10 พฤศจิกายน 2557

สิ่งละอัน..วันละน้อย (10 พฤศจิกายน 2557)

โหราศาสตร์นั้นเป็นเรื่องที่ว่าด้วยการเรียนรู้ความเป็นไปของชีวิตมนุษย์ “โหรา” คือทิวาราตรีที่เป็นเรื่องของ “กาลเวลา” สิ่งใดที่อิงกับกาลเวลานี้ย่อมสามารถนำมาใช้เป็นโครงสร้างทางโหราศาสตร์ได้ ด้วยเหตุนี้ดวงดาวต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกาลเวลาเพราะมี “วงรอบการโคจร” ที่สังเกตช่วงเวลาและเหตุการณ์ที่สัมพันธ์กับบริบทพื้นที่(กาลเทศะ) จึงสามารถนำมาใช้เป็นอุปกรณ์ทางโหราศาสตร์ได้อย่างดี แทบจะมองแยกออกจากกันได้ยากจนมีคำกล่าวที่ว่าดาราศาสตร์และโหราศาสตร์เป็น “เนื้อเดียวกัน”
ฉะนั้นโหราศาสตร์ทุกวันนี้จึงต้องศึกษาเรียนรู้ถึงเรื่องดวงดาวบนท้องฟ้าควบคู่ไปกับความเป็นไปขอชีวิตมนุษย์ ตั้งแต่ในแง่ของความเป็นปัจเจกบุคคลตลอดรวมไปถึงความสัมพันธ์ติดต่อที่เรียกว่าการเป็นสังคม สรุปรวบเอาว่าเป็นเรื่องราวของ “ดวงดาว” ที่สรรด้วยหลักการทางโหราศาสตร์ถ่ายทอดออกมาเป็น “ดวงคน” นั้นเอง
ปัจจุบันเราจะเห็นว่าเรื่องราวของคนเรานั้นมีความสลับซับซ้อนยากง่ายแตกต่างกันไป แต่ความมุ่งหมายของโหราศาสตร์นี้ก็ยังมีจุดหลักอยู่ที่การ “อ่านวิเคราะห์” ผ่านดวงดาวด้วยกระบวนทัศน์ทางโหราศาสตร์อันเป็นการ “สังเคราะห์” มวลความรู้ต่างๆเข้าด้วยกันแล้วกลายมาเป็นคำพยากรณ์ที่นำมาใช้ในเหตุเรื่องราวต่างๆตามแต่จะเป็นไป เพื่อให้ได้เรื่องราวของคน สังคม บ้านเมือง ตลอดจนถึงโลกของเราซึ่งมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาโดยไม่มีการหยุดนิ่ง คือ “เป็นไป” เรื่อยๆ
เหตุดังนี้เอง ผู้ศึกษาโหราศาสตร์ทั้งหลายจึงมุ่งหาเป้าหมายอันสำคัญ คือการรู้ “ความเป็นไป” ของชีวิต และปรับการใช้ชีวิตให้สมควรสอดคล้องกับเหตุปัจจัยที่ได้จากการมองผ่านโหราศาสตร์ อันถือว่าเป็นประโยชน์สูงสุดที่จะพึงมีพึงได้จากการใช้วิชาโหราศาสตร์ในยุคปัจจุบัน จากนั้นจึงผันขึ้นเป็นความสนใจใคร่รู้เชิงเปรียบเทียบในสิ่งอื่นบุคคลอื่นที่มิใช่เพียงแค่ตัวตนและบริบทแวดล้อมของตนเองอย่างเดียวเท่านั้น อาจจะเรียกว่าเป็นการพยากรณ์ทำนายทายทักในโอกาสต่อมา

กล่าวได้ว่าโหราศาสตร์เป็นทั้ง “ศาสตร์” และ “ศิลป์” ที่มีขั้นตอนการศึกษาและกระบวนการใช้ที่เป็นรูปธรรม มีหลักในการอ่านวิเคราะห์แยกแยะตามเหตุผลที่จะพิจารณา แล้วสังเคราะห์กลั่นกรองเป็นผลสรุปออกมาได้อย่างมีที่มาที่ไป ฉะนั้นการศึกษาโหราศาสตร์จึงไม่ใช่เรื่องราวที่เหลวไหลไร้สาระหรือว่าเป็นเรื่องที่งมงายแต่อย่างใด กลับกันแล้วเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ศึกษาพบเห็นความเป็นจริงในแง่มุมต่างๆของชีวิตอย่างชัดเจน นอกเสียจากว่าจะทำให้โหราศาสตร์ถูกมองไปในทิศทางอื่น ที่ไม่ใช่ตามแนวทางของโหราศาสตร์ดังที่กล่าวมานี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องเกินวิสัยที่จะกล่าวหรืออ้างอิงถึงได้ เพราะเจตนาอย่างนั้นเป็นการทำให้โหราศาสตร์ “ไม่เป็น” โหราศาสตร์นั้นเอง

ธีรพร  เพชรกำแพง