การวิเคราะห์เจาะลึก ความคิดอันลึกซึ้ง ความสัมพันธ์ในหมู่คณะนำไปสู่สถานการณ์ที่ดี เป็นไปตามระเบียบหรือลำดับ บุคคลอื่นไม่ค่อยเข้าใจความคิดหรือทัศนคติของตน การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่
จันทร์ เล็ง พลูโต
การเกิดความขัดแย้งกับบุคคลในเรื่องที่ละเอียดอ่อน หรืออาจจะเป็นเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่เป็นชนวนมวลเหตุให้เกิดการปะทะทางอารมณ์ การโต้แย้ง การใช้วาจาที่รุนแรง การสัมผัสถึงอารมณ์ด้านลบ
จันทร์ จตุโกณ พลูโต
ความขัดแย้งในเรื่องต่างๆกับบุคคลรอบตัว สถานการณ์หรือกิจกรรมที่กระทำเกิดอุปสรรค ความผิดพลาดคลาดเคลื่อน ปัญหาที่ทำให้เกิดความหน่วงเนิ่นช้า ความยุ่งยากและความกดดันในการจัดการเรื่องราวต่างๆ การแก้ไขปัญหาไม่ถูกจุด
จันทร์ โยค พลูโต
การได้รับข้อแนะนำหรือคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาส่วนตัว การปรับทัศนคติและอารมณ์ สามารถที่จะเข้าใจและจัดการกับสถานการณ์ที่มีความผันผวนต่างๆได้ สามารถก้าวผ่านจุดวิกฤต
จันทร์ ตรีโกณ พลูโต
การได้รับข้อแนะนำหรือคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาส่วนตัว การปรับทัศนคติและอารมณ์ สามารถที่จะเข้าใจและจัดการกับสถานการณ์ที่มีความผันผวนต่างๆได้ สามารถก้าวผ่านจุดวิกฤต 

จันทร์ กุม ลัคนา
มีการติดต่อสื่อสารหรือการเข้าสังคม การพบปะผู้คน ติดต่อ เจรจา เป็นช่วงเวลาที่มีการกระทำเป็นที่คล่องตัว มีคนไปมาหาสู่ การแสวงหารายได้ทรัพย์สินการเงิน/การงานในหน้าที่ ถือว่ามีความราบรื่นดีในระยะนี้
จันทร์ เล็ง ลัคนา
เรื่องราวต่างๆรัดตัวมากขึ้น ความยุ่งยากวุ่นวายเกี่ยวกับผู้คน ขาดความเอาใจใส่ดูแลคนรอบข้าง ครอบครัว หรือคนที่รัก ภาวะรายจ่ายที่มากขึ้น เป็นเป้าสายตาหรือเป็นที่เพ่งเล็งทางการงาน การทำหน้าที่ในบริบทแวดล้อมจะดีกว่าการทำเรื่องส่วนตัว
จันทร์ จตุโกณ ลัคนา
เป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมในเรื่องที่ต้องเกี่ยวข้องกับผู้คน ไม่มีใครรับฟังความคิดเห็น การโต้แย้งกัน การเงิน/การงานที่ติดขาดเนิ่นช้าออกไป การขาดความราบรื่นคล่องตัวเพราะถูกจำกัด กดดัน และปิดกั้น
จันทร์ โยค ลัคนา
การเข้าสังคมหรือการคบหาสมาคมส่งผลดี การติดต่อสื่อสารใดๆมีคนยอมรับ เข้าใจ และให้ความสนใจ ได้รับความร่วมมือช่วยเหลือ สภาพคล่องทางการเงิน และอยู่ในสถานะที่คล่องตัวทางการงาน
จันทร์ ตรีโกณ ลัคนา
การเข้าสังคมหรือการคบหาสมาคมส่งผลดี การติดต่อสื่อสารใดๆมีคนยอมรับ เข้าใจ และให้ความสนใจ ได้รับความร่วมมือช่วยเหลือ สภาพคล่องทางการเงิน และอยู่ในสถานะที่คล่องตัวทางการงาน 

จันทร์ กุม มัธยลัคน์
ความสามารถในการบริหารจัดการในเรื่องหน้าที่การงานและสถานการณ์ต่างๆได้เป็นอย่างดี มีการใช้ทักษะปฏิบัติทำให้บรรลุผลสำเร็จ การทำงานร่วมกับผู้อื่น การปรับตัวเข้ากับสังคมได้ดี รู้จักแสวงหาความมั่นคงให้ตนเอง
จันทร์ เล็ง มัธยลัคน์
ขาดความคล่องตัวในเรื่องอาชีพการงาน การตัดสินใจที่ไม่ดีอาจก่อให้เกิดความผิดพลาดขึ้นได้ การต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น การพักสมองจากสภาพปัญหาที่ต้องเผชิญ ภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวมีมากขึ้น
จันทร์ จตุโกณ มัธยลัคน์
เป็นช่วงเวลาที่เกิดปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่การงานและครอบครัว ความตึงเครียดกดดันในภาวะการตัดสินใจ การปฏิบัติงานไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ การรอคอยเวลาความสำเร็จที่เนิ่นช้าออกไป การถึงเป้าหมายล่าช้า
จันทร์ โยค มัธยลัคน์
มีความสามารถในการตัดสินใจและลงมือปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี การทำงานเป็นกลุ่มคณะทำให้บรรลุผลตามเป้าหมาย ปฏิภาณในการบริหารจัดการเรื่องราวต่างๆให้ราบรื่น ความชัดเจนในการทำหน้าที่ทำให้มีบุคคลสนับสนุน/ให้ความร่วมมือ
จันทร์ ตรีโกณ มัธยลัคน์
มีความสามารถในการตัดสินใจและลงมือปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี การทำงานเป็นกลุ่มคณะทำให้บรรลุผลตามเป้าหมาย ปฏิภาณในการบริหารจัดการเรื่องราวต่างๆให้ราบรื่น ความชัดเจนในการทำหน้าที่ทำให้มีบุคคลสนับสนุน/ให้ความร่วมมือ


ธีรพร  บุญวงษ์(เพชรกำแพง)
เผยแพร่เป็นตัวอย่างจากการศึกษาสังเคราะห์ ก่อนที่จะจัดทำเป็นรูปเล่มต่อไป