18 พฤศจิกายน 2556

วิชาเก่าเล่าตำนาน ตอน พิธีกรรมอาบน้ำเพ็ญ

        พอดีมีท่านที่เปิดประเด็นในเรื่องวันเพ็ญเดือนสิบสอง ความว่า
        ถ้าผิดไปชำระกรรมกันนะ แสงจันทร์วันนี้จะชำระผ่อนหนักเป็นเบา       
        ด้วยตัวฉันเองก็ด้อยความรู้หรือจะขาดตกบกพร่องในเรื่องเหล่านี้ไป ว่า แสงจันทร์ชำระกรรม ได้อย่างไร? ท่านที่เปิดประเด็นก็มิได้เมตตาอธิบายขยายความให้ จึงขอพับไปไว้คิดต่อเมื่อมีโอกาส

        พอกล่าวถึงเรื่องนี้ ฉุกคิด ได้ถึงปูมปัญญาพิธีกรรมของบรรพชนไทยโบราณของเรา ที่ทราบความเป็นไปของวิถีธรรมชาติ ด้วยการสังเกต และนำมาปรับประยุกต์ใช้ได้อย่างดี เรียกว่าโบราณท่านก็มีความรู้ความสามารถทางวิทยาศาสตร์มานานแล้ว เพียงแต่คนสมัยนี้เห็นว่าคร่ำครึของเก่า เลยมองเป็นไสยศาสตร์ไปแต่ถ่ายเดียว
        พิธีกรรมที่กล่าวถึงนี้ก็คือ พิธีอาบน้ำเพ็ญ หรือจะเรียกให้ง่ายตามประสา คือ การอาบน้ำมนต์ในคืนวันเพ็ญ(พระจันทร์เต็มดวง) ซึ่งเชื่อว่าเป็นพิธีที่ช่วยเสริมบารมี สะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา เพิ่มพลังวาสนา ชะตาชีวิตให้ดีขึ้น
        ดูเหมือนเป็นความเชื่อในสมัยนี้ แต่โบราณท่านกลับรู้จริงอย่างน่าอัศจรรย์ใจนัก เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของการดำเนินพลังงานธาตุในจักรวาลบรรจุเข้ามาสู่โลก ๓ ส่วนด้วยกัน คือ ดวงอาทิตย์เป็นต้นกำเนิดกระแสพลังงานแห่งจักรวาลส่งอิทธิพลไปทั่ว รวมถึงโลกเราก็ได้รับกระแสพลังงานที่ว่านี้ด้วย โดยผ่านดวงจันทร์เป็นตัวกรองกระแสบ่งบอกถึงการรับกระแสพลังงานนั้น แล้วกระแสพลังงานที่ว่านี้ก็เกี่ยวข้องกับสรรพสิ่งในโลกทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต โดยเฉพาะกับมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนตายกันเลยทีเดียว อย่างเช่น น้ำขึ้นน้ำลง การเกิดเป็นชีวิตของพืช(พลังงานบ่มเพาะ) การเจริญไปของธาตุอ่อนแข็งในตัวคน(หยินหยาง) ฯลฯ เป็นต้น
        พิธีกรรมอาบน้ำเพ็ญ เป็นการสังเคราะห์พลังภายนอกเข้าสู่ร่างกายและจิตใจของคน มีจิตตานุภาพจนเป็นชีวกำลังอานิสงส์อย่างที่เกริ่นกล่าวไว้ฉันใด ก็เหมือนกับทางวิทยาศาสตร์บอกว่ารับแสงแดดอ่อนตอนเช้าร่างกายสังเคราะห์วิตามินดีบำรุงกระดูกฉันนั้น โดยต้องรวมกัน ๓ อย่าง คือ พิธีกรรม + ธรรมชาติ + คน(ร่างกายและจิตใจ)
        เรื่องนี้มิได้กล่าวอย่างเลื่อนลอยไร้เหตุผล แต่ที่มาที่ไปปรากฏมีอยู่ในหนังสือพระราชพิธีสิบสองเดือน ของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ เดิมนั้นจะจัดพิธีกรรมนี้ในวันเพ็ญเดือน ๓ ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา ต่อมาจัดขึ้นในวันเพ็ญเดือน ๑๒ ที่เห็นจะมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่ว คือ พิธีอาบน้ำเพ็ญของสายวัดสุทัศน์ ของสมเด็จพระสังฆราชแพ ติสฺสเทโว พิธีของท่านจะให้อาบกลางแจ้ง โดยรอฤกษ์ที่พระจันทร์ลอยเด่นอยู่กลางศีรษะ ในช่วงเวลานั้นจะพบว่าเงาของพระจันทร์ลอยอยู่กลางขันน้ำมนต์พอดี เพราะทุกครั้งที่พระจันทร์เต็มดวง แรงพลังอำนาจจากพระจันทร์จะทำให้น้ำในโลกถูกยกตัวสูงขึ้นกว่าธรรมดาทั่วไป ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องแปลกตามธรรมชาติ
        บางสำนักจะจัดให้มีพิธีสะเดาะเคราะห์สืบชะตา อธิษฐานบารมีจิตร่วมด้วย บางที่ท่านจะคำนวณเวลาเพ็ญจริงของดวงจันทร์ คือช่วงเวลาดวงอาทิตย์ตกและดวงจันทร์ขึ้น(ทางโหราศาสตร์เรียกว่าการเล็งกันหรือทำมุม ๑๘๐ องศา) เป็นองค์ฤกษ์ประกอบพิธีประสิทธิ์น้ำ และใช้องค์ฤกษ์เวลาดวงจันทร์ตรงศีรษะเป็นพิธีกรรมการอาบน้ำเพ็ญ
        สำหรับฉันถือว่า วันเพ็ญ เดือน ๑๒ นี้ เป็นวันที่ดวงจันทร์สังเคราะห์กระแสธาตุจากดวงอาทิตย์เข้าสู่โลกอย่างเต็มที่ สังเกตจากดวงจันทร์จะใหญ่มาก ตามสายวิชาของฉันจะประสิทธิ์น้ำพระพุทธมนต์อิงซึมซาบกระแสโลกธาตุ(ที่สังเคราะห์แล้วจาก อาทิตย์ จันทร์ และโลก)ในคืนนี้ โดยใช้ขันน้ำมนต์โลหะทรงบาตร ยิ่งได้ขันนวโลหะยิ่งดี หรือจะเป็นขันเงิน ขันทองเหลือง ขันนาก แต่ถ้าเป็นขันทองแดงให้ใช้รดน้ำมนต์เพื่อป้องกันอย่างเดียว(ห้ามดื่มกิน) เพราะโลหะแต่ละชนิดมีธาตุพิเศษอยู่ในตัว อย่างธาตุทองนี่รักษา ทองเหลืองส่งเสริม ทองแดงป้องกัน เป็นต้น พอได้องค์ฤกษ์ก็ประกอบขั้นตอนประสิทธิ์น้าพระพุทธมนต์ อาราธนาคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ บิดามารดา ครูบาอาจารย์ เทพยุดา เหล่าพรหมเจ้า แลด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกประการ อัญเชิญบารมีท่านมาประสิทธิ์ประสาทเป็นน้ำพระพุทธมนต์ไว้สงเคราะห์ชนทั้งหลาย(อย่าลืมหัวใจสำคัญของการทำน้ำมนต์ ๔ บทหลักต้องท่องบรรจุไว้ด้วย) เป็นพิธีกรรมที่สำคัญสำหรับฉันอย่างหนึ่งที่ทำเพียงปีละครั้งเท่านั้น.

ธีรพร  เพชรกำแพง
๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
ที่มาของการเขียนบทความ : จากกลุ่มสมาคม ร่างทรงแห่งสยามประเทศ(facebook) เห็นโพสต์อะไรแปลกๆ แล้วอยากให้ความจริงละอัตตา(ปราบพยศ)บ้าง