ในการศึกษาโหราศาสตร์ท่านมักสอนเสมอว่าให้ทำตนเป็นผู้มีจิต
"อ่อนน้อม" พร้อมที่จะศึกษาเรียนรู้ตลอดเวลานั้นแหละเป็นการดี
เพราะจิตอ่อนน้อมเป็นจิตที่ "ควรแก่งาน"
มากกว่าจิตที่กระด้างอยากเรียนรู้เพื่อเสริมอัตตาของตนเองให้ใหญ่โตขึ้นไปว่า "ข้านี้ก็มีภูมิรู้"
การศึกษาในระบบรูปแบบของสายวิชาใดหรือครูบาอาจารย์ท่านใด
หากจิตไม่อ่อนน้อมที่จะรับรู้ในหลักคิดดังกล่าวนั้น
ย่อมไม่ประสบผลสำเร็จในการศึกษานั้น
เพราะมิได้มองจากจุดเดียวกันกับผู้ที่ถ่ายทอดเป้าหมายแห่งวิชานั้นๆ
มิซ้ำจะพลอยว่าหลักการหรือหลักวิชานั้นไม่สามารถใช้ได้จริงไปเสียอีกด้วย
เหตุเพราะจิตกระด้างกลายๆว่าอคติแต่เดิมเป็นทุน
จึงยากที่จะซึมซับรับรู้ความรู้ที่อาจจะมีความแผกแปลกไปจากตนอย่างเป็นการเสียโอกาสที่น่าเสียดายยิ่ง
เพราะความรู้ทางโหราศาสตร์นี้ไม่ว่าจะดีเด่นด้อยถอยค่าอย่างใดก็ตาม
เมื่อรับรู้อย่างถี่ถ้วนด้วยจิตที่อ่อนน้อมแล้ว ความรู้นั้นย่อมมี
"คุณค่า" เสมอ แม้จะเป็นเพียง "รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม"
นั่นก็เป็นคุณประโยชน์อย่างมหาศาลในการที่จะมุ่งปฏิบัติตามหรือพัฒนาต่อยอดความรู้ให้แตกฉานมั่นคงขึ้น
อย่างน้อยที่สุดก็เป็นภูมิรู้เชิงเปรียบเทียบ ดีกว่าปฏิเสธที่จะไม่รู้อะไรเอาเสียเลย
ความอ่อนน้อมในทางโหราศาสตร์ทำให้มองเห็นภูมิรู้ของท่านนั้นๆเป็นอย่างดี
โดยเฉพาะครูบาอาจารย์รุ่นเก่าๆเป็นตัวอย่างได้เป็นอย่างดี
ดูเหมือนแม้ท่านไม่รู้อะไรแต่กลับเป็นผู้ทรงภูมิแตกฉานในการใช้วิชาทางโหราศาสตร์อย่างแท้จริง
สมควรที่เราจะเอาเยี่ยงอย่างท่าน
เพื่อเป็นบรรทัดฐานความดีงามของผู้ที่ก้าวเข้าสู่วงการโหราศาสตร์ในโอกาสต่อไป
ธีรพร เพชรกำแพง