อัตตะ
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ เจ้าชะตามักทำอะไรแล้วเกิดความเสียหาย
หรือชอบทำตัวตกต่ำไม่คาดฝัน
อัตตะ
เป็น อริ ความหมายคือ เจ้าชะตาจะพลัดพรากจากพ่อแม่ พลัดถิ่นพลัดที่
ชอบทำตัวเองให้ลำบาก หรือชอบแกว่งเท้าหาเสี้ยน
อัตตะ
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ เจ้าชะตาเกิดมาสุขสบาย บิดามารดามีทรัพย์สิน
เกิดมาในครอบครัวมีฐานะ
อัตตะ
เป็น มรณะ ความหมายคือ เจ้าชะตาเป็นคนขี้โรค เลี้ยงยาก
และตัวเองต้องไปอยู่ถิ่นอื่น ไม่ได้อยู่บ้านเกิด
อัตตะ
เป็น อธิบดี ความหมายคือ ความเป็นอยู่ของพ่อแม่สูงส่ง มีหน้ามีตามีชื่อเสียง
ส่วนตัวของเจ้าชะตาก็มีความสุขและสูงส่งไปด้วยเช่นกัน มีสิทธิ์ไปอยู่แดนไกล
อัตตะ
เป็น ราชา ความหมายคือ เจ้าชะตาเกิดมาสบาย แต่เป็นคนขี้เกียจหน่อย ชอบสำเริงสำราญ
หนักไม่เอาเบาไม่สู้
อัตตะ
เป็น ธงไชย ความหมายคือ ชอบทำตัวกล้าแข็ง เอาแต่ใจตนเอง อยู่กับใครไม่ได้นาน
ชอบทำตัวเด่น และอวดรู้
หินะ
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ ความชั่วร้ายทั้งปวงจะเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน
หินะ
เป็น อริ ความหมายคือ สิ่งชั่วร้ายต่างๆจะสร้างความลำบากยุ่งยากให้กับเจ้าชะตา
หินะ
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ ให้ระวังทรัพย์สินให้มาก จะสูญเสียอยู่เรื่อยๆ
หินะ
เป็น มรณะ ความหมายคือ ความชั่วร้ายจากเรื่องเก่าๆจะเกิดขึ้น
หินะ
เป็น อธิบดี ความหมายคือ ความสูงส่งที่บังเกิดกับเจ้าชะตาอยู่ก่อนแล้ว
จะกลับกลายเป็นความเดือดร้อน
หินะ
เป็น ราชา ความหมายคือ ความสุขสบายทั้งปวงที่มีอยู่กับเจ้าชะตา
จะบังเกิดความเสียหายขึ้นมาด้วยตนเอง ทำให้เจ้าชะตาเสื่อมเสียโดยไม่คาดฝัน
หินะ
เป็น ธงไชย ความหมายคือ การกระทำทั้งหลายของตนเอง อย่าได้มุ่งหวังว่าจะสำเร็จเสมอไป
จะต้องมีปัญหาอุปสรรคหรือคู่แข่งขัน
ธานัง
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ การเสียเงินทองโดยไม่คาดฝัน
การทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องเงินเรื่องทองจงระวังให้มาก
ธานัง
เป็น อริ ความหมายคือ เงินทองที่จะได้มามักมีปัญหาอุปสรรค หรือได้มาแล้วเก็บไม่อยู่
หรือมิฉะนั้นจะขาดแคลนทรัพย์สินเงินทอง
ธานัง
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ การเงินเป็นปึกแผ่นมั่นคง จะมีหลักฐานมั่นคงยั่งยืนดี
มีทรัพย์มาก
ธานัง
เป็น มรณะ ความหมายคือ การหมดเปลือง เสียหายตกต่ำ
ทำอะไรให้ระวังมักเกิดความผิดพลาด
ธานัง
เป็น อธิบดี ความหมายคือ การเงินสูงเด่น เกิดมามีทรัพย์ คิดอะไรสมความปรารถนา
ธานัง
เป็น ราชา ความหมายคือ การเงินการทองมีใช้ไม่ขาดมือ เกิดมามีบุญวาสนา สุขสบาย
แต่จะมีนิสัยเกียจคร้านหน่อย
ธานัง
เป็น ธงไชย ความหมายคือ การเงินดีมีใช้ตลอด ไม่ขัดสน พ่อแม่สะสมไว้ให้ใช้
ปิตา
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ เกิดมาจะกำพร้าพ่อ หรือไม่ได้อยู่กับพ่อ
หรือมิฉะนั้นพ่อจะมีเมียน้อย
ปิตา
เป็น อริ ความหมายคือ พ่อจะพลัดพรากจากเจ้าชะตา หรือไม่ก็จะเป็นคนที่ไม่ถูกกับพ่อ
ฐานะพ่อปานกลาง
ปิตา
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ พ่อมีฐานะมั่นคง เป็นคนมีที่มีทางเป็นหลักฐาน
เป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไป
ปิตา
เป็น มรณะ ความหมายคือ พ่อเป็นคนขี้โรค เจ็บป่วย หรือไม่ได้อยู่กับลูก
เดินทางไกลบ่อยๆ
ปิตา
เป็น อธิบดี ความหมายคือ พ่อมีฐานะดี มีชื่อเสียงโด่งดัง ทำงานมีเกียรติ
เป็นที่รู้จักในวงสังคม มีฐานะความมั่นคงดีมาก
ปิตา
เป็น ราชา ความหมายคือ พ่อมีเกียรติ ฐานะความเป็นอยู่ดี
ปิตา
เป็น ธงไชย ความหมายคือ พ่อมีอำนาจในการดูแลปกครอง ฐานะความเป็นอยู่ดี
เป็นที่ปรึกษาของคนทั่วไป
มาตา
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ แม่พลัดพรากจากไป หรือกำพร้าแม่ หรือพ่อแม่พลัดพรากจากกัน
มาตา
เป็น อริ ความหมายคือ จะขัดแย้งกับแม่ หรือแม่จากไป หรือไม่ได้อยู่กับแม่
มาตา
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ แม่มีหลักฐานที่ดินบ้านช่องสมบูรณ์ มั่งมี
มีอัธยาศัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
มาตา
เป็น มรณะ ความหมายคือ แม่พลัดพรากแตกแยกหรือตายจาก หรือมิฉะนั้นแม่จะเป็นคนขี้โรค
แม่เจ็บไข้ได้ป่วย
มาตา
เป็น อธิบดี ความหมายคือ แม่มีฐานะหลักฐานมั่นคง
มีเกียรติชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป
มาตา
เป็น ราชา ความหมายคือ ทำงานดีมีเกียรติ ได้คู่ครองฐานะดี
การเงินการทองมีใช้อย่างสมบูรณ์
มาตา
เป็น ธงไชย ความหมายคือ แม่มีฐานะ มีความขยันขันแข็ง มีมนุษยสัมพันธ์ดี
มีคนนับหน้าถือตา
โภคา
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ ฐานะเดิมไม่ดี แม้มีหลักฐานระวังจะสูญเสียโดยไม่คาดผัน
โภคา
เป็น อริ ความหมายคือ โภคทรัพย์มีอุปสรรค ยุ่งยาก ไม่เด่นเท่าที่ควร
มีสมบัติพัสถานจะเก็บไม่อยู่
โภคา
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ หลักฐานเดิมดี เป็นปึกแผ่นมั่นคง
อยู่กับเจ้าชะตาตลอดไป
โภคา
เป็น มรณะ ความหมายคือ โภคทรัพย์สมบัติสูญเสียเสียหาย หรือไม่มีโภคทรัพย์
โภคา
เป็น อธิบดี ความหมายคือ โภคทรัพย์ดี ชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวดี มีเกียรติ
โภคา
เป็น ราชา ความหมายคือ โภคทรัพย์ได้จากการอุปถัมภ์ ได้ทรัพย์ไม่ขาด
และมีความมั่นคง
โภคา
เป็น ธงไชย ความหมายคือ โภคทรัพย์อยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีหน้ามีตา มีความราบรื่น
สุขสบาย
มัชฌิมา
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ เกิดความเสียหายกับชีวิตความเป็นอยู่แบบทุกขลาภ ได้ครึ่งเสียครึ่ง
มัชฌิมา
เป็น อริ ความหมายคือ อุปสรรคปัญหาที่ไม่ค่อยยุ่งยากนัก
แต่ก็จำเป็นต้องแก้ไขให้ผ่านพ้นไป
มัชฌิมา
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ การแสวงหาทรัพย์สินทั่วไปจากหนทางที่ทำอยู่โดยปกติ
มัชฌิมา
เป็น มรณะ ความหมายคือ ความเสียหายในเรื่องต่างๆทั่วไปที่มีผลกระทบเล็กน้อย
แต่ก็จำเป็นต้องแก้ไขให้ผ่านพ้นไป
มัชฌิมา
เป็น อธิบดี ความหมายคือ ความราบรื่นในการประกอบกิจต่างๆทั่วไป
มัชฌิมา
เป็น ราชา ความหมายคือ การได้รับความอุปถัมภ์สนับสนุนในการประกอบกิจต่างๆทั่วไป
มัชฌิมา
เป็น ธงไชย ความหมายคือ ความสำเร็จบรรลุเป้าหมายในการประกอบกิจต่างๆทั่วไป
ตนุ
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ ตัวของเจ้าชะตาทำให้ตนเองเสื่อมเสียตกต่ำ
และทำสิ่งผิดพลาดไม่คาดฝัน
ตนุ
เป็น อริ ความหมายคือ ตัวเจ้าชะตาต้องดิ้นรนไปในทางลำบาก มีอุปสรรค จากที่จากถิ่น
พลัดพรากจากคนรัก
ตนุ
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ ตัวเจ้าชะตามีหลักฐานหลักทรัพย์ดี
พ่อแม่หรือผู้ใหญ่อุดหนุนจุนเจือ อาชีพส่วนตัวหาเงินคล่อง
ตนุ
เป็น มรณะ ความหมายคือ เจ้าชะตาเกิดมาเป็นกำพร้า พลัดที่จากถิ่นฐาน
หรือเป็นคนที่มักมีโรคภัยเบียดเบียน
ตนุ
เป็น อธิบดี ความหมายคือ เจ้าชะตามีพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ให้ความช่วยเหลือส่งเสริม
มีวาสนาพัฒนาตนให้สูงขึ้น
ตนุ
เป็น ราชา ความหมายคือ เจ้าชะตามักได้รับความอุปถัมภ์/สนับสนุน/ส่งเสริม
ให้มีความราบรื่นสำเร็จในการประกอบกิจต่างๆ
ตนุ
เป็น ธงไชย ความหมายคือ ตนเองชอบความท้าทาย มีจุดหมายที่จะสร้างความสำเร็จด้วยตนเอง
กดุมภะ
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ การเงินจะเสียหายล้มเหลว หรือหมดสิ้นไปโดยไม่คาดฝัน
เป็นคนไม่ยอมเสียเปรียบเรื่องการเงินแก่ใคร
กดุมภะ
เป็น อริ ความหมายคือ การเงินมักมีปัญหาก่อความยุ่งยาก
ต้องต่อสู้ดิ้นรนเผชิญอุปสรรคเพื่อให้ได้มาซึ่งการเงิน
กดุมภะ
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ หลักฐานมั่นคงดี ทำกิจการเจริญรุ่งเรือง
รู้จักช่องทางการแสวงหาเงิน ตั้งตัวได้ ชอบอิสระ
กดุมภะ
เป็น มรณะ ความหมายคือ การเงินจะเสียหายล้มเหลว
มักถูกเอารัดเอาเปรียบทางด้านการเงิน การเงินจะเสียหายล้มเหลว
กดุมภะ
เป็น อธิบดี ความหมายคือ การเงินดี
รู้ช่องทางในการลงทุนต่อยอดการเงินให้มีความเจริญงอกงามขึ้น
กดุมภะ
เป็น ราชา ความหมายคือ การเงินหมุนเวียนไม่ขาดมือ
ได้รับความอุปถัมภ์ช่วยเหลือทางด้านการเงิน
กดุมภะ
เป็น ธงไชย ความหมายคือ มีความสำเร็จทางด้านการลงทุนตามเป้าหมาย ช่องทางทรัพย์ที่ได้มากจ่ายมาก
สหัสชะ
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ คนใกล้ตัว ญาติ มิตรสหาย จะนำความเดือดร้อนมาให้
ความทุกข์ใจเพราะบุคคลใกล้ตัว
สหัสชะ
เป็น อริ ความหมายคือ มิตรสหายกลายเป็นศัตรู
คนที่รักชอบพอกันอยู่กลับเปลี่ยนไปในทางไม่ดี ปัญหาเกี่ยวกับการเดินทาง
สหัสชะ
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ การติดต่อทำงานเกี่ยวกับการเงิน
การพึ่งอาศัยทางด้านการเงิน
สหัสชะ
เป็น มรณะ ความหมายคือ การสูญเสียมิตรภาพที่ดี การติดต่อสื่อสารที่ผิดพลาด
สหัสชะ
เป็น อธิบดี ความหมายคือ การติดต่อการงานไกลๆ หรือการวิ่งเต้นใดๆจะประสบผลสำเร็จ
การเปลี่ยนแปลโยกย้าย เดินทางไกลต่างถิ่นต่างแดนดี
สหัสชะ
เป็น ราชา ความหมายคือ การติดต่อเกี่ยวกับการงานสำเร็จโดยราบรื่น
จะมีผู้อุปถัมภ์ช่วยเหลือ
สหัสชะ
เป็น ธงไชย ความหมายคือ การแข่งขันเพื่อบรรลุไปสู่จุดมุ่งหมายจะประสบผลสำเร็จดี
มีการเดินทางใกล้ไกล
พันธุ
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ ญาติพี่น้องจะพลัดพรากจากกัน
พึ่งพาอาศัยญาติพี่น้องได้ยาก ความมั่นคงของครอบครัวเสียหายสั่นคลอน
พันธุ
เป็น อริ ความหมายคือ เกิดความขุ่นข้องหมองใจกับบุคคลในครอบครัว
ขัดแย้งเกิดอุปสรรคกับหมู่ญาติ ศัตรูสร้างความเสียหายต่อความมั่นคงของชีวิต
พันธุ
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ ญาติพี่น้องส่งเสริมดี ทำให้เจ้าชะตามีความผาสุก
ความมั่นคงทางทรัพย์สินความเป็นอยู่
พันธุ
เป็น มรณะ ความหมายคือ ญาติพี่น้องจะพลัดพรากจากกัน สูญเสียคนสำคัญในครอบครัว
คนในครอบครัวเกิดการเจ็บป่วย
พันธุ
เป็น อธิบดี ความหมายคือ ญาติพี่น้องส่งเสริมดี ทำให้เจ้าชะตามีหน้ามีตาขึ้น
บุคคลมีอำนาจหน้าที่ตำแหน่งเป็นที่พึ่งได้
พันธุ
เป็น ราชา ความหมายคือ ญาติผู้ใหญ่สนับสนุนส่งเสริมให้เจ้าชะตามีความสุข
ความราบรื่นสำเร็จจากบุคคลผู้ใหญ่ให้การอุปถัมภ์
พันธุ
เป็น ธงไชย ความหมายคือ บรรลุถึงสิ่งที่ตั้งใจหรือเป้าหมายเพราะญาติพี่น้องหรือผู้หลักผู้ใหญ่ให้ความสนับสนุน
ปุตตะ
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ มีบุตรน้อยหรือมีบุตรยาก บุตรดื้อรั้น
การลงทุนที่เกิดความสูญเสีย
ปุตตะ
เป็น อริ ความหมายคือ ภัยจากบุคคลที่เป็นบุตรบริวารหรือคนใกล้ตัว
ศัตรูที่อายุน้อยกว่า บุตรไม่ได้อาศัย
ปุตตะ
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ มีบุตรเป็นกตัญญูบุคคล บุตรพึ่งพาอาศัยได้
การลงทุนที่ประสบผลกำไรงาม
ปุตตะ
เป็น มรณะ ความหมายคือ มีบุตรยาก โอกาสแท้งสูง
บุคคลในครอบครัวจะเกิดความเจ็บไข้ได้ป่วย
ปุตตะ
เป็น อธิบดี ความหมายคือ บุตรที่ส่งเสริมอุปถัมภ์บิดามารดา
การลงทุนที่หวังผลสำเร็จเป็นการใหญ่
ปุตตะ
เป็น ราชา ความหมายคือ บุตรบริวารส่งเสริมให้มีความคล่องตัวราบรื่นสำเร็จ
การลงทุนประสบผลดี คนภายใต้บัญชาให้ความร่วมมือส่งเสริมดี
ปุตตะ
เป็น ธงไชย ความหมายคือ การลงทุนโดยมีเป้าหมายที่จะประสบความสำเร็จชัดเจน
บุตรบริวารคนใกล้ตัวส่งเสริมให้ความคล่องตัว
อริ
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ ศัตรูในที่ลับซับซ้อน เหตุผลที่ซ่อนเงื่อนซ่อนปม
ความคลุมเครือที่เป็นผลร้าย
อริ
เป็น อริ ความหมายคือ การเผชิญกับความหนักหน่วงของการงานในหน้าที่ต้องรับผิดชอบ
การกระทบกระทั่งกันรุนแรง
อริ
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ ศัตรูเป็นผู้มีหลักฐานเหนือกว่า ตั้งตัวลำบาก
มีหลักฐานทรัพย์สินแล้วยุ่งยากในภายหลัง อุปสรรคในการสร้างสมฐานะความเป็นอยู่
อริ
เป็น มรณะ ความหมายคือ มีศัตรูก่อความเสียหายบ่อนเบียดเบียน
คนในแวดวงใกล้ตัวเอารัดเอาเปรียบ อยู่เฉยๆมีเรื่องร้ายมาสู่ ความคิดการตัดสินใจ
ความพยายามในกิจต่างไม่สัมฤทธิ์ผล
อริ
เป็น อธิบดี ความหมายคือ ศัตรูเป็นผู้มีหลักฐานเหนือกว่า ตั้งตัวลำบาก
มีหลักฐานทรัพย์สินแล้วยุ่งยากในภายหลัง อุปสรรคในการสร้างสมฐานะความเป็นอยู่
อริ
เป็น ราชา ความหมายคือ ความเป็นอยู่ไม่ราบรื่น เหน็ดเหนื่อยท้อถอยในอุปสรรค
แล้วเบื้องท้ายจึงหน่อยผ่อนคลายเบาบางลงตัว กระทำความดีแต่มีศัตรู
โดดเด่นจักเป็นภัย
อริ
เป็น ธงไชย ความหมายคือ มักมีเรื่องกับผู้ใหญ่ ศัตรูเป็นผู้มีอำนาจอิทธิพล
อำนาจวาสนาของเราก่อศัตรู การใช้สติปัญญาติดใจผิดพลาด
ปัตนิ
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ คู่ครองด้อยกว่าตน ประพฤติตัวไม่เสมอต้นเสมอปลาย
คู่ครองมักใช้อารมณ์เป็นใหญ่ การถูกขบถคดโกงเอารัดเอาเปรียบจากผู้ร่วม/หุ้นส่วน
ปัตนิ
เป็น อริ ความหมายคือ การแต่งงานที่มีแต่อุปสรรค ชีวิตสมรสที่มีแต่อุปสรรค
การแต่งงานกับผู้ใต้บังคับบัญชา แต่งงานกับญาติพี่น้องของบิดา(ในดวงชะตาหญิง)
กับญาติพี่น้องของมารดา(ในดวงชะตาชาย) แต่งงานกับกสิกร
การร่วมอยู่กินกันกับเมียน้อยอย่างเป็นทางการ การแต่งงานกับนักธุรกิจ
ปัตนิ
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ คู่ครองเป็นผู้มีหลักมีฐาน ต่างพึ่งพาอาศัยร่วมกันครองฐานะความเป็นอยู่ให้ก้าวหน้า
ผู้ร่วม/หุ่นส่วนเป็นผู้มีประโยชน์ร่วมในการสร้างรากฐานของชีวิต
ปัตนิ
เป็น มรณะ ความหมายคือ การได้เสียกันโดยไม่เปิดเผย
ชีวิตสมรสที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า สมรสเพื่อหวังทรัพย์สินของคู่ครอง สมรสโดยใช้ทรัพย์ของคู่ครอง คู่ครองเป็นคนขี้โรค,เป็นคนลึกลับ,เป็นคนสนใจในสิ่งลี้ลับ,เป็นคนมีมรดก,เป็นเพื่อนของบิดามารดาของเจ้าชะตา
ปัตนิ
เป็น อธิบดี ความหมายคือ คู่ครองมีความรู้หรือชาติตระกูลดีมีอำนาจวาสนา
การรู้ทันความเป็นไปของผู้ร่วม/หุ่นส่วน
ปัตนิ
เป็น ราชา ความหมายคือ คู่ครองรูปงามกิริยางามจิตใจดี การใช้ชีวิตครอบครัวราบรื่น
ผู้ร่วม/หุ้นส่วนมุ่งพัฒนาก่อเกิดผลประโยชน์
ปัตนิ
เป็น ธงไชย ความหมายคือ คู่ครองเป็นผู้ที่เอาการเอางานขยันขันแข็ง มีมานะความเพียร
การประยุกต์ส่งเสริมจากผู้ร่วมงานให้ประสบความสำเร็จโดยง่าย การใช้สติปัญญารู้คิดในการแก้ไข/ขยับขยายในกิจการงาน
มรณะ
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ การงานประสบความล้มเหลวแล้วเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่(จบเพื่อเริ่ม)
มรณะ
เป็น อริ ความหมายคือ ความเสียหายลึกลับซับซ้อนยากที่จะแก้ไข
คนใกล้ชิดนำเอาเรื่องเดือดร้อนมาให้
มรณะ
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ ผลประโยชน์ที่ได้รับเป็นผลร้ายตามมาภายหลัง
มรณะ
เป็น มรณะ ความหมายคือ มีปัญหาจนปลงตก จิตใจใฝ่ไปทางธรรมทางสงบ มรดก หลักทรัพย์
ผลประโยชน์ที่ได้รับเป็นผลร้ายตามมาภายหลัง ความเสียหายลึกลับซับซ้อนยากที่จะแก้ไข
มรณะ
เป็น อธิบดี ความหมายคือ ได้รับความกดดันบีบคั้นการกระทบทางอารมณ์กับผู้ใหญ่
มรณะ
เป็น ราชา ความหมายคือ มรดกจากความตาย ผลประโยชน์จากความสูญเสีย
การเปลี่ยนแปลงสิ่งเก่าไปสู่สิ่งใหม่ที่ดีขึ้น
มรณะ
เป็น ธงไชย ความหมายคือ มีสมองในการดัดแปลงแก้ไขในของที่เสียให้กลับมาดี
การพยายามใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหาอุปสรรคอันหนักหน่วง
ศุภะ
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ ขาดความมั่นคงในการดำเนินชีวิต
คลอนแคลนขัดข้อง เป้าหมายไม่บรรลุผล
ศุภะ
เป็น อริ ความหมายคือ อุปสรรคขัดขวางให้ไปสู่ผลสำเร็จโดยยาก การเดินทางไกลที่ประสบปัญหายุ่งยาก
การเจ็บป่วย
ศุภะ
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ มีความราบรื่นสำเร็จในการมุ่งสู่เป้าหมาย
ความตั้งใจมีความก้าวหน้าเห็นผลชัดเจน ผูใหญ่ให้การสนับสนุน
ผลประโยชน์ก่อเกิดเป็นรูปธรรม
ศุภะ
เป็น มรณะ ความหมายคือ ผู้หลักผู้ใหญ่ให้โทษ
เป้าหมายที่ตั้งใจไม่สมหวัง ขาดความมั่นคงในการดำเนินชีวิต
คลอนแคลนขัดข้องไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์วางแผนไว้
ศุภะ
เป็น อธิบดี ความหมายคือ มีหลักฐานที่อยู่บ้านช่องดี
ผู้ใหญ่ให้ความช่วยเหลือจุนเจืออุปถัมภ์ เป้าหมายความตั้งใจประสบความสำเร็จ
ศุภะ
เป็น ราชา ความหมายคือ มีความราบรื่นสำเร็จในการมุ่งสู่เป้าหมาย
ความตั้งใจมีความก้าวหน้าเห็นผลชัดเจน ผูใหญ่ให้การสนับสนุน
ผลประโยชน์ก่อเกิดเป็นรูปธรรม
ศุภะ
เป็น ธงไชย ความหมายคือ มีอำนาจวาสนาก้าวหน้าได้เป็นใหญ่
มีความคิดมุ่งใช้สติปัญญาพัฒนาก้าวหน้าไปสู่เป้าหมายความสำเร็จของชีวิต
กัมมะ
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ การงานที่ต้องหยุดชะงักลง ความล้มเหลวในการทำงาน
การตกงานหรือถูกไล่ออกจากงานผลงานที่ไม่มีใครยอมรับ
กัมมะ
เป็น อริ ความหมายคือ การงานที่มีอุปสรรคหรือมีความคับข้องใจ ทำงานเกี่ยวกับบุคคลที่ถูกสกัดกั้นหรือศัตรู
กัมมะ
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ การกระทำกิจการงานมักบังเกิดผลดี
การงานมีความมั่นคงก้าวหน้า มีอารมณ์สนใจรักใคร่เอาใจใส่ในกิจที่กระทำ
กัมมะ
เป็น มรณะ ความหมายคือ การงานมีความขาดตกบกร่อง
ท้อถอยในการทำหน้าที่ เกิดความผิดพลาดในกิจการงานที่กระทำ ประกอบกิจใดไม่เป็นผลดี
ตัดสินใจผิดพลาดในหน้าที่การงาน เกิดความล้มเหลว
กัมมะ
เป็น อธิบดี ความหมายคือ การงานที่ต้องเหน็ดเหนื่อยแต่ก็ได้รับผลดี
เป็นคนไม่วางธุระไม่ทิ้งภาระหน้าที่ กระทำกิจเสมอต้นเสมอปลาย
ทำงานมีงานทำแม้เหน็ดเหนื่อยก็มีความสุข ชอบการทำงาน
กัมมะ
เป็น ราชา ความหมายคือ จะได้รับความสนับสนุนทางด้านการงานจากผู้หลักผู้ใหญ่
เป็นผู้มีอำนาจในกิจที่กระทำนั้น ได้รับความร่วมมือในแวดวงสายงานเป็นอย่างดี
การทำงานอย่างต่อเนื่องเสมอปลายเกิดผลประโยชน์เป็นอันดี
กัมมะ
เป็น ธงไชย ความหมายคือ เป็นผู้มีอำนาจวาสนาหน้าที่การงานเป็นใหญ่
ความคิดลำดับขั้นตอนการงานให้ราบรื่นลงตัว บริวารพางานสำเร็จ
ลาภะ
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ เสียประโยชน์ลาภผลรายได้กำไรอันพึงได้รับ
ยุ่งยากขัดสนในการจับจ่ายใช้สอย
ลาภะ
เป็น อริ ความหมายคือ ถูกหลอกลวงคดโกงจากคนใกล้ตัวหรือมิตรร้าย
ประกอบกิจใดมักไม่สมประสงค์ดังตั้งใจ เพื่อนฝูงทำให้เกิดความคับข้องใจ
ลาภะ
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ มีลาภผล
รายได้ กำไรเสมอๆ หาได้ใช้คล่อง มีที่พึ่งพาทางด้านการเงินทรัพย์สิน
สติปัญญาและลู่ทางที่ดีในการก่อเกิดลาภผล
ลาภะ
เป็น มรณะ ความหมายคือ เพื่อนฝูงที่ประสบเคราะห์กรรมหรือนำภัยมาสู่
การสูญเสียลาภผลและบุคคลที่รัก
ลาภะ
เป็น อธิบดี ความหมายคือ ความขยันในหน้าที่การงานเกิดผลดี
ได้รับผลประโยชน์ ลาภผลกำไร ค่าตอบแทนจากกิจการงานที่กระทำนั้นอย่างดี
การได้คบหาสมาคมกับบุคคลที่พึ่งพาอาศัยได้
ลาภะ
เป็น ราชา ความหมายคือ ผู้หลักผู้ใหญ่นำมาซึ่งลาภผล
ชี้ช่องทางทำมาหาได้ แนะนำหลักคิดการกระทำจากประสบการณ์ มีมิตรที่พึงพาอาศัยได้
ได้รับผลดีทางลาภผล กำไร ทรัพย์สิน โชคลาภ
ลาภะ
เป็น ธงไชย ความหมายคือ มักได้ลาภผล กำไร
รายได้ เป็นหลักเป็นฐาน สติปัญญาคล่องแคล่วในการหาทรัพย์
มิตรดีมีสัมพันธภาพเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน
พยายะ
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ ไม่ชอบทำงาน ไม่มีระเบียบแบบแผนในการทำงาน
ชอบพึ่งแต่ตัวเอง ความล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่
พยายะ
เป็น อริ ความหมายคือ ความล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่ มีศัตรูในวงงาน ความเป็นอยู่ไม่แน่นอน
ขึ้นๆลงๆ ขัดสน ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าร่ำไป โยกย้ายเปลี่ยนแปลง
พยายะ
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ ลงทุนกิจใดไม่สำเร็จ ขาดทุนขาดรอน
เสียหายในผลประโยชน์อันพึงได้รับ ปัญหาได้รับการแก้ไขทีละเล็กละน้อยแต่ไม่ทันใจ
ใช้อารมณ์ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ามากกว่าเหตุผล ขาดความรอบคอบ
พยายะ
เป็น มรณะ ความหมายคือ มีเหตุให้ปรับเปลี่ยนความเป็นอยู่ การโยกย้ายเปลี่ยนแปลง
อารมณ์ขึ้นๆล่องๆกระทบจิตใจกับคนอื่น การเงินการทองเดี๋ยวมีเดี๋ยวขาด
เกิดความเสียหายจากการบริหารเวลาและการตัดสินใจที่ผิดพลาด ก้าวพลาดในสิ่งผิด
พยายะ
เป็น อธิบดี ความหมายคือ ถูกบ่อนเบียนเอาเปรียบทางด้านการทำงาน
การงานมีผลเสียหาย มีอุปสรรคข้อยุ่งยากให้ต้องแก้ไขเฉพาะหน้าร่ำไป
การงานมากแต่ผลประโยชน์ได้ยากหรือเนิ่นกว่าจะได้
สิ่งตอบแทนจากงานไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย การตัดสินใจที่ผิดพลาดในการดำเนินกิจการงาน
พยายะ
เป็น ราชา ความหมายคือ ขาดที่พึ่ง
มักอาศัยใครได้ยาก มีคนชี้นำกดดันตลอดเวลาทำให้อึดอัดใจ
การปะทะทางอารมณ์ที่ก่อให้เกิดความยุ่งยากลำบากใจ
คนจ้องจับผิดทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเอง
พยายะ
เป็น ธงไชย ความหมายคือ มักสูญเสียเสื่อมซึ่งอำนาจ
ขาดความน่าเชื่อถือ ใช้ความรู้ความสามารถไปในทางที่ผิด
ยึดมั่นแต่ความคิดตนเป็นใหญ่
ทาสี
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ ต้องพยายามฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อให้บรรลุเป้าหมายความสำเร็จ
ทาสี
เป็น อริ ความหมายคือ ขาดที่พึ่ง
มักอาศัยใครได้ยาก มีคนชี้นำกดดันตลอดเวลาทำให้อึดอัดใจ
การปะทะทางอารมณ์ที่ก่อให้เกิดความยุ่งยากลำบากใจ
คนจ้องจับผิดทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเอง
ทาสี
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ ผลสำเร็จจากการรับผิดชอบงานหนัก
ภาระที่สร้างความสำเร็จ
ทาสี
เป็น มรณะ ความหมายคือ ไว้ใจคนใกล้ตัวหรือคนอื่นไม่ได้ จะสร้างเรื่องเกิดภัยเพราะคนต่ำชั้น แม้กระทั่งคนในครอบครัว ก็นำเรื่องเดือดร้อนมาให้ทุกข์ใจ
ทาสี
เป็น อธิบดี ความหมายคือ เป็นผู้มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมและครอบครัว ยอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อคนอื่น พวกพ้องหมู่คณะ แบกภาระหลายอย่าง
มีความเหนื่อยใจ
ทาสี
เป็น ราชา ความหมายคือ มีเรื่องเดือดร้อนเพราะผู้อยู่ใกล้ตัว
ต้องเป็นภาระธุระจัดการให้คนอื่น
ทาสี
เป็น ธงไชย ความหมายคือ แม้จะต้องเผชิญกับปัญหาอุปสรรค
แต่ก็จะมีหนทางหรือบุคคลช่วยเหลือให้ผ่านพ้นไปได้
ทาสา
เป็น โลกาวินาส ความหมายคือ ต้องพยายามฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อให้บรรลุเป้าหมายความสำเร็จ
ทาสา
เป็น อริ ความหมายคือ ขาดที่พึ่ง
มักอาศัยใครได้ยาก มีคนชี้นำกดดันตลอดเวลาทำให้อึดอัดใจ
การปะทะทางอารมณ์ที่ก่อให้เกิดความยุ่งยากลำบากใจ
คนจ้องจับผิดทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเอง
ทาสา
เป็น ขุมทรัพย์ ความหมายคือ ผลสำเร็จจากการรับผิดชอบงานหนัก
ภาระที่สร้างความสำเร็จ
ทาสา
เป็น มรณะ ความหมายคือ ไว้ใจคนใกล้ตัวหรือคนอื่นไม่ได้ จะสร้างเรื่องเกิดภัยเพราะคนต่ำชั้น แม้กระทั่งคนในครอบครัว ก็นำเรื่องเดือดร้อนมาให้ทุกข์ใจ
ทาสา
เป็น อธิบดี ความหมายคือ เป็นผู้มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมและครอบครัว ยอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อคนอื่น พวกพ้องหมู่คณะ แบกภาระหลายอย่าง
มีความเหนื่อยใจ
ทาสา
เป็น ราชา ความหมายคือ มีเรื่องเดือดร้อนเพราะผู้อยู่ใกล้ตัว
ต้องเป็นภาระธุระจัดการให้คนอื่น
ทาสา
เป็น ธงไชย ความหมายคือ แม้จะต้องเผชิญกับปัญหาอุปสรรค
แต่ก็จะมีหนทางหรือบุคคลช่วยเหลือให้ผ่านพ้นไปได้
ธีรพร เพชรกำแพง
6 สิงหาคม 2558