"รอยล้อแห่งเกวียน
หมุนเวียนตามรอยเท้าแห่งโค"...
วงรอบแห่งดวงชะตาย่อมย้อนรอยหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไป
โดยมีต้นแบบจากวิถีในอดีต เป็นปัจจุบัน ส่งผลถึงอนาคต
มองภาพรวมคล้ายเป็นเนื้อเดียวกัน แต่มีความ "ต่าง" กันไปทุกขณะ
อาศัยวงรอบที่มีกฎเกณฑ์พอที่จะอนุมานอุปมาเปรียบเทียบเชิงชั้นให้เห็นได้
นั่นก็คือกระบวนวิธีทางโหราศาสตร์ที่นำเอาธรรมชาติหนึ่งมาอธิบายอีกธรรมชาติหนึ่ง
ด้วยหลักการที่ว่า อนันตจักรวาลมีผลต่อจักรวาล จักรวาลมีผลต่อสรรพดาวทั้งหลาย
สรรพดาวทั้งหลายมีผลต่อดวงดาว ดวงดาวมีผลต่อพื้นที่อาณาเขตของตน
อย่างโลกเรานี้ก็อย่างนั้น คือ มีผลต่อพื้นที่ในโลก
และก็มีผลต่ออะไรก็ตามที่อยู่ในพื้นที่อาณาเขตนั้น
เช่นเดียวกันอีกว่าอาณาเขตใหญ่ก็มีผลต่ออาณาเขตน้อย
อาณาเขตที่ว่าน้อยนั้นก็ยังเป็นใหญ่ที่ไปหาน้อยกว่านั้นลงไปอีกเรื่อยๆเป็น "วัฏฏะ"
โดยความเป็นสากลอย่างนั้นก็สามารถที่จะย้อนอนุมานจากสิ่งเล็กน้อยไปหาสิ่งใหญ่ได้
เสมือนกับการได้เห็นผ้าผืนใหญ่ย่อมรู้โดยทันทีว่ามาจากด้ายเส้นน้อย
ขณะเดียวกันเมื่อเห็นด้ายเล็กๆก็หมายรู้เอาได้ว่าสามารถรวมเป็นผ้าผืนใหญ่
นี่คือเรื่องการมองว่ากระบวนวิธีทางโหราศาสตร์อธิบายความเป็นไปต่างๆได้อย่างไร
ยังไม่ต้องมองว่าจะต้องเอาอะไรมาเป็น "อุปกรณ์" ทางโหราศาสตร์
เราจะเห็นว่านักโหราศาสตร์เก่าๆท่านอนุมานสิ่งต่างๆที่สัมพันธ์รอบตัวออกมาเป็นการพยากรณ์
โดยที่ยังไม่ต้องนำอุปกรณ์อย่าง "ดวงดาว" มาใช้ ท่านก็ทำนายลึกซึ้งไปมากกว่าครึ่งแล้ว
นี่เป็นความ "อัศจรรย์" ทางโหราศาสตร์ที่เป็น "ภูมิปัญญา"
ของคนในพื้นที่นี้ แถบนี้ อาณาเขตนี้
ที่เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ใหญ่กว่าขึ้นไปตลอดจนถึงอนันต์
ทักทายไปถึงกัลยาณมิตรพี่น้องเพื่อนพ้องสมาชิกชาวสมุดจดดวงของเราทุกท่าน
อาจจะเห็นว่าห่างหายไปบ้างในช่วงนี้
ต้องบอกกล่าวกันก่อนว่าภาระหน้าที่ในงานประจำนั้นมีมากพอสมควร
ประกอบกับร่างกายที่ไม่ค่อยจะปกติอย่างที่ทราบ พอใช้งานหนักเข้าก็ทำท่าจะแย่
ต้องพักผ่อนพักฟื้นอาศัยประเหลาะใช้ไปก่อน
เหตุนี้ก็เลยคล้อยเคลื่อนเลื่อนช้าในการที่จะได้เสนอสิ่งสรรต่างๆที่เป็นประโยชน์ทางโหราศาสตร์
ไม่สมประสงค์ตามที่ตั้งใจไว้ เมื่อภาระงานเบาลงบ้าง
และเมื่อเพลาๆจากการเดินทางไปรักษาตัวที่ศิริราช(๓-๔ ครั้งต่อเดือน)
พอหาเวลาสบายใจได้ก็จะลงมือสรรสร้างสิ่งดีๆให้กับท่านกัลยาณมิตรผู้ศึกษาโหราศาสตร์ทั้งหลายได้ยลกันอีกในโอกาสต่อไปครับ
ธีรพร เพชรกำแพง