30 มกราคม 2558

โหราน่ารู้..ระยะวังกะ

โหราน่ารู้..ระยะวังกะ
ระยะวังกะ หรือ ค่าวังกะ หากจะพูดง่ายคงหมายถึงค่าเบี่ยงเบนที่ยอมรับได้ในองศาปัจจัยทางโหราศาสตร์ (บางคนเรียกค่าเอื้อม) เช่น อาทิตย์-จันทร์ ทำมุม 180 องศา เป็นมุมเล็ง ให้ค่าวังกะ 2 แสดงว่าเรายอมรับค่าเบี่ยงเบน +2,-2 ของค่า 180 คือ 178-182 องศา ว่ายังมีความเป็น มุมเล็งอยู่นั่นเอง ซึ่งบางแบบก็นิยมค่าวังกะหาร 2 เช่นค่าวังกะ 1 ก็จะเป็น +0.5,-0.5 อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งค่าวังกะนี้เราจะยอมรับว่าค่าองศานั้นยังมีอิทธิพลต่อกันอยู่นั่นเอง
หากจะพูดเป็นวิชาการเสียหน่อยก็ว่า ระยะวังกะ(Orbit) คือระยะเชิงมุมที่ยอมให้ห่างจากตำแหน่งสัมพันธ์ ซึ่งหากความห่างมีค่าอยู่ในช่วงที่กำหนดนี้ ยังถือว่าเชิงมุมนั้นมีตำแหน่งสัมพันธ์ที่ควรพิจารณาอยู่

ธีรพร  เพชรกำแพง

๓๐ มกราคม ๒๕๕๘

สิ่งละอัน..วันละน้อย (30 มกราคม 2558)

29-31 มกราคม 2558 ปรากฏการณ์ฟ้าที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ ดาวพุธถูกกลบแสง หรือที่เรียกว่าพุธดับ (ดาวดับ=combust) เริ่มที่ราศีมกร
ดาวดับ ทางโหราศาสตร์คือดาวที่มีองศาเท่ากันหรือใกล้เคียงกับอาทิตย์ หรือที่เรียกว่าอาทิตย์บังแสง ทำให้ดาวนั้นเสียคุณสมบัติไป
กรณีพุธดับนี้ความหมายทางการพยากรณ์มีมากมายหลากหลายฝอยพยากรณ์ แต่ในที่นี้ขอใช้คำประสาตามความเข้าใจของตนเองว่า “เสียอาการ” เพราะดาวพุธหมายถึงการแสดงออก เจรจาสื่อสาร ทำความเข้าใจ ทั้งที่เป็นวัจนภาษาและอวัจนภาษา ฉะนั้นจะเห็นว่าความหมายจากคำจำกัดความนี้ก็กินความครอบคลุมพอที่จะอนุมานจากรูปดวงชะตาได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการเรียนรู้ทางโหราศาสตร์แบบมีความเข้าใจมากกว่าความจำแบบนกแก้วนกขุนทอง
คำว่า “เสียอาการ” นี้ หากมองทางปัญหาทางด้านการพูดแสดงว่าการสื่อสารในช่วงนี้ไม่ดี มีปัญหาเกี่ยวกับการเจรจาที่อาจผิดพลาดขาดความเข้าใจ หากมองการแสดงออกทางกายที่ไม่ปกติก็จะหมายถึงความเจ็บป่วยทางกายก็ย่อมได้ หากมองพุธเป็นเรื่องเอกสารก็แสดงว่าจะต้องมีความขัดข้องประการใดแน่นอน อย่างนี้เป็นต้น ในที่นี้ก็จะขอยกความหมาย “พุธดับ” มาแสดงไว้พอที่จะจับหลักคิดทำความเข้าใจได้พอสังเขปดังนี้
หากเป็นเรื่องสติปัญญา จะหมายถึงความเฉลียวฉลาดแบบกระล่อนแกมโกง โกหกเจ้าเล่ห์เจ้ากล มารยา
หากเป็นเรื่องการงานการดำเนินชีวิต มักจะเป็นไปทางมักได้มักง่ายเลาะลัดขั้นตอนหรืออาจจะไม่สุจริตทุกบริบท หน้าที่การงานมีปัญหาและอุปสรรค
ในด้านการติดต่อสัมพันธ์ มักจะสูญเสียสัมพันธภาพอันดี หรือบางทีเสียเอกลักษณ์จนคนอื่นไม่ต้องการที่จะปฏิสัมพันธ์ด้วย
ในส่วนโรคภัยไข้เจ็บที่เกี่ยวกับพุธ เช่น ระบบทางเดินหายใจ-ทางเดินอาหาร ปาก ฟัน หากเป็นก็จะมีโอกาสเป็นหนักหรือเรื้อรังได้
พอมองพุธเป็น “อัธยาศัย” บางตำราบอกว่าเมื่อพุธดับนี่ทำให้เจ้าชะตาถึงกับเป็นคน “ใฝ่ต่ำ” ไปเลยก็มี ทั้งนี้ก็อย่างที่บอกว่าจะต้องพิจารณาจากบริบทในดวงชะตานั้นอีกทีหนึ่งด้วย

ธีรพร  เพชรกำแพง

๓๐ มกราคม ๒๕๕๘

26 มกราคม 2558

ศึกษามุมดาว..จากเรื่องราวบนท้องฟ้า ประจำเดือนมกราคม 2558

ศึกษามุมดาว..จากเรื่องราวบนท้องฟ้า 19-20-21 มกราคม ๒๕๕๘
อังคาร กุม เนปจูน ในราศีกุมภ์
นัยความหมายว่า ..มักก่อให้เกิดการขัดแย้งโต้เถียง ทะเลาะวิวาทอุปัทวเหตุ อุบัติเหตุ เป็นโรคภัยไข้เจ็บ เดือดร้อนรับเคราะห์กรรม ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย โน้มเอียงทางด้านกามารมณ์มากเกินควร โดยมีอิทธิพลอย่างมากกับคนราศีกุมภ์ ที่จะต้องมีสติระมัดระวังเหตุเลศร้ายต่างๆในช่วงนี้เป็นอย่างมาก

ศึกษามุมดาว..จากเรื่องราวบนท้องฟ้า 20 มกราคม 2558
อาทิตย์กุมจันทร์-จันทร์กุมอาทิตย์ หรือจันทร์ดับอมาวสี(New Moon) ในราศีมกร

คนราศีมกรต้องระวังความรีบร้อน ผิดพลาดคลาดเคลื่อน อุปสรรคขัดข้อง และความท้อถอยเหนื่อยล้า นำมาซึ่งเหตุด้านลบในชีวิต รองลงไปคือราศีกรกฎ ซึ่งสองราศีนี้ต้องระวังอีกอย่างคือความหลงเรื่องรักๆใคร่ๆจนเกินพอดี

ศึกษามุมดาว..จากเรื่องราวบนท้องฟ้า 27 มกราคม 2558
มฤตยู ทำมุม -90 องศา กับดาวพลูโต (ฉากหลัง)

จะต้องระวังปัญหาที่ปะทุจากแรงกดดันภายใน ความเอาแต่ใจไม่รอบคอบ อุบัติเหตุ เจ็บป่วยเกี่ยวกับระบบประสาท อัมพฤกษ์ อัมพาต ในช่วงอย่างนี้จะต้องมีสติให้มาก แสดงออกด้วยความระมัดระวัง อย่าปล่อยตัวปล่อยใจไร้การควบคุมหรือบ้าๆบอๆ จะทำให้เกิดผลด้านลบตามมาภายหลังได้ (โดยเฉพาะคนราศีธนู มีน)
ศึกษามุมดาว..จากเรื่องราวบนท้องฟ้า 27 มกราคม 2558
อาทิตย์ ทำมุม 90 องศา กับจันทร์ (ฉาก)
ความหมายในลักษณะนี้จะบ่งบอกถึงความรีบร้อน จับหลักเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ อาจจะต้องถึงกับจับแพะชนแกะ ทำบางสิ่งไปด้วยความร้อนรน หากเป็นโรคภัยไข้เจ็บก็มักจะกินเวลานานกว่าจะหาย ความไม่ราบรื่นจากเพศตรงข้าม ให้ระวังอย่างมากในเรื่องการปะทุอารมณ์กับคนใกล้ตัว โดยเฉพาะสถานที่ทำงาน/บุคคลที่เกี่ยวแก่งาน (คนราศีเมษและมกรต้องระวังเป็นพิเศษ)
ศึกษามุมดาว..จากเรื่องราวบนท้องฟ้า 29 มกราคม 2558
เสาร์ เล็ง จันทร์ (180)
นัยความหมายว่า ..มักก่อให้เกิดความไม่พึงพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ มักพลาดโอกาสและขาดความคิดอ่านอันรอบคอบ เรื่องการตัดสินใจโดยใช้อารมณ์กดดันภายในจะทำให้เสียเรื่อง ชีวิตรักและครอบครัวมีปัญหายุ่งยาก เพศหญิงไม่นำพาความราบรื่นให้ ดาวในลักษณะนี้ต้องระวังปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ มักมีโรคภัยแฝงเบียดเบียน

ช่วงนี้คนราศีพฤษภและพิจิกสมควรที่จะต้องระวังอย่างมาก ในเรื่องของความผิดหวังหรือสูญเสียทางด้านการเงิน สิ่งที่ปรารถนามีความล่าช้าไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการ ส่วนคนที่มีความรักก็ต้องประคับประคองตามแต่เหตุสมควรอันพึงทำได้
ศึกษามุมดาว..จากเรื่องราวบนท้องฟ้า 30 มกราคม 2558
จันทร์ จตุโกณ อังคาร (90,ฉาก) .. ความมีสติในการกระทำต่างๆ ..
นัยความหมายว่า ..เป็นรูปดาวที่บ่งถึงความใจร้อนใจเร็ว ขาดความรอบคอบระมัดระวังยั้งคิด การกระทำที่ใช้อารมณ์นำหน้าเหตุผลไปก่อน ขาดความคล่องตัวราบรื่นทางด้านการเงินการงาน สุขภาพขึ้นๆลงๆ
          คนราศีพฤษภและกุมภ์จะต้องระมัดระวังเรื่องการพูดมากยุ่งยากใจ การกระทบขัดแย้งกับบุคคลเพศตรงข้าม พยายามอย่าทำอะไรเสี่ยงๆในช่วงนี้
 
ศึกษามุมดาว..จากเรื่องราวบนท้องฟ้า 30 มกราคม 2558
เสาร์ จตุโกณ ศุกร์ (90,ฉาก) .. ข้อจำกัดทางด้านการเงินและความรัก
นัยความหมายว่า ..รูปดาวในลักษณะนี้มักก่อให้เกิดความไม่สมหวัง ความรู้สึกด้านลบของชีวิต เช่น สูญเสียการเงิน ความผิดพลาดในตำแหน่งหน้าที่การงาน ความยุ่งยากจากคนอื่นแทรกแซง ชีวิตครอบครัวผันผวนไม่ลงตัวทำให้เป็นทุกข์ ความเข้าใจผิดผะอืดผะอมทางความรัก การได้รับข่าวความทุกข์โศกเศร้า การเจ็บป่วยเรื้อรัง
คนราศีพิจิกและกุมภ์จะต้องระวังอย่างมากในแง่ของสัมพันธภาพกับคนใกล้ตัว อย่างครอบครัวตลอดรวมไปจนถึงมิตรสหายในแวดวงสังคมของตน จะต้องควบคุมอารมณ์มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคนราศีกุมภ์อาจจะพบกับเรื่องราวไม่คาดคิดมาก่อน
* มีการอัพเดทข้อมูลเชิงเรียนรู้มุมดาวอยู่เรื่อยๆ *

ตัวอย่างการพยากรณ์ดวงชะตาพื้นฐาน ตอน พิจารณาระบบเรือนชะตา ๑

ตัวอย่างการพยากรณ์ดวงชะตาพื้นฐาน

ตอน พิจารณาระบบเรือนชะตา ๑


          ลำดับแรกพิจารณาไปที่ดาวตนุลัคน์ คือ ๕ สถิตราศีมกร เจ้าชะตาจะดำเนินชีวิตไปอย่างมีโครงสร้างระเบียบแบบแผนของตนเอง(๕-มกร) ซึ่งก็จำต้องลองผิดลองถูกหรือเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผิดพลาดของตนเอง(๕-นิจ) เป็นบุคคลที่คิดขยับขยาย(๕)รายรับรายได้สถานะความเป็นอยู่(ตนุลัคน์สถิตลาภะ) จากหน้าที่การงานของตนที่กระทำอยู่(๕-กัมมะ) โดยเป็นงานที่ต้องใช้สติปัญญาความรู้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาเป็นลำดับไป(๕-กัมมะ-นิจ)
          เจ้าชะตามักมีปัญหาทางด้านการเงิน(๘ สถิตกดุมภะ) เกี่ยวกับภาระหนี้สิน(๘-วินาส-กดุมภะ) ที่จำเป็นต้องหามามากเพราะใช้จ่ายมากเพราะความจำเป็นหลากหลายชัดเจนบ้างไม่ชัดเจนบ้าง(๘-เมษ) ๓ เจ้าเรือนกดุมภะสถิตเรือนอริ ความต่อสู้แข็งขยันเพื่อให้ได้มาซึ่งรายรับรายได้เงินทอง(๓-สิงห์) โดยต้องเผชิญอุปสรรคความเหน็ดเหนื่อยหรือภาระปัญหาในงาน(๓-กดุมภะ-อริ) และลาภผลรายได้มักเกิดความเสีย ได้มาใช้ไป ได้แบบไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะ ๗ เจ้าเรือนลาภะไปสถิตเรือนมรณะ มักดีในลักษณะของการได้รับมรดก ผลประโยชน์ตอบแทนจากความเสียหาย(ลาภะ-มรณะ) เกี่ยวบ้าน อสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน(๗)
          คู่ครองของเจ้าชะตามักเป็นคู่แบบเกื้อกูลพึ่งพากันได้(๒-๔ คู่มิตร) เป็นคู่ที่มีความมั่นคงแสดงออกอย่างเสมอต้นเสมอปลาย(๔ เจ้าเรือนปัตนิเป็นเกษตร) เจรจาหารือปรึกษากันเหมือนเพื่อนคู่คิดดูแลซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี(๒ เจ้าเรือนปุตตะ คู่มิตรกับ ๔ สถิตกันย์) คู่ครองมักดูแลเอาใจใส่(๒)ปฏิบัติบริการในเรื่องความเป็นอยู่(๒ ปุตตะ-ปัตนิ)ให้มีความราบรื่นในการแสดงออกอย่างสะดวกสบาย(๒-๔)
          นี้เป็นแนวทางการอ่านดวงชะตาพื้นฐานในระบบเรือนชะตาสัมพันธ์ในขั้นต้น โดยเป็นพื้นฐานการอ่านดาว เจ้าเรือน และเรือนสัมพันธ์ ให้ได้ภาพความหมายออกมาจากปัจจัยต่างๆอย่างมีความผสมกลมกลืนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ที่เรียกว่าการอ่านดวงแบบ “เสริมกัน” ในโอกาสต่อไปจะได้หยิบยกมานำเสนออยู่เรื่อยๆ เพราะตระหนักว่าเป็นแนวทางสำคัญสำหรับผู้ศึกษาเบื้องต้น ควรจะมีตัวอย่างในการอ่านดวงชะตาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนไว้ประกอบการเรียนรู้ต่อไป

ธีรพร  เพชรกำแพง
๒๗ มกราคม ๒๕๕๘
หมายเหตุ : หยิบยกเฉพาะแง่มุมที่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่จะพิจารณาเท่านั้น อาจไม่ละเอียดทั้งหมด

กรณีศึกษาเปรียบเทียบ : มาคำนวณสมผุสอาทิตย์กันเถอะ !!

กรณีศึกษาเปรียบเทียบ : มาคำนวณสมผุสอาทิตย์กันเถอะ !!
          ในบทความที่แล้วได้นำเอาเรื่องของการหาหรคุณจูเลียนมาเผยแพร่ และแสดงตัวอย่างการคำนวณไว้ให้พร้อมสรรพ ซึ่งการหาหรคุณจูเลียนนั้นมีประโยชน์มากตรงที่สามารถหาหรคุณได้จากวันเดือนปีที่ต้องการ แล้วนำค่าที่กำหนดไปลบออกเป็นหรคุณประสงค์แบบจุลศักราช โดยที่เราไม่ต้องไปคำนวณหาหรคุณกำเนิด แล้วนับหาสุรทินมาบวกเข้าให้ยุ่งยาก และอาจผิดพลาดง่ายอย่างแต่ก่อน จึงนับว่าเป็นวิธีที่มีประโยชน์มากในการคำนวณเพื่อนำไปทำเป็นโปรแกรมต่อไป
          มีผู้ปรารภกับฉันถึงการทำสูตรสุริยยาตรให้สั้นเข้าใจง่าย ซึ่งเท่าที่ฉันพบก็จะมีสุริยยาตรศิวาคมของพันเอก(พิเศษ) เอื้อน  มณเฑียรทอง ที่เป็นสูตรสำหรับเครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์(ค่า sin,cos เป็นแบบ degrees) ถือว่ามีความลัดสั้นในระดับหนึ่ง โดยที่ผลคำนวณออกมามีค่าตรง/ใกล้เคียงกับการคำนวณแบบท้องคัมภีร์เดิม และแบบของอ.ทองเจือ  อ่างแก้ว ซึ่งมีผู้นิยมใช้อยู่หลายท่าน พอกล่าวถึงสมการสุริยยาตรที่ลัดสั้น ทำให้ย้อนคิดไปถึงคุณทองคำขาว ที่ท่านได้เผยแพร่สมการกลางสุริยยาตรที่เรียกว่า “Great Suriyayart” ผ่านเว็บไซต์ payakorn.com ไว้เมื่อปี 2545 โดยท่านกล่าวว่า “เป็นสมการที่เป็นแม่แบบ ของตำราสุริยยาตร์ในแต่ละฉบับก็ว่าได้” ตอนนั้นก็ทำให้ฉันสนใจใคร่ศึกษาเพิ่มความรู้สติปัญญา และก็ได้ใส่ใจในการศึกษาเปรียบเทียบกับการคำนวณตามท้องคัมภีร์ที่นิยมอยู่ดังกล่าวด้วย
ในส่วนของคุณทองคำขาวนั้นฉันขอไม่นำมากล่าวใดๆมาก ท่านสามารถสืบค้นได้จากเว็บพยากรณ์ ในนั้นท่านจะอธิบายที่มาที่ไปไว้เสร็จสรรพ ฉันจะนำมาเฉพาะในส่วนการคำนวณที่น่าสนใจ โดยเริ่มจากการคำนวณหาสมผุสอาทิตย์และจันทร์ มีสูตรการคำนวณดังนี้
1. มัธยมอาทิตย์ = 360*800*hd/292207-3/60
2. สมผุสอาทิตย์ = มัธยมอาทิตย์ - (134/60) SIN[มัธยมอาทิตย์ - 80]
hd คือค่าหรคุณจากจุลศักราช
สมการเสริมแปลงค่าเป็นองศาจำนวนจริง(ปรับให้อยู่ในช่วง 360 องศา)
องศาลัพธ์ = องศาจำนวนจริง - 360*int(องศาจำนวนจริง/360)
หากต้องการทราบว่าอยู่ราศี- องศา- ลิปดาใด ให้ปรับ "องศาลัพธ์" ด้วยสูตร
ราศี = int(องศาลัพธ์ / 30)
องศา = องศาลัพธ์ - 30 *ราศี
ลิปดา = int(60*(องศาลัพธ์ - int(องศาลัพธ์)))
ตัวอย่าง วันที่ 1 มกราคม 2558 เวลา 08.30 น. หาค่าหรคุณแบบจูเลียนได้ 2457024 ลบด้วย 1954167 เป็นหรคุณประสงค์แบบจุลศักราชได้ 502857 ในที่นี้จะแสดงการคำนวณแบบไม่บวกทศนิยมเวลา แต่หากประสงค์ทำทศนิยมเวลาด้วยสามารถทำได้ดังนี้
          8 x 60 =  480 + 30 = 510 / 1440 = 0.3541 + 502857 = 502857.3541
          hd = 502857.3541 ซึ่งค่าที่จะนำเข้าไปแทนค่าในสูตรคือ 502857
สูตร มัธยมอาทิตย์ = 360*800*hd/292207-3/60
          360 x 800 = 288000
          288000 x 502857 = 144822816000
144822816000 /  292207 = 495617.20287330556762842779262646
495617.20287330556762842779262646 – 0.05 = 495617.15287330556762842779262646
(ค่า 0.05 มาจาก 3 / 60)
          มัธยมอาทิตย์ = 495617.15287330556762842779262646
สูตร สมผุสอาทิตย์ = มัธยมอาทิตย์ - (134/60) SIN[มัธยมอาทิตย์ - 80]
          495617.15287330556762842779262646 - (2.233333333 * 0.923555731 = 495615.09026550656762842779262646
          (ค่า 134 /60 = 2.2333333333333333 , ค่า SIN[มัธยมอาทิตย์ - 80] = 0.923555731)
          สมผุสอาทิตย์ = 495615.09026550656762842779262646
ทำให้เป็นค่าองศาจริงตามสูตร องศาลัพธ์ = องศาจำนวนจริง - 360* int(องศาจำนวนจริง/360)
360 x 1376 = 495360
495615.09026550656762842779262646 – 495360 = 255.09026550656762842779262646
ลัพธ์องศาจริง = 255.09026550656762842779262646
ราศี = 255.09026550656762842779262646 / 30 = 8.5030088502189209475930875486667
องศา = 0.5030088502189209475930875486667 x 30 = 15.0902655065676284277926264
ลิบดา = 0.0902655065676284277926264 x 60 = 5.41593039405770566755758760006
สรุปได้ค่าสมผุสอาทิตย์จากสมการกลางนี้ = ราศี 8 องศา 15 ลิปดา 5
          โดยเมื่อเปรียบเทียบค่าที่ได้จากโมดูลสุริยยาตร บน excel จะได้ค่า = ราศี 8 องศา 16 ลิปดา 32 ห่างกันอยู่ประมาณ 1 องศา 27 ลิปดา
          และเมื่อนำค่าที่หาได้จากการคำนวณทั้ง 2 แบบ ในเวลาประมาณ 30 วัน แล้วนำค่าที่ได้ไปทำกราฟเปรียบเทียบ จะเห็นว่าค่ากราฟสมการกลางมีลักษณะโค้งขึ้นลง แต่กราฟที่ได้จากการคำนวณปกติจะหยักตรงขึ้นไปในลักษณะไต่เรียบเคียง ซึ่งเป็นเพราะค่าแบบปกตินั้นมีช่วงคำนวณปรับตามเกณฑ์นั่นเอง
(สำหรับท่านที่ถนัดทาง excel สามารถนำค่าสูตรสมการไปลงแทนค่าตัวแปรแล้วทำผลคำนวณได้เลย)


ธีรพร  เพชรกำแพง
27 มกราคม 2558
หมายเหตุ : ค่าที่ได้จากสมการกลางเป็นค่าเชิงศึกษาเปรียบเทียบเชิงต้นแบบ มิใช่ค่ามาตรฐานนิยมในขณะนี้

20 มกราคม 2558

มาคำนวณหรคุณจูเลียนกันเถอะ !!

การคำนวณหรคุณจูเลียน
(Julian day)
หรคุณจูเลียน คือจำนวนวันสะสมจากจุดตั้งต้น คือวันที่ 1 มกราคม ก่อนคริสตศักราช 4713 ปี เวลา 12.00 น. จนถึงวันที่ต้องการหาหรือที่เรียกว่าหรคุณประสงค์ และสามารถเปลี่ยนค่าหรคุณจูเลียนไปเป็นค่าหรคุณที่คำนวณจากจุลศักราชได้ โดยการนำค่าหรคุณจูเลียนลบด้วย 1954167 ก็จะได้หรคุณประสงค์แบบที่คำนวณด้วยจุลศักราช โดยสูตรการคำนวณมีดังนี้

y = ค.ศ. , mo = เดือน , d = วันที่
im = (12 * y) + mo + 57597
J = (2 * (im - Int(im / 12) * 12) + 7 + 365 * im) / 12
J = Int(J) + d + Int(im / 48) - 32083
ถ้า J > 2299171 ให้ J = J + Int(im / 4800) - Int(im / 1200) + 38
Julian day = J

ตัวอย่าง คำนวณหรคุณจูเลียนวันที่ 1 มกราคม 2558 (ค.ศ.2015)
y = 2015 , mo = 1 , d = 1
im = (12 * 2015) + 1 + 57597
im = 24180 + 1 + 57597 = 81778

J = (2 * (81778 - Int(81778 / 12) * 12) + 7 + 365 * 81778) / 12
J = 2 * 10 = 20 + 7 = 27 + 29848970 = 29848997 / 12 = 2487416.4166

J = Int(J) + 1 + Int(81778 / 48) - 32083
J = 2487416 +  1 = 2487417 + 1703 = 2489120  - 32083 = 2457037

J > 2299171 ดังนั้น J = J + Int(81778 / 4800) - Int(81778 / 1200) + 38
J = 2457037 + 17 = 2457054 - 68 = 2456986 + 38 = 2457024

หรคุณจูเลียน = 2457024 เมื่อนำไปลบกับ 1954167 จะได้ค่าหรคุณประสงค์จุลศักราช คือ 502857

          หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเกิดประโยชน์แก่ท่านที่รักทั้งหลาย

ธีรพร  เพชรกำแพง
21 มกราคม 2558


 ตรวจสอบค่าที่ได้โดยฟังก์ชั่นหาหรคุณจูเลียนในโมดูลสุริยยาตร บน excel โดย ธีรพร บุญวงษ์(เพชรกำแพง)(หมอฮิปโป)

18 มกราคม 2558

สิ่งละอัน..วันละน้อย (8 มกราคม 2558)

ท่านเกรียงถามฉันว่าการเขียนโปรแกรมโหราศาสตร์นั้นยากไหม? หากจะกล่าวกันตามความเป็นจริงแล้วถือว่ายากเอาการอยู่ เพราะคนที่จะมาเขียนโปรแกรมทางโหราศาสตร์ได้ ก็จำเป็นที่จะต้องมีต้นทุนเฉพาะตัวสูงมาก คือ
๑. ต้นทุนทางด้านความรู้ทางโหราศาสตร์ภาคพยากรณ์ที่จะต้องมีความเข้าใจลึกซึ้ง แล้วจึงจะถ่ายทอดรูปแบบความต้องการของผู้ใช้งานนั้นออกมาด้วย ตรงนี้ก็จะเข้าต้นทุนความรู้ทางโหราศาสตร์ภาคคำนวณตามคตินิยมที่เขาใช้กันในปัจจุบัน(สายนะ นิรายะ สุริยยาตร สากล ยูเรเนียน)
๒. ต้นทุนความรู้ทางการเขียนโปรแกรม ตั้งแต่ตัวโปรแกรมที่ต้องลงทุนสรรหามา ตำราคู่มือสอนการใช้ให้เข้าใจ ส่วนเสริมต่างๆที่ต้องควักกระเป๋าจ่ายเกือบจะทั้งหมด เพราะไม่มีเผยแพร่เป็นสาธารณะ
๓. ต้นทุนทางด้านบุคคล คือ ตัวฉันเองที่จะต้องบริหารทรัพยากรความเป็นไปของชีวิต โดยเฉพาะเรื่อง "เวลา" ที่จะไม่นำเอาเวลาราชการมาใช้เขียนโปรแกรม และเรื่องรายจ่ายที่เกี่ยวข้องจิปาถะ
ที่กล่าวแค่ ๓ ต้นทุนนี้ก็ถือว่าอักโขเอาการทีเดียว ถึงคิดได้ว่าที่เขาทำขายกันทำไมต้องขายแพงๆ เพราะต้นทุนมันมากอย่างนี้นี่เอง ซึ่งเรื่องนี้ฉันก็เข้าใจท่านเหล่านั้นอยู่ จึงเสนอตนมาเป็นเพียวตัวเลือกแก่ท่านที่สนใจ หากจะเลือกสิ่งที่ดีกว่าฉันขึ้นไปก็ถือว่าสมควร เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถของท่านต่อไป
สิ่งที่จะทำในปี ๕๘ นี้ ตั้งมั่นตั้งใจไว้หลายอย่าง แต่ก็ต้องวางแผนงานและรวบรวมข้อมูลให้พร้อมเสียก่อน ส่วนงานปลีกย่อเล็กๆนั้นก็จะมีปรากฏต่อสายตาให้ท่านได้ทัศนากันอยู่เรื่อยๆครับ

(ภาพประกอบ ของขวัญที่ท่านชนะส่งมาให้ฉัน เพื่อเป็นกำลังใจได้สรรงานทางด้านโหราศาสตร์เผยแพร่ต่อไป ในกลุ่มเรานี้มีท่านชนะท่านเดียวที่เคยพบฉันตัวเป็น ได้มีโอกาสสนทนาธรรมและประเด็นทางโหราศาสตร์พอได้สาระสบายใจอยู่บ้าง)

17 มกราคม 2558

เลข ๗ ตัว ๙ ฐาน ตอน คำพยากรณ์ฐาน ๙ กระทบกาลโยค

อัตตะ เป็น โลกาวินาส  ความว่า ค่อนข้างจะเก็บเนื้อเก็บตัว เป็นคนที่ไม่ค่อยจะเรื่องมาก ไม่ค่อยสนใจต่อโลกภายนอก
อัตตะ เป็น อริ ความว่า มักพิจารณาอะไรผิดพลาดได้ง่าย มีความเจ็บไข้ได้ป่วยในตน
อัตตะ เป็น ขุมทรัพย์ ความว่า เป็นผู้มีสมองคล่องแคล่วในการคิดทำมาหากิน
อัตตะ เป็น มรณะ ความว่า เป็นคนที่มักจะทำอะไรเสี่ยงๆ มีความเจ็บป่วย พลัดที่พลัดถิ่น
อัตตะ เป็น อธิบดี ความว่า วางตัวเป็นผู้ใหญ่ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น สามารถมีความคิดริเริ่มได้ดี สามารถก่อร่างสร้างตนเองจนประสบความสำเร็จ
อัตตะ เป็น ราชา ความว่า มีโชคในการทำมาหากิน มักได้รับความอุปถัมภ์ส่งเสริม เป็นที่ยกย่อง
อัตตะ เป็น ธงไชย ความว่า มีความเชื่อมั่นในตนเองในเรื่องการหารายได้ มีอาชีพการงานเป็นหลักฐาน

สักกะ เป็น โลกาวินาส  ความว่า เพื่อนฝูงมักชักนำให้เสียหาย ปลิ้นปล้อน หลอกลวง คดโกง
สักกะ เป็น อริ ความว่า ศัตรูในคราบมิตรสหาย เสียหายเพราะเพื่อนพ้อง ความขัดแย้งผิดใจในวงมิตร
สักกะ เป็น ขุมทรัพย์ ความว่า มีเพื่อนเป็นทรัพย์ พึ่งเพื่อนและให้เพื่อนพึ่งพาอาศัยได้ มิตรสหายชี้ช่องทางในเรื่องการทำมาหากิน
สักกะ เป็น มรณะ ความว่า เคราะห์จากการเดินทาง เพื่อนที่ดีมีน้อย มักเสียเพื่อนและพี่น้อง
สักกะ เป็น อธิบดี ความว่า มิตรสหายเป็นคนมีหลักฐาน พึ่งพาอาศัยเพื่อนได้ การอยู่ในแวดวงสังคมที่สูงกว่าตน
สักกะ เป็น ราชา ความว่า มิตรสหายมักชักนำโชคลาภมาให้ มักนำผลประโยชน์ในด้านต่างๆ มาให้
สักกะ เป็น ธงไชย ความว่า เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนฝูง และได้รับความอุปการะจากแวดวงสังคมของตน

ญาติ เป็น โลกาวินาส  ความว่า การทรยศหักหลังกัน มีศัตรูลับ ญาติห่างเหินด้วยความรู้สึก
ญาติ เป็น อริ ความว่า เกิดความทะเลาะเบาะแว้ง กินแหนงแคลงใจกับญาติพี่น้อง
ญาติ เป็น ขุมทรัพย์ ความว่า มีญาติพี่น้องให้ประโยชน์ในทรัพย์สินเงินทอง ญาติพึ่งพาอาศัยได้
ญาติ เป็น มรณะ ความว่า การสูญเสียทรัพย์สินมรดก สูญเสียญาติพี่น้อง หาญาติพี่น้องช่วยเหลือกันด้วยความจริงใจด้วยยาก
ญาติ เป็น อธิบดี ความว่า ได้รับการช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ในการสร้างฐานะหลักฐาน สามารถสร้างสรรค์ความเจริญทั้งหลายให้แก่ตนเองได้
ญาติ เป็น ราชา ความว่า ได้ประโยชน์จากญาติพี่น้อง เพื่อนมิตรสหาย ญาติให้ความอุปถัมภ์ค้ำชู
ญาติ เป็น ธงไชย ความว่า มีพี่น้องดี มีญาติที่ดี มีผู้ช่วยเหลือในวงญาติพี่น้อง การร่วมหุ้นร่วมลงทุนดี

ธะนัง เป็น โลกาวินาส  ความว่า เก็บเงิน เก็บทรัพย์สินไว้ไม่ค่อยจะได้ เก็บไม่อยู่ มีเงินมักมีเรื่องต้องใช้อยู่เสมอๆ
ธะนัง เป็น อริ ความว่า มีเรื่องเดือดร้อนทางการเงิน ทางทรัพย์สิน เป็นหนี้สิน ต้องเหน็ดเหนื่อย ต้องต่อสู้ดิ้นรนในการทำมาหากิน
ธะนัง เป็น ขุมทรัพย์ ความว่า เป็นผู้จัดสรรทรัพย์สิน มีสติปัญญา ความรู้ความสามารถ มองเห็นช่องทางในการหาเงินหาผลประโยชน์อยู่เสมอๆ
ธะนัง เป็น มรณะ ความว่า ทรัพย์สินเสียหาย ถูกโกง หนี้สูญ ใช้จ่ายเงินโดยไร้เหตุผล ฟุ้งเฟ้อ มีรายจ่ายมากกว่ารายรับ มีคดีความทางแพ่ง
ธะนัง เป็น อธิบดี ความว่า มีทรัพย์สินเป็นหลักฐาน เงินทองที่มีอยู่หาผลประโยชน์เพิ่มขึ้น ส่งผลดีในด้านการงานอาชีพ
ธะนัง เป็น ราชา ความว่า มีหัวริเริ่มในการหาเงิน มีรายได้เข้าไม่ขาด มีลาภผลดี ได้รับการอุปถัมภ์ทางการเงิน
ธะนัง เป็น ธงไชย ความว่า มีการศึกษาดี ได้รับเงินจากความรู้ความสามารถ เป็นบุคคลที่มีความคิดแน่วแน่ในการหารายได้

เคหัง เป็น โลกาวินาส  ความว่า บ้านเรือนที่อยู่อาศัยเกิดความเสียหาย ปัญหาแทรกแซงภายในครอบครัวใหญ่
เคหัง เป็น อริ ความว่า การเป็นหนี้สินเพราะทรัพย์สินที่ทางบ้านช่อง บ้านเรือนที่อยู่อาศัยเกิดความเสียหาย
เคหัง เป็น ขุมทรัพย์ ความว่า การได้ผลกำไรผลดีจากทรัพย์สินที่ทางบ้านช่องที่มีอยู่
เคหัง เป็น มรณะ ความว่า บ้านเรือนที่อยู่อาศัยเกิดความเสียหาย การต้องจากบ้านที่เคยอยู่อู่ที่เคยนอน
เคหัง เป็น อธิบดี ความว่า เป็นผู้มีอสังหาริมทรัพย์เป็นสมบัติ หลักฐานมั่นคง ผู้ใหญ่ให้การช่วยเหลือ
เคหัง เป็น ราชา ความว่า การมีโชคลาภ ผลดี กำไร จากบ้านช่องทรัพย์สินที่ดินไร่นา
เคหัง เป็น ธงไชย ความว่า ความตั้งใจในประโยชน์จากบ้านช่องที่ดินทรัพย์สิน จะประสบผลดีตามที่ตั้งใจ

นาวัง เป็น โลกาวินาส  ความว่า เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบกะทันหัน ความเสียหายต้องไปจากที่จากถิ่นฐาน ยานพาหนะเสียหาย
นาวัง เป็น อริ ความว่า มีการโยกย้ายเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงทางด้านการงาน ยานพาหนะเสียหาย
นาวัง เป็น ขุมทรัพย์ ความว่า ได้ทรัพย์สินจากการเปลี่ยนแปลง การโยกย้ายไปในที่ดีขึ้นกว่าเดิม ลาภเป็นพาหนะ
นาวัง เป็น มรณะ ความว่า อุบัติเหตุอาเพศภัยจากยานพาหนะ การเดินทางไกล การต่างประเทศ
นาวัง เป็น อธิบดี ความว่า ทรัพย์สินมีความมั่นคงเป็นหลักเป็นฐาน การโยกย้ายเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิม
นาวัง เป็น ราชา ความว่า การได้รับมรดกทรัพย์สิน ความอุปถัมภ์ช่วยเหลือทางด้านบ้าน ที่ดิน ยานพาหนะ
นาวัง เป็น ธงไชย ความว่า การได้รับผลดีจากทรัพย์สิน บ้าน ที่ดิน ยานพาหนะ การโยกย้ายเปลี่ยนแปลงสมดังเป้าหมายที่ตั้งใจไว้

ภริยัง เป็น โลกาวินาส  ความว่า เหตุภัยจากเพศจากตรงข้าม ปัญหาอุปสรรคที่เพศตรงข้ามนำมาสู่
ภริยัง เป็น อริ ความว่า เกิดศัตรูจากเพศตรงข้าม ความลำบากยุ่งยากใจมาจากเพศตรงข้าม
ภริยัง เป็น ขุมทรัพย์ ความว่า เพศตรงข้ามให้ความอุปถัมภ์ทรัพย์สิน นารีอุปถัมภ์/บุรุษอุปถัมภ์
ภริยัง เป็น มรณะ ความว่า การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักที่ชอบใจซึ่งเป็นเพศตรงข้าม การต้องจากลาเพศตรงข้าม
ภริยัง เป็น อธิบดี ความว่า เพศตรงข้ามที่มีอายุมากกว่าอำนวยประโยชน์ความสมประสงค์
ภริยัง เป็น ราชา ความว่า ความสะดวกสำเร็จราบรื่นที่มาโดยง่ายจากเพศตรงข้าม

ภริยัง เป็น ธงไชย ความว่า เป้าหมายเกี่ยวกับเพศตรงข้ามจะประสบความสำเร็จ


ธีรพร  เพชรกำแพง

๑๗ มกราคม ๒๕๕๘

สิ่งละอัน..วันละน้อย (16 มกราคม 2558) #2

ถาม : นิรายานะคือระบบที่โหราศาสตร์สากลใช้ใช่มั้ยครับรวมทั้งระบบยูเรเนียน แต่ที่ยังงงคือระบบฟราแกนส์จะใช้เมื่อไรครับ

ตอบ : นิรายนะวิธี ที่กล่าวถึงในที่นี้คือขั้นตอนวิธีในการทำตำแหน่งดาวในระบบสายนะ(ส+อยน=เคลื่อนที่)เป็นแบบนิรายนะ(นิร+อยน=ไม่เคลื่อนที่,คงที่) จากหลักคิดในเรื่องของการตัดค่าอายนางศ ซึ่งมีหลายรูปแบบ ประสานักคำนวณเรียกกันว่า "หลายค่าย" โดย Lahiri และ Fagan-Bradley ที่นิยมใช้ในบ้านเราก็เป็นหนึ่งในค่ายเหล่านั้นด้วยครับ
ลักษณะการคำนวณสมผุสปัจจัยต่างๆเราจะใช้สูตรการคำนวณทางดาราศาสตร์สากล(สายนะ) เพื่อให้ได้ตำแหน่งปัจจัยจริงบนท้องฟ้า ระบบยูเรเนียนก็ใช้วิธีการเดียวกันนี้(แต่ดาวทิพย์นั้นมีวิธีการคำนวณต่างออกไปอีก) แล้วนำสมผุสที่ได้นั้นมาทำเป็นแบบนิรายนะด้วยวิธีการหักออกด้วยค่าอายนางศดังกล่าว โดยที่ค่าอายนางศก็จะมีค่าเพิ่มขึ้นทุกปี จนปัจจุบันนี้ค่าอายนางศแบบ Lahiri ไป 24.07 องศา และแบบ Fagan-Bradley ไป 24.95 องศาแล้ว
ยกตัวอย่างตำแหน่งอาทิตย์ทางดาราศาสตร์วันนี้ 16 มกราคม 2558 มีค่าเท่ากับ 295.801 องศา หากจะทำเป็นนิรายนะแบบลาหิรี ให้นำค่าอายนางศ 24.07 มาลบออก คงได้ 271.732 องศา เป็นค่าที่เราใช้เป็นตำแหน่งแบบนิรายนะแล้ว (หรือ 1 มกร 43) ขั้นตอนวิธีการทั้งหมดนี้เราเรียกว่า "นิรายนะวิธี" คือวิธีการให้ได้มาซึ่งตำแหน่งปัจจัยแบบคงที่

ส่วนระบบฟราแกนส์ที่ท่านกล่าวถึงนี้ผมไม่ทราบว่าหมายถึงอะไรน่ะครับ ก็ขออธิบายคร่าวๆอย่างนี้ก่อนครับ

สิ่งละอัน..วันละน้อย (16 มกราคม 2558)


ถาม : ขอสอบถามหน่อยค่ะ การพยากรณ์ ดวงแบบสุริยยาตร ๑๐ ลักขณ์ ลาหิรี (นิรายนะ) มีความแตกต่างกันอย่างไรค่ะ เพราะเวลาผูกดวงแล้ว ลักขณาไม่ตรงกันเลย

ตอบ : สุริยยาตรวิธี และ นิรายนะวิธี นั้นเป็นเรื่องของปฏิทินดาวที่มาจากการคำนวณคนละแบบกันครับ สุริยยาตรเป็นตรับเก่าที่ไทยเราใช้ในการคำนวณหาตำแหน่งดาวมานาน มีปูมจากจุลศักราชแล้วคำนวณไปตามขั้นตอนก็จะได้ตำแหน่งดาวออกมา ส่วนนิรายนะวิธี หรือจะเรียกให้ถูกว่าเป็นการคำนวณหาตำแหน่งดาวทางดาราศาสตร์ปัจจุบัน ที่นิยมว่ามีความถูกต้องตรงกับตำแหน่งดาวบนท้องฟ้า แล้วมีการตัดค่าอายนางศตามแบบต่างๆ ซึ่งก็มีค่าอายนางศแบบ "ลาหิรี" ที่นิยมใช้และเรียกกันติดปากในบ้านเรานี้ด้วย ในทางพยากรณ์นั้นอาจจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของ "ขั้นตอน" การหาปัจจัยต่างๆ อย่างเช่นการหาลัคนาทางสุริยยาตรจะใช้แบบอันโตนาที ส่วนนิรายนะจะใช้แบบเวลานักษัตร หรือความเชื่อที่ว่าการใช้ทัศนสัมพันธ์เชิงมุมทางนิรายนะจะใช้ได้ผลดีกว่าสุริยยาตร เป็นต้น ซึงทั้งสองแบบนี้เราเรียกว่าเป็น "ระบบ" ทางโหราศาสตร์ ฉะนั้นจึงไม่สามารถนำมาปะปนเปรียบเทียบกันได้ เมื่อเข้าใจว่ามันคนละระบบในชั้นขั้นตอนวิธีการนี้ว่าเป็น "เหตุ" ก็จะไม่ต้องมาเถียงกันในชั้น "ผล" ว่าแบบไหนดีกว่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้จะเลือกใช้อย่างใด(เหตุ)แล้วได้รับผลดีอย่างไร(ผล) จึงยึดรูปแบบวิธีการอย่างนั้น ส่วนในชั้นพยากรณ์ก็จะมีรูปแบบการอ่านปัจจัยคล้ายๆกัน ถือว่าไม่แตกต่างกันมากในชั้นนี้
สิบลัคนา เป็นการสร้างปัจจัยต่อยอดความคิดจากตำแหน่งดาวปกติตาม และมีหลักวิชาในทางพยากรณ์ที่ระบุไว้เป็นการเฉพาะ ซึ่งผมเองไม่สันทัดที่จะนำมาบอกกล่าวให้กระจ่างได้ทั้งหมด ก็ขอให้ทราบเป็นเชิงนี้ว่าเป็น "รูปแบบเฉพาะ" ของโหราศาสตร์อีกอย่างหนึ่ง
เรื่องลัคนาไม่ตรงกันนั้น เนื่องจากความที่เป็นคนละแนวความคิด หลักคิด วิธีการคิด และลักษณะของการคำนวณที่ต่างกัน ตำแหน่งของลัคนาที่ได้จึงมีความต่างกัน ตั้งแต่ระดับลิบดา องศา หรือราศีไม่ตรงกันเลยก็เป็นได้ เพราะมูลเหตุตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ส่วนที่ว่าลัคนาใดจึงจะถูกต้อง ตรงนี้จะต้องใช้กระบวนวิธีทางโหราศาสตร์ที่เรียกว่าการ "สอบลัคนา" เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจครับ

เรื่องที่ท่านถามนี้เป็นเรื่องที่กว้างและมีรายละเอียดลึกทางโหราศาสตร์ จะอธิบายแบบม้วนเดียวจบคงไม่ได้ ผมจึงขมวดประเด็นให้ท่านเข้าใจและเห็นภาพกลางๆเพียงเท่านี้ หากประสงค์ในขั้นสูงขึ้นก็สามารถศึกษาจากตำราหรือสืบค้นข้อมูลตามอินเตอร์เน็ต ก็คงจะได้ความรู้เหล่านี้ในระดับที่สามารถทำความเข้าใจได้ครับ

16 มกราคม 2558

กระดานดวงเดิม โปรแกรมผูกดวงชะตาเดิม(สุริยยาตรวิธี)


โปรแกรม "กระดานดวงเดิม" รุ่นปรับปรุงล่าสุด(17 มกราคม 2558) !!!
ใช้สำหรับเฉลิมรูปดวงวางปัจจัยโหราศาสตร์ไทย แบบสุริยยาตรวิธี มีการหาลัคนา ๓ แบบ คือ
-อันโตนาทีสามัญ สมผุสอาทิตย์อุทัย
-อันโตนาทีสามัญ อาทิตย์อุทัย 06.00 น.
-อันโตนาทีสามัญ อาทิตย์อุทัย 06.00 น.ตัดเวลาท้องถิ่น
มีส่วนแสดงรายละเอียดปัจจัยหลัก(ราศี องศา ลิบดา ตรียางค์ นวางค์ ฤกษ์ หมวดฤกษ์) และส่วนที่เกี่ยวข้อง(พิกัดจังหวัด เวลาพระอาทิตย์ขึ้น-ตก)
เหมาะสำหรับการจับภาพ(snap)เพื่อนำไปใช้ในการเขียนบทความ หรือศึกษาพื้นดวงเดิม(ในตัวนี้จะไม่มีปัจจัยจรและทักษา)

ธีรพร  เพชรกำแพง
17 มกราคม 2558
ลิงค์ดาวน์โหลด : https://www.mediafire.com/?7psdbfyfsf35wkv

โปรแกรม "กระดานดวงเดิม" (แก้ไขเล็กน้อย ๒๒ มกราคม ๒๕๕๘)
โหราศาสตร์ไทย แบบสุริยยาตรวิธี มีการหาลัคนา ๓ แบบ คือ
อันโตนาทีสามัญ สมผุสอาทิตย์อุทัย
อันโตนาทีสามัญ อาทิตย์อุทัย 06.00 น.
อันโตนาทีสามัญ อาทิตย์อุทัย 06.00 น.ตัดเวลาท้องถิ่น
มีส่วนแสดงรายละเอียดปัจจัยหลัก(ราศี องศา ลิบดา ตรียางค์ นวางค์ ฤกษ์ หมวดฤกษ์) และส่วนที่เกี่ยวข้อง(พิกัดจังหวัด เวลาพระอาทิตย์ขึ้น-ตก)
เหมาะสำหรับการจับภาพ(snap)เพื่อนำไปใช้ในการเขียนบทความ หรือศึกษาพื้นดวงเดิม(ในตัวนี้จะไม่มีปัจจัยจรและทักษา)
หมายเหตุ : ปรับปรุงเรื่องการแสดงผลให้มีขนาดพอดีสวยงามยิ่งขึ้น

ธีรพร  เพชรกำแพง
๒๒ มกราคม ๒๕๕๘

ลิงค์ดาวน์โหลด : https://www.mediafire.com/?540otw16e3xnyxj

12 มกราคม 2558

องคลาภ ปัจจัยแห่งโชคลาภในดวงชะตา

องคลาภ
ปัจจัยแห่งโชคลาภในดวงชะตา

          ในครั้งนี้จะได้กล่าวถึงปัจจัยแห่งโชคลาภ(Part of Fortune) ที่ได้มีบัญญัติไว้ในชื่อที่เรียกว่า “องคลาภ” ปรากฏในหนังสือพยากรณ์สารของสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในยุคต้นๆ และนาวาเอกหม่อมเจ้าเจริญสุข โสภาคย์ เกษมสันต์ ได้นำมาใช้ ในระยะแรกนักศึกษาและผู้สนใจอาจจะยังไม่ได้ให้ความสำคัญที่จะนำมาใช้ หรืออาจจะเป็นเพราะไม่ทราบที่มาที่ไปและผลดีในทางพยากรณ์ จึงไม่ได้มีการใช้ให้พบเห็นกันชินตานัก จึงขอนำเรื่องราวของ “องคลาภ” นี้มาเล่าสู่กันฟังพอสังเขปบันเทิงใจในการศึกษาโหราศาสตร์ต่อไป
          ปัจจัยแห่งโชคลาภที่เรียกว่า “องคลาภ” นี้ มีวิธีการหาหรือวางตำแหน่งในดวงชะตาดังสูตรที่ว่า “ให้ตั้งสมผุสของลัคนา บวก สมผุสจันทร์ และ ลบด้วยสมผุสอาทิตย์ ลัพธ์สุดท้ายเป็นสมผุสขององคลาภ”
          ขอยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพชัด ซึ่งเราจะต้องมีข้อมูลสมผุสของปัจจัย ๓ อย่าง คือ ลัคนา อาทิตย์ และจันทร์ ของดวงชะตาที่เราประสงค์ต้องการจะทราบ โดยในที่นี้จะขอนำเอาการใช้โมดูลสุริยยาตร บน excel ที่ผู้เขียนได้พัฒนาไว้มาหาสมผุสปัจจัยดังกล่าว เพื่อความสะดวกและเห็นภาพที่มาที่ไปขององคลาภอย่างชัดเจน

          ตัวอย่าง เจ้าชะตากำเนิด ๑๕ มิถุนายน ๒๕๒๐ เวลา ๑๕.๐๐ น. กรุงเทพมหานคร เมื่อนำข้อมูลเข้าโมดูลสุริยยาตร บน excel แล้วจะได้สมผุสปัจจัยสุทธิถึงระดับลิปดา ดังนี้

          สมผุสอาทิตย์ ๓๖๓๑ (๐ มิถุน ๓๑)
          สมผุสจันทร์ ๒๘๒๓ (๑๗ พฤษภ ๓)
          สมผุสลัคนา ๑๑๓๑๖ (๘ ตุล ๓๖)
          เมื่อทราบสมผุสปัจจัยที่จะต้องนำมาใช้ในการหาองคลาภแล้ว ก็สามารถนำมาเข้าคำนวณตามสูตรดังนี้
          องคลาภ
= ลัคนา + จันทร์ – อาทิตย์
          องคลาภ
= ๑๑๓๑๖ + ๒๘๒๓ = ๑๔๑๓๙ – ๓๖๓๑ = ๑๐๕๐๘
          องคลาภ
= ๑๐๕๐๘ หาร ๑๘๐๐  ลัพธ์เป็นราศี = ๕ เศษ = ๑๕๐๘
          องคลาภ = ๑๕๐๘ หาร ๖๐  ลัพธ์เป็นองศา = ๒๕ เศษ = ๘ เป็นลิบดา
          องคลาภ
= ราศีกันย์(๕) ๒๕ องศา  ๘ ลิบดา (๒๕ กันย์ ๐๘)
          สรุปตามการคำนวณจากสูตรของการหาองคลาภด้วยตัวช่วยคือโมดูลสุริยยตร บน excel ได้ตำแหน่งปัจจัยองคลาภที่ราศีกันย์ ๒๕ องศา  ๘ ลิปดา เมื่อทราบดังนี้แล้วให้นับจากลัคนาไปเท่าเรือนที่องคลาภหมายอยู่ในราศีนั้น ว่าสถิตในเรือนใดประกอบด้วยคุณสมบัติสมญานามแห่งองคลาภ ที่ท่านกล่าวว่าให้คุณทางโชคลาภทรัพย์สินเงินทองรายได้ ทรัพย์ทั้งที่เคลื่อนที่ได้และเคลื่อนที่ไม่ได้ แตกต่างกันไปตามความหมายของเรือน ซึ่งยังเกี่ยวพันกับราศี เจ้าเรือน และโยคเกณฑ์ต่างๆได้เหมือนปัจจัยที่ใช้ในการพยากรณ์ตามปกตินั้นด้วย
          ความหมายแห่งองคลาภสถิตเรือน
          ๑.เรือนตนุ องคลาภเสริมสร้างโชคดีให้เป็นผู้สามารถสร้างฐานะตนเองด้วยลำแข้งลำขาและความพยายาม สารมารถตั้งต้นให้เด่นขึ้นดีขึ้นได้
          ๒.เรือนกดุมภะ องคลาภนี้แสดงว่ามีความรุ่งเรืองและร่ำรวย ต้องประกอบธุรกิจการงานจึงจะมั่งมีศรีสุข และที่น่าสนใจมากก็คือ องคลาภในเรือนนี้มักให้คุณเป็นพิเศษในด้านไมตรีจิตมิตรภาพ ซึ่งจะได้รับทั้งทรัพย์สินเงินทองของขาวเหลืองจากความสนิทเสน่หา
          ๓.เรือนสหัสชะ องคลาภส่งเสริมโชคดีในการติดต่อเดินทาง มักมีโชคลาภระหว่างเดินทางหรือมีข่าวดี ทั้งจะประสงผลดีในการปฏิบัติตามความเชื่อถือของศาสนาด้วย
          ๔.เรือนพันธุ องคลาภให้คุณมีโชคลาภร่ำรวยด้วยการสะสม มีรายได้ที่ดี ได้ลาภจากที่ดินที่อาศัย และผลดีทางพืชและแร่
          ๕.เรือนปุตตะ องคลาภส่งเสริมโชคลาภให้มีโชคดีและร่ำรวยเกี่ยวกับเด็กๆ ได้ลาภจากการเสี่ยงโชคการพนันขันต่อ และประสบผลดีในด้านการรื่นเริงบันเทิงใจและมหรศพด้วย
๖.เรือนอริ องคลาภนำโชคดีหรือผลดีมาให้โดยการให้บริการ ลงมือลงแรงทำ และมักจะประสบความร่ำรวยเนื่องมาจากบริกรผู้รับใช้และคนใช้หรือผู้น้อย ผู้ใต้ปกครอง
๗.เรือนปัตนิ องคลาภอำนวยโชคลาภ ได้ลาภ และร่ำรวยเนื่องจากการสมรส การแต่งงานเป็นแนวนำโชคที่ดี และความสำเร็จสมหวัง ตำแหน่งนี้ดีตลอดการร่วมมือร่วมงานร่วมทุนหุ้นส่วน
๘.เรือนมรณะ องคลาภมักให้คุณร่ำรวยด้วยการได้รับทรัพย์มรดก ได้ลาภของเก่าของมีค่า และได้ทรัพย์สินสิ่งของที่มีผู้ยกให้มอบให้
๙.เรือนศุภะ องคลาภส่งเสริมให้มีโชคลาภในการเดินทางไปต่างเมืองหรือต่างประเทศ จักประสบผลดี และความสำเร็จในกิจการเกี่ยวกับการสมาคมขนส่ง และการต่างประเทศ
๑๐.เรือนกัมมะ องคลาภให้ผลดีในกิจการงาน ประสบผลสำเร็จสมหวัง ได้รับเกียรติยศชื่อเสียง และเจริญรุ่งโรจน์ในธุรกิจและการประกอบอาชีพ
๑๑.เรือนลาภะ องคลาภเสริมสร้างโชคดีและความร่ำรวยความสำเร็จสมหวัง ที่เนื่องจากการคบค้าสมาคม เพื่อนฝูงมิตรสหายมักนำข่าวดีลาภผลมาให้
๑๒.เรือนวินาส องคลาภในตำแหน่งนี้อำนวยโชคดีไม่มากก็น้อย แม้จะถือกันว่าไม่ดีเท่าที่ควร แต่ก็ควรตระหนักด้วยว่าโชคลาภเป็นทุกขลาภ
          คงจะทำให้ท่านได้พอเห็นหนทางแห่งการหาและการใช้ตำแหน่งปัจจัยที่ได้รับสมญาว่าเป็น “องคลาภ” อันเป็นปัจจัยแห่งการพิจารณาโชคลาภในดวงชะตาได้เป็นอย่างดี ซึ่งในครั้งนี้ต้องขอขอบคุณข้อมูลความหมายองคลาภสถิตเรือนจากหนังสือ ตำราโหราศาสตร์ภาคพยากรณ์ ของสมาคมโหรแห่งประเทศไทยไว้ในโอกาสนี้ด้วย


ธีรพร  เพชรกำแพง
๑๒ มกราคม ๒๕๕๘