การอ่านเรือนสัมพันธ์ประสมดาวลอย
๕
ในบรรดาระบบการพิจารณาดวงชะตาด้วยวิชาโหราศาสตร์ไทย
ระบบ “เรือนสัมพันธ์” นับว่าเป็นรูปแบบที่มีเหตุมีผลมากระบบหนึ่ง
ด้วยความหมายที่โยงใยสัมพันธ์กันด้วย “ตัวการ” ที่เราเรียกว่า “เจ้าเรือน” ซึ่งก็คือ
“ดาว” ในดวงชะตาที่ทำหน้าที่ในลักษณะของความเป็นดาวเอง
ทำหน้าที่ในความเป็นเกษตรเจ้าราศี
และมีการพิจารณา “ความเป็นอยู่”
ของดาวว่ามีความราบรื่นหรือติดขัดอย่างไรด้วยธาตุดาวธาตุราศีที่ดาวนั้นสัมพันธ์อยู่ด้วยในความเป็นเรือน
ซึ่งเป็นที่มาที่ไปเพื่อให้ได้ภาพความหมายออกมามีประเด็นที่เป็นสาระโยงใย ทำให้เห็นขั้นตอนกระบวนวิธีทางโหราศาสตร์ที่สำคัญคือการ
“วิเคราะห์” และ “สังเคราะห์”
ซึ่งเป็นการใช้กระบวนวิธีทางโหราศาสตร์ในการพิจารณาดวงชะตาแบบแยกแยะแยกส่วนเพื่อให้เห็นภาพความหมายออกมาเป็นส่วนๆ(วิเคราะห์)
และการรวบรวมภาพความหมายที่แยกแยะนั้นเป็นคำพยากรณ์ที่มีความหมายสอดคล้องกันตามหลักของเหตุและผล(สังเคราะห์)
การใช้ระบบ “เรือนสัมพันธ์” ทำให้เห็นภาพขั้นตอนกระบวนวิธีดังกล่าวนี้ชัดเจน
โดยสังเกตพิจารณาได้จากบทความการพิจารณาดวงชะตาในระบบเรือนสัมพันธ์ที่ผ่านมาในตอนก่อนๆ
ครั้งนี้เราจะว่ากันถึงเรื่องราวของการพิจารณาเรือน
“วินาส” อันเป็นเรือนที่ ๑๒ ของดวงชะตานับจากลัคนา
เป็นเรือนที่ให้ความหมายได้ทั้งสองนัยคือทั้งดีและร้าย เป็นเรือนที่ต้องนำความหมายไปประกอบสัมพันธ์กับเรือนอื่นให้เกิดความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ตามความหมายของเรือนวินาสที่พอจะหยิบยกมาเป็นสังเขปได้ดังนี้ “ความปิดบัง ความลับ
เบื้องหลัง ซ่อนเร้น ความเสียหาย วิกฤต ความล้มเหลว สันโดษ โดดเดี่ยว ลำพัง อ่อนแอ
ไกลโพ้น แรงผลักดัน การสิ้นสุด การเสียสละ อุทิศตน
อุปัทวะเหตุเภทภัยหรือความเจ็บป่วย เหตุการณ์ไม่คาดคิด
การหยุดเพื่อเริ่มต้น/สิ้นสุดสิ่งเก่าเข้าสู่สิ่งใหม่”
แต่ตามที่เราจะพิจารณากันในครั้งนี้ขอให้มองเรือนวินาสว่าเป็น “ความยุ่งยากผลักดัน”
คือมองความหมายที่เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข
อันจะผลักดันให้ชีวิตมีความเคลื่อนไปดีขึ้นหลังจากแก้ไขปัญหานั้นแล้ว ตามความหมายของเรือนที่เป็น
“วินาสนะ” นั้นเอง
บริบทกฎเกณฑ์ที่จะต้องตั้งเป็นตัวตั้งในการพิจารณาไว้อยู่เสมอ
ซึ่งในที่นี้เป็นเรื่องของการพิจารณาดาวลอยประสมเรือนสัมพันธ์
หลักเกณฑ์ที่ต้องจดจำ คือ ดาวลอยนั้นเป็นเจ้าเรือนใดในดวงชะตา ดาวนั้นมีมาตรฐานตำแหน่ง(เกษตร
ประ อุจ นิจ มหาจักร ราชาโชค) อันเป็นความเข้มแข็งอ่อนแอในการแสดงภาพความหมายอย่างไร
จากนั้นพิจารณาความเป็นอยู่ของดาว โดยดูจากความสัมพันธ์ของธาตุดาวลอยกับธาตุราศีที่ตนมาสถิต
และความสัมพันธ์ระหว่างดาวลอยกับดาวเกษตรราศีเจ้าเรือน แล้วขยายผลความหมายด้วยการติดตามดูดาวเกษตรเจ้าเรือนที่ดาวลอยมาสถิตว่าไปอยู่ที่ใด
นำความหมายเรือนที่ไปอยู่นั้นมาอ่านประกอบเพื่อให้เห็นภาพความหมายชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ตามที่เกริ่นไว้แล้วว่าในที่นี้จะใช้ความหมายเรือนวินาสตามความที่ว่า
“ยุ่งยากผลักดัน” ซึ่งจะเป็นไปในด้านดีและร้ายอย่างไรนั้น
จะเห็นภาพความหมายเสริมเรื่องตามการพิจารณาอย่างเป็นขั้นตอนไปตามลำดับ
ในที่นี้จะเห็นว่าเรือนวินาสมีดาวลอยมาสถิตสองดวงคือดาว ๖ และดาว ๘ ซึ่งเราจะได้พิจารณาบริบทของดาวที่มาสัมพันธ์ในเรือนวินาสนี้ก่อน
๑.พิจารณาดาว ๖
ก.ดาว ๖ เป็นเกษตรสองราศีคือตุลและพฤษภ
อันเป็นเรือนพันธุและลาภะของดวงชะตา ความหมายหนึ่งของเรือนพันธุคือเรื่องของเสถียรภาพความมั่นคงในชีวิตของเจ้าชะตา
เช่น บ้าน รถ ที่ดิน ทรัพย์สินใหญ่ เป็นต้น
และความหมายของลาภะคือเป้าหมายที่ประสงค์จะให้เกิดความสำเร็จประโยชน์ เช่น
ทรัพย์สินเงินทอง โชคลาภความสำเร็จ การได้รับผลในสิ่งที่ตั้งใจไว้ เป็นต้น
ข.ดาว ๖
เป็นดาวธาตุน้ำมาอยู่ในราศีมิถุนธาตุลม ไม่เชิงส่งเสริมหรือหักล้างต่อกัน
ธาตุน้ำย่อมได้รับความแกว่งไกวจากธาตุลม ทำให้กระเพื่อมเกิดความไม่คงตัวบ้าง
ความแน่นอนทางความหมายของพันธุและลาภะจึงไม่สู้จะมั่นคงนัก และก็ไม่มีความหยุดนิ่งในเรื่องเหล่านี้
(ให้นึกถึงความเป็นระลอกลูกคลื่นของน้ำที่มีความเคลื่อนตัวตลอด)
ค.ดาว ๖ กับดาว ๔ เกษตรราศีมิถุน
มีลักษณะของความส่งเสริมในเชิงเป็นมิตรต่อกัน และเป็นดาวธาตุน้ำเหมือนกัน(คู่ธาตุ)
ทำให้ความหมายของดาว ๖ พันธุ,ลาภะ แสดงผลในด้านดีได้บ้างในเรือนวินาสนี้
ภาพความหมายที่เราจะเห็นในชั้นนี้ก่อนคือ
“ความยุ่งยากผลักดัน” ที่มาจากการต้องการความมั่นคงในสถานะชีวิตของเจ้าชะตา(พันธุ)
เพื่อให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ต้องใจไว้(ลาภะ)
ในเรื่องของทรัพย์สินเงินทอง บ้านช่องที่ดิน ฐานะความเป็นอยู่(ตามความหมายของดาว
๖) ซึ่งจะต้องมีการกระทำอยู่เรื่อยๆในช่วงชีวิตมีความหนักเบาในเรื่องนี้อยู่เป็นระยะ
๒.พิจารณาดาว ๘
ก.ดาว ๘ เป็นเกษตรราศีกุมภ์
อันเป็นเรือนมรณะของดวงชะตา เรือนมรณะจะให้ความหมายเกี่ยวกับความเสื่อมสิ้นไป
เสียหาย สิ้นเปลือง เปลี่ยนแปลงสภาพ ในที่นี้เราจะเห็นความหมาย มรณะ-วินาส
คือความเสียหายจะก่อให้เกิดความเดือดร้อน
ข.ดาว ๘ เป็นดาวธาตุลม สถิตในราศีธาตุลม
มีลักษณะของความคล่องตัวในการแสดงภาพความหมายที่ตนนำมา
เพราะธาตุดาวเป็นธาตุเดียวกับธาตุราศี
ความเสียหายอันเป็นผลมาจากมรณะจึงสามารถส่งผลได้เร็ว
ส่วนความรุนแรงนั้นจะต้องพิจารณาในข้อต่อไป
ค.ดาว ๘ กับดาว ๔ เกษตรราศีมิถุน
เป็นดาวคู่ศัตรูต่อกัน จึงให้ภาพความหมายในทางไม่ราบรื่น
เป็นอุปสรรคปัญหาที่ต้องเผชิญแก้ไขจากเรื่องราวที่มากระทบอยู่ตลอดเวลา
ภาพความหมายที่เราเห็นตรงนี้คือความเสียหายในลักษณะความหมายของมรณะ
มาก่อความ “ยุ่งยากผลักดัน” ให้กับเจ้าชะตา
ซึ่งปัญหาของมรณะนั้นเราต้องมองว่าเป็นทั้งปัญหาที่มีทางแก้ไขและปัญหาที่ไม่อาจจะแก้ไขได้(ตาย
พลัดพราก) ซึ่งดาว ๘
นำเอาปัญหาตรงนี้มาก่อเป็นอุปสรรคในเรือนวินาสได้อย่างคล่องตัว(๘ ธาตุลม
ในราศีมิถุนธาตุลมเหมือนกัน)
๓.ขยายผลความหมาย
ติดตามดาว ๔ เกษตรราศีมิถุน
อันเป็นเจ้าเรือนวินาส ไปสถิตยังเรือนกดุมภะซึ่งเกี่ยวข้องกับสถานะการเงินการทองของเจ้าชะตา
เป็นภาพความหมายว่า วินาส-กดุมภะ คือ ความยุ่งยากผลักดันที่นำไปสู่เรื่องของสถานะทางการเงิน
ดาว ๔ ในราศีสิงห์นี้มีมาตรฐานตำแหน่งเป็นมหาจักรและราชาโชค จึงแสดงผลความหมายที่ผาดแผลงมีความขึ้นๆลงๆ(มหาจักร)
และความราบรื่นตามเป้าประสงค์ที่ต้องการ(ราชาโชค)
เมื่อได้ทำการ “วิเคราะห์”
แยกแยะสาระของเรือนวินาสที่จะส่งผลต่อดวงชะตา จากนี้เราจึงต้อง “สังเคราะห์”
สรุปเป็นภาพความหมายรวมความออกมาเป็นคำพยากรณ์จากหลักการเหตุผลที่เราแสดงตามขั้นตอนมาแล้ว
สรุปได้ดังนี้
เจ้าชะตามีความยุ่งยากจากเรื่องความมั่นคงในฐานะความเป็นอยู่ของชีวิต(๖
พันธุ) จึงปรารถนาที่จะสร้างความมั่นคงนั้นให้เกิดขึ้น(๖ ลาภะ) ซึ่งความหมายของความมั่นคงนั้นอาจเป็นในเรื่องของการเงินการทอง
ทรัพย์สินที่ดินบ้านช่อง ยานพาหนะ สถานภาพฐานะทางสังคม
แต่เจ้าชะตามักต้องเผชิญปัญหาอันเป็นอุปสรรคหนักเบาอยู่เป็นระยะ(๘ มรณะ)
ซึ่งเจ้าชะตาเองจะเป็นผู้แก้ไขฝ่าฟันอุปสรรคนั้นไปได้ด้วยตนเอง(มรณะ-วินาส)
ซึ่งความหมายเหล่านี้เป็นเรื่องของความ “ยุ่งยาก” ที่จะเป็น “แรงผลักดัน” ให้เจ้าชะตาเผชิญหน้าไปเพื่อประโยชน์สำเร็จทางด้านสถานะการเงิน
โดยเป็นไปในลักษณะของการแก้ไขปัญหาเพื่อความพัฒนา
คือถ้าผ่านพ้นไปได้แล้วจะทำให้สถานภาพของเจ้าชะตาดีขึ้น(๔ มหาจักร)
และความอุปถัมภ์ช่วยเหลือที่จะทำให้เกิดความราบรื่นคล่องตัว(๔ ราชาโชค) ต่อการแสวงหาเพื่อสร้างความมั่นคงทางสถานะการเงินนั้นได้อย่างสำเร็จ(๔
กดุมภะ)
ข้อเท็จจริงของดวงชะตานี้
เจ้าชะตาเป็นชาย ฐานะความเป็นอยู่ทางครอบครัวแต่เดิมมาไม่ดีนัก(๖ พันธุ,ลาภะ-วินาส)
แต่มีโอกาสจับพลัดจับผลูได้ไปทำงานต่างประเทศถึงสองครั้ง(๘ มรณะ-วินาส) ซึ่งงานที่ไปทำนั้นก็มีความขึ้นๆลงๆ(๔
มหาจักร) บางช่วงก็มีงานทำได้รับค่าตอบแทนเต็มอัตราหรือมากกว่า
แต่บางช่วงก็ไม่ได้ทำต้องอาศัยทำงานอื่นเสริมที่มีผู้อุปการคุณให้(๔ ราชาโชค และเจ้าเรือนสหัสชะด้วยส่วนหนึ่ง)
ทำให้เจ้าชะตาสั่งสมจากการแสวงหา(๔ กดุมภะ) เมื่อกลับมาจึงสามารถปลดหนี้ครอบครัว
และสร้างฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ เป็นภาพความหมายที่มองได้อย่างสมส่วนเข้ามาจากเรือนวินาสในเรื่องของ
“ความยุ่งยากเป็นแรงผลักดัน” ได้อย่างดี
ธีรพร
เพชรกำแพง
9
เมษายน 2558