การสะเดาะเคราะห์ด้วยตนเอง(ตำรับเก่า)

การสะเดาะเคราะห์ด้วยตนเอง(ตำรับเก่า)

          ท่านว่าเมื่ออิทธิพลด้านร้ายส่งผล เจ้าชะตามักสุมรุมกลุ้มใจ ให้เสียซึ่งสติสัมปชัญญะสมประดี อันจะก่อให้เกิดความประมาทพลาดพลั้งในการกระทำกิจต่างๆ แม้แต่ภายในจิตที่เป็นนายย่อมทำให้กายที่เป็นบ่าวเศร้าหมองไปด้วยโรคภัยและอาการต่างๆนานา เหตุดังนี้บรรพจารย์ผู้รู้ในโหรานุคุณ จึงได้สงเคราะห์นำเอาพิธีกรรมมาเสริมสร้างกำลังจิตกำลังใจของเจ้าชะตาให้เข้มแข็ง และหวังซึ่งอานิสงส์ผลคุณอันดีนั้นช่วยอภิบาลรักษาเจ้าชะตาให้มีความอยู่รอดปลอดภัย เสริมสุขอันเป็นพละกำลังทางใจให้เข้มแข็งพ้นผ่านภยันตรายตลอดจนทุกข์ร้ายร้อนรนไปได้ ความผิดปกติที่เกิดขึ้นอันเป็นแหล่งเหตุสังเกตล้วน คือ อาการความรู้สึกในตัวตนของเจ้าชะตาเอง รวมไปถึงปัจจัยสี่ในเรื่องความเป็นอยู่ และบริบทสังคมสัมพันธ์และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

          เมื่อเกิดเหตุไม่ดีประการใดดังกล่าวแล้วนั้นให้หวั่นไหว ประสงค์จะสร้างกำลังจิตใจให้เป็นที่สามารถ ท่านให้จัดเตรียมเครื่องประกอบพิธีดังนี้

          ๑.ผ้าขาวสะอาดปูลาดโต๊ะ  ๑  ตัว

          ๒.มะพร้าวอ่อน  ๒  ผล (๑ คู่)

          ๓.กล้วยน้ำว้าหวีงาม  ๒  หวี

          ๔.ธงสีเงินและทอง อย่างละ ๑ ธง

          ๕.ขันใส่น้ำสะอาด  ๑  ขัน

          ๖.ขันใส่ข้าวสาร  ๑  ขัน

          ๗.เทียนสีผึ้ง  ๙ เล่ม

          ๘.ธูปหอม  ๙  ดอก

๙.ธงกระดาษสีต่างๆ  ๗  สี

          เมื่อเวลาก่อนเที่ยงให้ตั้งโต๊ะบูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันออก จัดวางของบูชาให้ดี แล้วจุดธูป ๙ ดอก เทียน ๙ เล่ม หันหน้าไปทางทิศตะวันออก พึงสวดบูชาด้วยพระคาถาดังนี้

          ๑.ขึ้นบทชุมนุมเทวดา(สัคเค กาเม จะ รูเป)

          ๒.ตั้งนะโม ๓ จบ

          ๓.พึงว่าคาถา “โอม นะโมสุริยะจันทระเทวา โอมนะโมภุมมะพุธะเทวา โอมนะโมครุเทวา โอมนะโมศุกระเทวา โอมนะโมโสระเทวา โอมนะโมราหูเกตุเทวา มหามังคลา มหาลาภา มหาโภคาประสิทธิเม (กราบ ๓ ครั้ง)

พระคาถาบูชานพเคราะห์

นะโม เม สัพพะเทวานัง สัพพะคะระหะ จะ เทวตา สุริยะจันทัง ปะมุญจะสิ ภุมโม พุทโธลาภัง ภะวิสสันติ ชีโวศุกะโรจะ มหาลาภัง สัพพะทุกขัง วินาสันติ โสโร ราหู เกตุ จะ มหาลาภัง สัพพะทุกขัง วินาสสันติ สัพพะภะยัง วินาสสันติ สัพพะโรคัง วินาสสันติ

          จากนั้นจึงอธิษฐานถึงความเป็นสิริมงคลจากสมญาเทพนพเคราะห์ ที่ได้จงจำเพาะนมัสการมา เมื่อธูปโรยราลงไปประจวบ ๒ ใน ๓ แล้ว ให้ลาเครื่องบูชาว่า “เสสังมังคลายาจามิ” มะพร้าวอ่อนกล้วยน้ำว้าท่านให้แจกจ่ายกันรับประทาน ข้าวสารนั้นไว้ผสมข้าวหุงรับประทาน น้ำในขันประดุจน้ำพระพุทธมนต์-ทิพยมนต์(เทพสงเคราะห์) ไว้สำหรับเจ้าชะตาได้ดื่มกินหรืออาบชำระล้างสิ่งร้ายให้กลายเป็นดี

ธีรพร  เพชรกำแพง

1 พฤษภาคม 2558

แจกฟรี!!! ...โปรแกรมดวงอายุวัฒนะมงคล...(รุ่นบูชาครู 2558)

แจกฟรี!!! ...โปรแกรมดวงอายุวัฒนะมงคล...(รุ่นบูชาครู)

จัดทำเป็นที่ระลึกในงานบูชาพระบุพพาจารย์(ไหว้ครู) ประจำปี ๒๕๕๗-๒๕๕๘

ใช้ผูกดวงแล้วตัดต่อด้วยโปรแกรมแต่งภาพ ทำเป็นบัตรดวงไว้เป็นข้อมูลดวงชะตา เวลาจะผูกดวงทีหยิบบัตรดวงขึ้นมาวางรูปดาวบนกระดานเรียบร้อย เปิดปฏิทินรายปีลงดาวจร ดูดวงว่ากันเป็นกระพรวนไป บัตรดวงนั้นก็หาที่เก็บไว้ให้ดี หมั่นสวดมนต์บูชา แผ่เมตตา อวยพร และอุทิศประการใดล้วนศักดิ์สิทธิ์สารพัดดีเสริมส่งดวงชะตาให้เป็นมงคลยิ่ง

หมายเหตุ : คลิกที่ราศีเมษหรือตุลเพื่อเป็นการปรับเพิ่มหรือลดขนาดอักษรแสดงรูปดาว

::::::::โปรแกรมดวงอายุวัฒนะมงคล::::::::

http://www.mediafire.com/download/3b0l4oo7gylt1eg/ดวงอายุวัฒนะมงคล.rar

คุยเรื่องเก่า..เล่าความหลัง ตอนที่ 1

ความเป็นอยู่อย่างมีความสุขจากความทุกข์ลำบากจนชินนั้นเกิดขึ้นกับฉันอยู่เสมอ จะกระไรเสียได้เพราะเรามิใช่พื้นฐานคนมีมาก่อน เพียรพยายามสร้างตัวตามสติปัญญาตามกำลังที่พอจะทำได้ไหว ซึ่งตอนนี้ถือว่าดีกว่าเมื่อสมัยก่อนที่ต้องอยู่บ้านขี้ฟากแบบเล้าไก่ มาเป็นบ้านคอนกรีตหลังคาสังกะสีที่ทำได้ครึ่งๆกลางๆ ไม่เสร็จสมบูรณ์เพราะไม่มีกำลังทรัพย์ แต่มีความมั่นคงแข็งแรงดี แม้บางทีฝนตกแรงๆสาดเข้ามาจะหาที่อยู่กันไม่ได้ ฝนก็ไม่ได้ตกตลอดกาลไม่เกินนานสองนานมันก็ต้องหยุด แล้วเก็บข้าวของเช็ดถูน้ำให้แห้ง เป็นการอยู่แบบมีสติดีไปอีกแบบ

ชีวิตฉันนั้นอยู่ด้วยความหมายแห่ง "คุณค่า" มากกว่า "ราคา" ที่นอนเบาะเก่าดำขาดจนสิ้นเค้าเดิมนั้น เป็นของปู่เชษฐ์ในปีที่ปู่กินยาพิษฆ่าตัวตาย ปู่นอนตายบนเบาะนี้ ครั้งเก่าเป็นเบาะแบบที่นอนสามอัน ปีนั้นหนาวมาก ฉันนั่งอยู่ระเบียงบ้านสวมเสื้อแขนยาวกันลมผ้าร่มบางๆที่พรรคการเมืองเขาแจกตอนหาเสียง ย่าเดินมาเห็นเข้าถามว่าหนาวมากไหม ตอบว่าหนาวมาก แล้วย่าถามว่ากลางคืนไม่หนาวยิ่งกว่านี้หรือ ฉันตอบหนาวยิ่งกว่านี้ ย่าถามว่าทำอย่างไร ฉันบอกว่าเอาผ้าห่มซ้อนกันกับมุ้งเก่าที่เก็บไว้ไม่ได้ทิ้ง ถ้าวันไหนหนาวมากก็เอากระสอบป่านมาซ้อนทับด้วย ย่าคงเวทนา ถามว่าเอาที่นอนของปู่ที่นอนตายไหม เก็บไว้ไม่มีใครกล้าเอาไป ฉันดีใจก็ว่าเอา ย่าก็เอามาให้นอนลดหนาว ฉันเองได้มาก็ดีใจว่าคลายหนาวอย่างหนึ่ง และดีใจว่านี่เป็นของปู่ที่เคยดูแลเลี้ยงฉันเมื่อคราวเด็ก ปู่ตายไปแล้ว ฉันชอบสวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิบนที่นอนนี้ก็จะระลึกถึงปู่ ให้ปู่ได้รับกุศลอยู่ทุกวันเวลาที่ฉันได้กระทำ พอนานเข้าเก่าขาดผุพังไป ฉันก็หาซื้อปลอกเบาะมาใหม่ แต่เอานุ่นในเบาะเก่ามาใส่ไว้ นอนจนเก่าคร่ำคร่าดำขาดเปลี่ยนสภาพ มีพี่น้องญาติมิตรจะเอาไปเผาไปทิ้งแล้วซื้อของใหม่ให้ แต่ฉันไม่ยอมแล้วเล่าถึงความสำคัญที่มาของเบาะอันนี้ให้ทราบ ไม่รู้ว่าเขาจะเวทนาหรืออย่างไร พยายามจะเอาของใหม่มาให้ แต่ฉันไม่ขอรับเกรงว่าจะเป็นการรบกวนเขาด้วย หมอนสองใบที่ดำๆนั้นก็เหมือนกัน ฉันเรียก "หมอนเหม็น" ไปไหนต้องเอาไปด้วย ไม่กระนั้นนอนไม่หลับ ใบหนึ่งเป็นหมอนที่ฉันนอนมาแต่คราวเด็ก พอปลอกมันเก่าดำผุพังขาดไปฉันก็หาปลอกมาใส่นุ่นภายในนั้นใหม่ อีกอันเป็นหมอนที่ข้างในมีนุ่นของหมอนที่พ่อกับแม่เคยนอน ฉันเอามารวมกัน โต๊ะที่เห็นนั้นพ่อทำให้ใช้สมัยรับดูดวงปีแรก ฉันก็ใช้ตอนรับแขกดูดวง เขียนหนังสือ วางคอมพิวเตอร์ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน กระเป๋าสะพายข้างและกระเป๋าใส่เงินของฉันทุกใบ ฉันจะขอให้แม่ซื้อให้ เพราะฉันถือว่าของที่มาจากพ่อจากแม่นั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของฉัน แม้มันจะไม่ทันสมัยราคาไม่กี่สตางค์ แต่ก็จะเห็นฉันใช้ของเหล่านี้คู่ตัวในชีวิตประจำวันของฉันเสมอ

ที่นำมาเล่านี้มิได้ขอความเห็นใจอะไร เพราะฉันอยู่ได้ในสภาพอย่างนี้เป็นปรกติ อยากให้สะดุดใจว่าในสิ่งที่ฉันเป็นอยู่ก็อย่างนี้แล้ว แต่ทำไมถึงรักงานจิตอาสาและเห็นประโยชน์ทางด้านโหราศาสตร์นัก นั่นเพราะฉันเกิดมาเป็นหลานของพ่อทวดที่ใช้วิชาหมอดูช่วยเหลือคนจวบจนสิ้นอายุขัยของท่าน ๑๑๒ ปี ฉันประจักษ์ว่าวิชาและสิ่งที่พ่อทวดทำช่วยเหลือคนได้จริง จึงมั่นใจยิ่งอย่างบริสุทธิ์ทั้งใจว่าศาสตร์เหล่านี้ "เป็นที่พึ่งพาอาศัยได้" ขอให้รู้จริงและทำจริงเท่านั้น ในโอกาสต่อไปฉันจะนำเอาเรื่องราวคราวหลังต่างๆอันเป็นเกร็ดประวัติชีวิตจริงชนิดที่ตรวจสอบได้ของฉันมาเล่าสู่กันฟังเป็นลำดับไป

หาวันเถลิงศกและวันสงกรานต์ด้วยโมดูลสุริยยาตร บน excel

หาวันเถลิงศกและวันสงกรานต์ด้วยโมดูลสุริยยาตร บน excel

          การหาวันที่เถลิงศกด้วยโปรแกรมโมดูลสุริยยาตร บน excel นั้น ทำได้ไม่ยาก เพียงเรียกใช้ฟังก์ชั่นที่ชื่อว่า daysok ก็จะได้ค่าวันที่แบบมีจุดทศนิยมที่เราจะต้องนำมาขยายเป็นเวลาชั่วโมง นาที วินาที ของวันเถลิงศกนั้นต่อไป

          ในปี 2558 นี้ เมื่อใช้ฟังก์ชั่น =daysok(1,2558) แล้ว จะได้ค่าวันที่เถลิงศกเป็นค่าแบบมีจุดทศนิยม คือ 16.765 หมายความว่าในปี 2558 นี้ วันเถลิงศกตรงกับวันที่ 16 เมษายน 2558 ส่วนเวลาเถลิงศกนั้นจะต้องขยายจากทศนิยมจากวันที่ตามผลคำนวณคือ

          1.ทศนิยม x 24 เป็นชั่วโมง

                    0.765 x 24 = 18.36

          2.ทศนิยมที่เหลือ x 60 เป็นนาที

                   0.36 x 60 = 21.6

          2.ทศนิยมที่เหลือ x 60 เป็นวินาที

                   0.6 x 60 = 36

          สรุปว่าเถลิงศกวันที่ 16 เมษายน 2558 เวลา 18 นาฬิกา 21 นาที 36 วินาที (มัธยมประเทศไทย)

          ส่วนวันสงกรานต์นั้นจะอยู่ห่างก่อนหน้าวันเถลิงศก 2.165 วัน(1732 กัมมัช) หรือคิดเป็น 2 วัน 3 ชั่วโมง 57 นาที 36 วินาที โดยวันสงกรานต์ที่ได้จะบอกชื่อนางสงกรานต์ประจำปี และเวลาสงกรานต์จะเป็นเวลาที่นางสงกรานต์เสด็จ และบอกอิริยาบถของนางสงกรานต์ อันจะมีคำพยากรณ์สงกรานต์ในปีนั้นๆ

          1.นำวันที่เถลิงศก ลบ 2.165

                   16.765 - 2.165 = 14.6 (วันมหาสงกรานต์ตรงกับวันที่ 14)

          2.ทศนิยม x 24 เป็นชั่วโมง

                    0.6 x 24 = 14.4

          3.ทศนิยมที่เหลือ x 60 เป็นนาที

                   0.4 x 60 = 24

          4.ทศนิยมที่เหลือ x 60 เป็นวินาที

                   0.0 x 60 = 0

          สรุปว่าสงกรานต์วันที่ 14 เมษายน 2558 เวลา 14 นาฬิกา 24 นาที 00 วินาที (มัธยมประเทศไทย) ซึ่งวันมหาสงกรานต์ปีนี้เป็นวารอังคาร มีนามนางสงกรานต์และฝอยพยากรณ์ดังนี้

          ถ้าวันอังคารเป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม รากษสเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกบัวหลวง อาภรณ์แก้วโมรา ภักษาหารโลหิต พระหัตถ์ขวาทรงตรีศูล พระหัตถ์ซ้ายทรงธนู เสด็จมาบนหลังวราหะ (หมู)

          คำทำนาย : ถ้าวันอังคารเป็นวันมหาสงกรานต์ โจรผู้ร้ายจะชุกชุม จะเกิดการเจ็บไข้ร้ายแรง แต่ถ้าวันอังคารเป็นวันเนา ผลหมากรากไม้จะแพง ถ้าวันอังคารเป็นวันเถลิงศก ข้าราชการทุกหมู่เหล่าจะมีความสุข มีชัยชนะแก่ศัตรูหมู่พาล

          ส่วนอิริยาบถนางสงกรานต์แต่ละปีนั้นให้พิจารณาจากเวลาสงกรานต์ หรือที่เรียกว่าเวลานางสงกรานต์เสด็จ คือ    

          ถ้าเป็นเวลารุ่งสางถึงเที่ยง (6:00 น. - 11:59 น.) นางสงกรานต์ยืนมา

          ถ้าเป็นเวลาเที่ยงถึงเย็น (12:00 น. - 17:59 น.) นางสงกรานต์นั่งมา

          ถ้าเป็นเวลาค่ำถึงเที่ยงคืน (18:00 น. - 23:59 น.) นางสงกรานต์นอนลืมตามา

          ถ้าเป็นเวลาเที่ยงคืนถึงเช้ามืด (00:00 น. - 05:59 น.) นางสงกรานต์นอนหลับตามา

          ฉะนั้นในปี 2558 นี้ เวลาสงกรานต์คือ 14 นาฬิกา 24 นาที 00 วินาที อิริยาบถนางสงกรานต์ขณะเสด็จมาจึงเป็นอิริยาบถ “นั่ง” ประทับมาบนสัตว์เทพพาหนะ

          และไม่ว่าจะเป็นปีใดต่อไปในอนาคต ก็สามารถใช้โมดูลสุริยยาตรในการช่วยคำนวณหาวันที่เถลิงศกและวันสงกรานต์ พร้อมด้วยเวลาที่สามารถขยายเป็น ชั่วโมง นาที วินาที ได้อย่างสะดวก และเพื่อให้ทราบถึงนามนางสงกรานต์ประจำวารของแต่ละปี จึงขอนำมาลงไว้ที่นี้ด้วย จักได้เป็นข้อมูลประกอบการคำนวณตามความประสงค์ต่อไป

นามนางสงกรานต์ประจำวาร

ถ้าวันอาทิตย์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม ทุงษะเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกทับทิม อาภรณ์แก้วปัทมราช ภักษาหารอุทุมพร (ผลมะเดื่อ) พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จมาบนหลังครุฑ

คำทำนาย : ถ้าวันอาทิตย์เป็นวันมหาสงกรานต์ ปีนั้นพืชพันธุ์ธัญญาหารไม่สู้จะงอกงามนัก ถ้าวันอาทิตย์เป็นวันเนา ข้าวจะตายฝอย คนต่างด้าวจะเข้าเมืองมาก ท้าวพระยาจะร้อนใจ ถ้าวันอาทิตย์เป็นวันเถลิงศก พระมหากษัตริย์จะมีพระบรมเดชานุภาพ ปราบศัตรูได้ทั่วทุกทิศ

ถ้าวันจันทร์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม โคราคะเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกปีบ อาภรณ์แก้วมุกดา ภักษาหารเตลัง (น้ำมัน) พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จมาบนหลังพยัคฆ์ (เสือ)

คำทำนาย : ถ้าวันจันทร์เป็นวันมหาสงกรานต์ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ตลอดจนคุณหญิง คุณนายทั้งหลายจะเรืองอำนาจ ถ้าวันจันทร์เป็นวันเนา มักเกิดความไข้ต่างๆ และเกลือจะแพง นางพญาจะร้อนใจ ถ้าวันจันทร์เป็นวันเถลิงศก พระราชินีและท้าวนางฝ่ายในจะมีความสุขสำราญ

ถ้าวันอังคารเป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม รากษสเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกบัวหลวง อาภรณ์แก้วโมรา ภักษาหารโลหิต พระหัตถ์ขวาทรงตรีศูล พระหัตถ์ซ้ายทรงธนู เสด็จมาบนหลังวราหะ (หมู)

คำทำนาย : ถ้าวันอังคารเป็นวันมหาสงกรานต์ โจรผู้ร้ายจะชุกชุม จะเกิดการเจ็บไข้ร้ายแรง แต่ถ้าวันอังคารเป็นวันเนา ผลหมากรากไม้จะแพง ถ้าวันอังคารเป็นวันเถลิงศก ข้าราชการทุกหมู่เหล่าจะมีความสุข มีชัยชนะแก่ศัตรูหมู่พาล

ถ้าวันพุธเป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม มณฑาเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกจำปา อาภรณ์แก้วไพฑูรย์ ภักษาหารนมเนย พระหัตถ์ขวาทรงเข็ม พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จมาบนหลังคัทรภะ (ลา)

คำทำนาย : ถ้าวันพุธเป็นวันมหาสงกรานต์ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จะได้รับการยกย่องจากต่างประเทศ ถ้าวันพุธเป็นวันเนา ข้าวปลาอาหารจะแพง แม่หม้ายจะพลัดที่อยู่ ถ้าวันพุธเป็นวันเถลิงศก บรรดานักปราชญ์ราชบัณฑิตจะมีความสุขสำราญ

          ถ้าวันพฤหัสบดีเป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม กิริณีเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกมณฑา อาภรณ์แก้วมรกต ภักษาหารถั่วงา พระหัตถ์ขวาทรงขอช้าง พระหัตถ์ซ้ายทรงปืน เสด็จมาบนหลังคชสาร (ช้าง)

                   คำทำนาย : ถ้าวันพฤหัสบดีเป็นวันมหาสงกรานต์ ผู้น้อยจะแพ้ผู้เป็นใหญ่ และเจ้านาย ถ้าวันพฤหัสบดีเป็นวันเนา ผลไม้จะแพง ราชตระกูลจะมีความร้อนใจ ถ้าวันพฤหัสบดีเป็นวันเถลิงศก สมณชีพราหมณ์จะปฏิบัติกรณียกิจอันดีงาม

           ถ้าวันศุกร์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม กิมิทาเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกจงกลนี อาภรณ์แก้วบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำ พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงพิณ เสด็จมาบนหลังมหิงสา (ควาย)

                   คำทำนาย : ถ้าวันศุกร์เป็นวันมหาสงกรานต์ พืชพันธุ์ธัญญาหารจะอุดมสมบูรณ์ ฝนชุก พายุพัดแรง ผู้คนจะเป็นโรคตาและเจ็บไข้กันมาก ถ้าวันศุกร์เป็นวันเนา พริกจะแพง แร้งกาจะเป็นโรค สัตว์ป่าจะเป็นอันตราย แม่หม้ายจะมีลาภ ถ้าวันศุกร์เป็นวันเถลิงศก พ่อค้าคหบดีจะทำมาค้าขึ้น มีผลกำไรมาก

                   ถ้าวันเสาร์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม มโหธรเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว อาภรณ์แก้วนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทรายพระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงตรีศูล เสด็จมาบนหลังมยุรา (นกยูง)

                   คำทำนาย : ถ้าวันเสาร์เป็นวันมหาสงกรานต์ โจรผู้ร้ายจะชุกชุม จะเกิดการเจ็บไข้ร้ายแรง ถ้าวันเสาร์เป็นวันเนา ข้าวปลาจะแพง ข้าวจะได้น้อย ผลไม้จะแพง น้ำน้อย จะเกิดเพลิงกลางเมือง ขุนนางจะต้องโทษ ถ้าวันเสาร์เป็นวันเถลิงศก บรรดาทหารทั้งปวงจะมีชัยชนะแก่ข้าศึกศัตรู

          คำทำนายเกี่ยวกับอิริยาบถของนางสงกรานต์

          1.ถ้านางสงกรานต์ ยืนมา จะเกิดความเดือดร้อนเจ็บไข้

          2.ถ้านางสงกรานต์ นั่งมา จะเกิดความเจ็บไข้ ผู้คนล้มตายและเกิดเหตุเภทภัยต่าง ๆ

          3.ถ้านางสงกรานต์นอนลืมตา ประชาชนจะอยู่เย็นเป็นสุข

          4.ถ้านางสงกรานต์นอนหลับตาพระมหากษัตริย์จะเจริญรุ่งเรืองดี

ธีรพร  เพชรกำแพง

11 เมษายน 2558

หมายเหตุ : โมดูลสุริยยาตร บน excel http://www.mediafire.com/download/t8fs8apw4djn2g1/โมดูสุริยยาตร_บน_excel.rar

แจกฟรี !!! ..โปรแกรมนิรายนะดาราคติ..

โปรแกรมนิรายนะดาราคติ

          นิรายนะดาราคติ เป็นโปรแกรมสำหรับตรวจหาทัศนสัมพันธ์ปัจจัยทางโหราศาสตร์ไทย(มุมดาว) ระบบการคำนวณดาราศาสตร์สากล ตัดค่าอายนางศแบบลาหิรี

แสดงสมผุสปัจจัยพระเคราะห์ (อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ เสาร์ มฤตยู เนปจูน พลูโต) ฉายาเคราะห์(ราหู เกตุสยาม)

แสดงรูปดาวแบบราศีจักร และจักรวิภาคในระดับกึ่งตรียางค์(5 องศา) เขตสีเหลืองคือตรียางค์พิษ

ส่วนแสดงรายละเอียดข้อมูลปัจจัยทางโหราศาสตร์ เช่น องศารวม ราศี องศา ลิปดา ตรียางค์ นวางค์ นักษัตรฤกษ์ ทัศนสัมพันธ์ปัจจัยของวันเวลานั้น ตามระยะวังกะที่ต้องการ (ค่าวังกะในที่นี้ใช้แบบกึ่งค่าวังกะ หรือค่าวังกะหาร 2)

ส่วนแสดงทัศนะรอบวัน ตั้งแต่เวลา 00.00 – 24.00 น. ตามค่าระยะวังกะที่ต้องการ หรือต้องการทัศนสัมพันธ์จริงให้ตั้งค่าวังกะส่วนนี้เป็น 0 และเพื่อให้การคำนวณเป็นไปโดยราบรื่นจึงแบ่งปุ่มการคำนวณเป็น 3 ปุ่ม ช่วงละ 8 ชั่วโมง (ลดการทำงานหนักทางการคำนวณของโปรแกรม) เมื่อกดปุ่มแล้วรอสัก 5-20 วินาที จะได้ผลคำนวณทัศนสัมพันธ์ในช่วงเวลานั้นออกมา

ส่วนแสดงทัศนะรอบเดือน แสดงทัศนสัมพันธ์รายวันทุกวันในรอบเดือน ช่วงเวลา 12.00 น. ตามค่าระยะวังกะตามส่วนระบุข้อมูลด้านบนของโปรแกรม เพื่อตรวจดูกว้างๆว่าในรอบวันมีทัศนสัมพันธ์ใดเกิดขึ้นบ้าง

แสดงพิกัดของสถานที่(จังหวัด)ตามต้องการ(ละติจูด,ลองจิจูด) เวลาพระอาทิตย์ขึ้นจริงตามพิกัดพื้นที่ ค่าอายนางศแบบลาหิรี ระยะวังกะที่ประสงค์

ทัศนสัมพันธ์ที่แสดงในแถบที่ 2 และ 3 มี 11 ทัศนสัมพันธ์ คือ กุม โยค จตุโกณ ตรีโกณ เล็ง กึ่งโยค กึ่งเกณฑ์ Quintile , Semi-Quintile , Biquintile , Inconjunct เพื่อความหลากหลายในการศึกษาวิเคราะห์

หมายเหตุ : หากคลิกที่ราศีเมษตรงราศีจักรวงในสุดจะเป็นการเพิ่มขนาดอักษร(ฟอนต์)รูปดาว และคลิกที่ราศีตุลตรงราศีจักรวงในสุดจะเป็นการลดขนาดอักษร(ฟอนต์)รูปดาว เพื่อเป็นการปรับขนาดรูปดาวให้มีความสวยงามพอดีตามต้องการ(ระวังการเพิ่มขนาดมากไปจะทำให้รูปดาวบางดวงตกขอบหายไป) และตรงดาวในจักรวิภาคหากนำเมาส์ไปวางจะแสดงชื่อดาว พร้อมด้วยตำแหน่งราศี องศา ลิปดา ของดาวนั้น

โปรแกรมนิรายนะดาราคติ พัฒนาโดย นายธีรพร  บุญวงษ์(เพชรกำแพง) รูปแบบแสดงผลสร้างตามหลักคิดที่เรียบง่าย สะดวกในการพัฒนาเบื้องต้น เหมาะสำหรับการเริ่มต้นศึกษาทัศนสัมพันธ์ปัจจัยทางโหราศาสตร์ไทย(นิรายนะวิธี)

Link : http://www.mediafire.com/download/ybbtpsfjym9r0cv/ชุดติดตั้งโปรแกรมนิรายนะดาราคติ.rar

ธีรพร  เพชรกำแพง

9 เมษายน 2558

ตัวอย่างการพยากรณ์ดวงชะตาพื้นฐาน ตอน การอ่านเรือนสัมพันธ์ประสมดาวลอย 5

การอ่านเรือนสัมพันธ์ประสมดาวลอย ๕

          ในบรรดาระบบการพิจารณาดวงชะตาด้วยวิชาโหราศาสตร์ไทย ระบบ “เรือนสัมพันธ์” นับว่าเป็นรูปแบบที่มีเหตุมีผลมากระบบหนึ่ง ด้วยความหมายที่โยงใยสัมพันธ์กันด้วย “ตัวการ” ที่เราเรียกว่า “เจ้าเรือน” ซึ่งก็คือ “ดาว” ในดวงชะตาที่ทำหน้าที่ในลักษณะของความเป็นดาวเอง ทำหน้าที่ในความเป็นเกษตรเจ้าราศี  และมีการพิจารณา “ความเป็นอยู่” ของดาวว่ามีความราบรื่นหรือติดขัดอย่างไรด้วยธาตุดาวธาตุราศีที่ดาวนั้นสัมพันธ์อยู่ด้วยในความเป็นเรือน ซึ่งเป็นที่มาที่ไปเพื่อให้ได้ภาพความหมายออกมามีประเด็นที่เป็นสาระโยงใย ทำให้เห็นขั้นตอนกระบวนวิธีทางโหราศาสตร์ที่สำคัญคือการ “วิเคราะห์” และ “สังเคราะห์” ซึ่งเป็นการใช้กระบวนวิธีทางโหราศาสตร์ในการพิจารณาดวงชะตาแบบแยกแยะแยกส่วนเพื่อให้เห็นภาพความหมายออกมาเป็นส่วนๆ(วิเคราะห์) และการรวบรวมภาพความหมายที่แยกแยะนั้นเป็นคำพยากรณ์ที่มีความหมายสอดคล้องกันตามหลักของเหตุและผล(สังเคราะห์) การใช้ระบบ “เรือนสัมพันธ์” ทำให้เห็นภาพขั้นตอนกระบวนวิธีดังกล่าวนี้ชัดเจน โดยสังเกตพิจารณาได้จากบทความการพิจารณาดวงชะตาในระบบเรือนสัมพันธ์ที่ผ่านมาในตอนก่อนๆ

          ครั้งนี้เราจะว่ากันถึงเรื่องราวของการพิจารณาเรือน “วินาส” อันเป็นเรือนที่ ๑๒ ของดวงชะตานับจากลัคนา เป็นเรือนที่ให้ความหมายได้ทั้งสองนัยคือทั้งดีและร้าย เป็นเรือนที่ต้องนำความหมายไปประกอบสัมพันธ์กับเรือนอื่นให้เกิดความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ตามความหมายของเรือนวินาสที่พอจะหยิบยกมาเป็นสังเขปได้ดังนี้ “ความปิดบัง ความลับ เบื้องหลัง ซ่อนเร้น ความเสียหาย วิกฤต ความล้มเหลว สันโดษ โดดเดี่ยว ลำพัง อ่อนแอ ไกลโพ้น แรงผลักดัน การสิ้นสุด การเสียสละ อุทิศตน อุปัทวะเหตุเภทภัยหรือความเจ็บป่วย เหตุการณ์ไม่คาดคิด การหยุดเพื่อเริ่มต้น/สิ้นสุดสิ่งเก่าเข้าสู่สิ่งใหม่” แต่ตามที่เราจะพิจารณากันในครั้งนี้ขอให้มองเรือนวินาสว่าเป็น “ความยุ่งยากผลักดัน” คือมองความหมายที่เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข อันจะผลักดันให้ชีวิตมีความเคลื่อนไปดีขึ้นหลังจากแก้ไขปัญหานั้นแล้ว ตามความหมายของเรือนที่เป็น “วินาสนะ” นั้นเอง

          บริบทกฎเกณฑ์ที่จะต้องตั้งเป็นตัวตั้งในการพิจารณาไว้อยู่เสมอ ซึ่งในที่นี้เป็นเรื่องของการพิจารณาดาวลอยประสมเรือนสัมพันธ์ หลักเกณฑ์ที่ต้องจดจำ คือ ดาวลอยนั้นเป็นเจ้าเรือนใดในดวงชะตา ดาวนั้นมีมาตรฐานตำแหน่ง(เกษตร ประ อุจ นิจ มหาจักร ราชาโชค) อันเป็นความเข้มแข็งอ่อนแอในการแสดงภาพความหมายอย่างไร จากนั้นพิจารณาความเป็นอยู่ของดาว โดยดูจากความสัมพันธ์ของธาตุดาวลอยกับธาตุราศีที่ตนมาสถิต และความสัมพันธ์ระหว่างดาวลอยกับดาวเกษตรราศีเจ้าเรือน แล้วขยายผลความหมายด้วยการติดตามดูดาวเกษตรเจ้าเรือนที่ดาวลอยมาสถิตว่าไปอยู่ที่ใด นำความหมายเรือนที่ไปอยู่นั้นมาอ่านประกอบเพื่อให้เห็นภาพความหมายชัดเจนมากยิ่งขึ้น

          ตามที่เกริ่นไว้แล้วว่าในที่นี้จะใช้ความหมายเรือนวินาสตามความที่ว่า “ยุ่งยากผลักดัน” ซึ่งจะเป็นไปในด้านดีและร้ายอย่างไรนั้น จะเห็นภาพความหมายเสริมเรื่องตามการพิจารณาอย่างเป็นขั้นตอนไปตามลำดับ ในที่นี้จะเห็นว่าเรือนวินาสมีดาวลอยมาสถิตสองดวงคือดาว ๖ และดาว ๘ ซึ่งเราจะได้พิจารณาบริบทของดาวที่มาสัมพันธ์ในเรือนวินาสนี้ก่อน

          ๑.พิจารณาดาว ๖

          ก.ดาว ๖ เป็นเกษตรสองราศีคือตุลและพฤษภ อันเป็นเรือนพันธุและลาภะของดวงชะตา ความหมายหนึ่งของเรือนพันธุคือเรื่องของเสถียรภาพความมั่นคงในชีวิตของเจ้าชะตา เช่น บ้าน รถ ที่ดิน ทรัพย์สินใหญ่ เป็นต้น และความหมายของลาภะคือเป้าหมายที่ประสงค์จะให้เกิดความสำเร็จประโยชน์ เช่น ทรัพย์สินเงินทอง โชคลาภความสำเร็จ การได้รับผลในสิ่งที่ตั้งใจไว้ เป็นต้น

          ข.ดาว ๖ เป็นดาวธาตุน้ำมาอยู่ในราศีมิถุนธาตุลม ไม่เชิงส่งเสริมหรือหักล้างต่อกัน ธาตุน้ำย่อมได้รับความแกว่งไกวจากธาตุลม ทำให้กระเพื่อมเกิดความไม่คงตัวบ้าง ความแน่นอนทางความหมายของพันธุและลาภะจึงไม่สู้จะมั่นคงนัก และก็ไม่มีความหยุดนิ่งในเรื่องเหล่านี้ (ให้นึกถึงความเป็นระลอกลูกคลื่นของน้ำที่มีความเคลื่อนตัวตลอด)

          ค.ดาว ๖ กับดาว ๔ เกษตรราศีมิถุน มีลักษณะของความส่งเสริมในเชิงเป็นมิตรต่อกัน และเป็นดาวธาตุน้ำเหมือนกัน(คู่ธาตุ) ทำให้ความหมายของดาว ๖ พันธุ,ลาภะ แสดงผลในด้านดีได้บ้างในเรือนวินาสนี้

          ภาพความหมายที่เราจะเห็นในชั้นนี้ก่อนคือ “ความยุ่งยากผลักดัน” ที่มาจากการต้องการความมั่นคงในสถานะชีวิตของเจ้าชะตา(พันธุ) เพื่อให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ต้องใจไว้(ลาภะ) ในเรื่องของทรัพย์สินเงินทอง บ้านช่องที่ดิน ฐานะความเป็นอยู่(ตามความหมายของดาว ๖) ซึ่งจะต้องมีการกระทำอยู่เรื่อยๆในช่วงชีวิตมีความหนักเบาในเรื่องนี้อยู่เป็นระยะ

          ๒.พิจารณาดาว ๘

          ก.ดาว ๘ เป็นเกษตรราศีกุมภ์ อันเป็นเรือนมรณะของดวงชะตา เรือนมรณะจะให้ความหมายเกี่ยวกับความเสื่อมสิ้นไป เสียหาย สิ้นเปลือง เปลี่ยนแปลงสภาพ ในที่นี้เราจะเห็นความหมาย มรณะ-วินาส คือความเสียหายจะก่อให้เกิดความเดือดร้อน

          ข.ดาว ๘ เป็นดาวธาตุลม สถิตในราศีธาตุลม มีลักษณะของความคล่องตัวในการแสดงภาพความหมายที่ตนนำมา เพราะธาตุดาวเป็นธาตุเดียวกับธาตุราศี ความเสียหายอันเป็นผลมาจากมรณะจึงสามารถส่งผลได้เร็ว ส่วนความรุนแรงนั้นจะต้องพิจารณาในข้อต่อไป

          ค.ดาว ๘ กับดาว ๔ เกษตรราศีมิถุน เป็นดาวคู่ศัตรูต่อกัน จึงให้ภาพความหมายในทางไม่ราบรื่น เป็นอุปสรรคปัญหาที่ต้องเผชิญแก้ไขจากเรื่องราวที่มากระทบอยู่ตลอดเวลา

          ภาพความหมายที่เราเห็นตรงนี้คือความเสียหายในลักษณะความหมายของมรณะ มาก่อความ “ยุ่งยากผลักดัน” ให้กับเจ้าชะตา ซึ่งปัญหาของมรณะนั้นเราต้องมองว่าเป็นทั้งปัญหาที่มีทางแก้ไขและปัญหาที่ไม่อาจจะแก้ไขได้(ตาย พลัดพราก) ซึ่งดาว ๘ นำเอาปัญหาตรงนี้มาก่อเป็นอุปสรรคในเรือนวินาสได้อย่างคล่องตัว(๘ ธาตุลม ในราศีมิถุนธาตุลมเหมือนกัน)

          ๓.ขยายผลความหมาย

          ติดตามดาว ๔ เกษตรราศีมิถุน อันเป็นเจ้าเรือนวินาส ไปสถิตยังเรือนกดุมภะซึ่งเกี่ยวข้องกับสถานะการเงินการทองของเจ้าชะตา เป็นภาพความหมายว่า วินาส-กดุมภะ คือ ความยุ่งยากผลักดันที่นำไปสู่เรื่องของสถานะทางการเงิน ดาว ๔ ในราศีสิงห์นี้มีมาตรฐานตำแหน่งเป็นมหาจักรและราชาโชค จึงแสดงผลความหมายที่ผาดแผลงมีความขึ้นๆลงๆ(มหาจักร) และความราบรื่นตามเป้าประสงค์ที่ต้องการ(ราชาโชค)

          เมื่อได้ทำการ “วิเคราะห์” แยกแยะสาระของเรือนวินาสที่จะส่งผลต่อดวงชะตา จากนี้เราจึงต้อง “สังเคราะห์” สรุปเป็นภาพความหมายรวมความออกมาเป็นคำพยากรณ์จากหลักการเหตุผลที่เราแสดงตามขั้นตอนมาแล้ว สรุปได้ดังนี้

          เจ้าชะตามีความยุ่งยากจากเรื่องความมั่นคงในฐานะความเป็นอยู่ของชีวิต(๖ พันธุ) จึงปรารถนาที่จะสร้างความมั่นคงนั้นให้เกิดขึ้น(๖ ลาภะ) ซึ่งความหมายของความมั่นคงนั้นอาจเป็นในเรื่องของการเงินการทอง ทรัพย์สินที่ดินบ้านช่อง ยานพาหนะ สถานภาพฐานะทางสังคม แต่เจ้าชะตามักต้องเผชิญปัญหาอันเป็นอุปสรรคหนักเบาอยู่เป็นระยะ(๘ มรณะ) ซึ่งเจ้าชะตาเองจะเป็นผู้แก้ไขฝ่าฟันอุปสรรคนั้นไปได้ด้วยตนเอง(มรณะ-วินาส) ซึ่งความหมายเหล่านี้เป็นเรื่องของความ “ยุ่งยาก” ที่จะเป็น “แรงผลักดัน” ให้เจ้าชะตาเผชิญหน้าไปเพื่อประโยชน์สำเร็จทางด้านสถานะการเงิน โดยเป็นไปในลักษณะของการแก้ไขปัญหาเพื่อความพัฒนา คือถ้าผ่านพ้นไปได้แล้วจะทำให้สถานภาพของเจ้าชะตาดีขึ้น(๔ มหาจักร) และความอุปถัมภ์ช่วยเหลือที่จะทำให้เกิดความราบรื่นคล่องตัว(๔ ราชาโชค) ต่อการแสวงหาเพื่อสร้างความมั่นคงทางสถานะการเงินนั้นได้อย่างสำเร็จ(๔ กดุมภะ)

          ข้อเท็จจริงของดวงชะตานี้ เจ้าชะตาเป็นชาย ฐานะความเป็นอยู่ทางครอบครัวแต่เดิมมาไม่ดีนัก(๖ พันธุ,ลาภะ-วินาส) แต่มีโอกาสจับพลัดจับผลูได้ไปทำงานต่างประเทศถึงสองครั้ง(๘ มรณะ-วินาส) ซึ่งงานที่ไปทำนั้นก็มีความขึ้นๆลงๆ(๔ มหาจักร) บางช่วงก็มีงานทำได้รับค่าตอบแทนเต็มอัตราหรือมากกว่า แต่บางช่วงก็ไม่ได้ทำต้องอาศัยทำงานอื่นเสริมที่มีผู้อุปการคุณให้(๔ ราชาโชค และเจ้าเรือนสหัสชะด้วยส่วนหนึ่ง) ทำให้เจ้าชะตาสั่งสมจากการแสวงหา(๔ กดุมภะ) เมื่อกลับมาจึงสามารถปลดหนี้ครอบครัว และสร้างฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ เป็นภาพความหมายที่มองได้อย่างสมส่วนเข้ามาจากเรือนวินาสในเรื่องของ “ความยุ่งยากเป็นแรงผลักดัน” ได้อย่างดี

ธีรพร  เพชรกำแพง

9 เมษายน 2558

ตัวอย่างการพยากรณ์ดวงชะตาพื้นฐาน ตอน การอ่านเรือนสัมพันธ์ประสมดาวลอย 4

การอ่านเรือนสัมพันธ์ประสมดาวลอย ๔

ในการพิจารณาดวงชะตาด้วยระบบเรือนสัมพันธ์นั้น เรื่องราวต่างๆของความเป็นชีวิตย่อมมีความเกี่ยวข้องต่อเนื่องกันไป เมื่อจะหยิบจับเรื่องใดขึ้นมาพิจารณา ให้ดูขอบเขตเรื่องราวนั้นว่าเข้ากับความหมายของเรือนใดที่จะพิจารณาเป็นสำคัญ เพราะเมื่อใช้ระบบเรือนสิ่งแรกที่ต้องคำนึงคือความหมายเรื่องราวนั้นเข้ากับเรือนใด ก็นำเรือนนั้นมาพิจารณา ความสัมพันธ์ทางความหมายย่อมเป็นไปโดยเจ้าเรือนเป็นตัวการสำคัญ การโยงใยของดาวทั้งหมดมีรูปแบบที่สัมผัสสัมพันธ์ถึงกันได้ ด้วยเรือนนั้นอยู่บนฐานของความเป็นราศีที่มีปัจจัยให้พิจารณาในความเป็นราศี ธาตุ ประเภท เจ้าการหรือเกษตรราศี ซึ่งล้วนมีความเกี่ยวข้องโยงใยที่จะต้องจับมาวิเคราะห์ร่วมด้วยเสมอ

ครั้งนี้เราจะมาพิจารณาเรือน “ลาภะ” อันเป็นเรือนที่ ๑๑ นับมาจากลัคนา ให้ความหมายถึงความหวังความสำเร็จ โชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง ความอุดมสมบูรณ์ และยังเป็นอีกเรือนหนึ่งซึ่งสามารถใช้พิจารณาประเด็นสถานะการเงินของเจ้าชะตาได้ ซึ่งในที่นี้เราจะว่ากันด้วยเรื่องสถานะทางการเงินของเจ้าชะตา โดยการพิจารณาจากดาวลอยที่มาสถิตสัมพันธ์กับเรือนลาภะเป็นสำคัญ

กฎเกณฑ์การพยากรณ์ที่จะลืมเสียไม่ได้ในทุกครั้ง และต้องซ้ำย้ำทวนเพื่อให้เกิดความจดจำชำนาญในการวิเคราะห์ดวงชะตาอย่างเป็นระบบ ในที่นี้คือการพิจารณา “ดาวลอย” สัมพันธ์กับเรือนชะตา จึงจำเป็นต้องทราบว่าดาวลอยนั้นคือดาวที่มาสถิตราศีอื่นอันมิใช่เรือนเกษตรราศีของตน จะต้องพิจารณาว่าดาวนั้นมาจากเรือนใด ทำหน้าที่อย่างไรในดวงชะตา โดยพิจารณาความเป็น “เจ้าเรือน” ที่จะนำพาเรื่องราวต่างๆมาเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับเรือนที่เราประสงค์จะวิเคราะห์ ชั้นต่อมาให้พิจารณาถึงตำแหน่งความเป็นอยู่ของดาวว่าเป็นอย่างไร เช่น มีตำแหน่งมาตรฐานใด ธาตุดาวอยู่ในราศีธาตุที่เป็นคุณเป็นโทษ ความสัมพันธ์ระหว่างดาวลอยกับดาวเจ้าเรือนนั้นดีร้ายต่อกันอย่างไร และเพื่อให้รู้ผลต่อเนื่องไปอีกจะต้องติดตามพิจารณาว่าดาวเจ้าเรือนนั้นไปสถิตยังที่ใดเรือนใด เป็นการสอบความหมายขยายผลให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

          จากรูปดวงจะเห็นว่าเรือนลาภะ คือ ราศี พฤษภ เป็น ลาภะ ให้ภาพความหมายว่า “การใช้มาตรฐานด้านเวลาและความมั่นคงให้ได้ผลประโยชน์แบบเดิม ไม่พยายามพลิกแพลงเพราะกังวลความสั่นคลอน” แสดงว่าเจ้าชะตาปรารถนาความมั่นคงทางด้านสถานะทางการเงินของชีวิต แต่จะมีความเป็นไปอย่างไรนั้นต้องพิจารณาจากองค์ประกอบขั้นตอนตามกฎเกณฑ์ที่กล่าวถึงนั้นอย่างเป็นลำดับขั้นตอนไป

          ก.ดาว ๕ เป็นดาวลอยมาสถิตเรือนลาภะ เป็นเกษตรราศีธนูและมีน อันเป็นเจ้าเรือนอริและศุภะ ความหมายของอริ-ศุภะ คือ ความยุ่งยากเดือดร้อนในการดำเนินชีวิตตามครรลองที่เป็นอยู่ตามบริบทต่างๆ หรือการต่อสู้กับอุปสรรคเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ในที่นี้ประสมความหมายรวมอริ-ศุภะ แบบไม่แยกพิจารณา เพื่อให้กระชับเป็นความหมายเดียว แต่หากประสงค์พิจารณาละเอียดลงไปก็สามารถแยกประเด็นพิจารณาตามความหมายการเป็นเจ้าเรือนของดาว ๕ ได้(ในความที่ดาว ๕ เป็นเจ้าเรือนศุภะด้วยย่อมมีผลคุณด้านดีตามความหมาย ศุภะ-ลาภะ คือ เป้าหมายครรลองชีวิตนั้นย่อมมีความสำเร็จอยู่ด้วย)

          ข.ดาว ๕ นั้นเป็นดาวธาตุดิน เมื่อมาอยู่ในราศีพฤษภซึ่งเป็นธาตุดินเหมือนกันย่อมมีความส่งเสริมกันดี และเกษตรราศีคือดาว ๖ ก็มีลักษณะของความเป็นมิตรต่อกันกับดาว ๕ ฉะนั้นดาว ๕ จึงทำหน้าที่แสดงความหมายได้อย่างราบรื่นเต็มที่ทั้งดีและร้าย

          ในชั้นนี้จึงได้ภาพความหมายที่ดาว ๕ มาก่อความยุ่งยากในเรือนลาภะให้ต้องต่อสู้ดิ้นรนต่ออุปสรรคต่างๆ(อริ) เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามครรลองการดำเนินชีวิต(ศุภะ)

          ค.ดาว ๘ เป็นดาวลอยมาสถิตเรือนลาภะ เป็นเกษตรราศีกุมภ์ อันเป็นเจ้าเรือนมรณะ ที่มีความหมายถึงการสูญเสีย ความเสียหาย ความยุ่งยากจากอุปสรรค ฉะนั้นดาว ๘ จึงเป็นดาวลอยอีกดาวหนึ่งที่มาสร้างความเดือดร้อนให้กับเรือนลาภะ

          ง.ดาว ๘ นั้นเป็นดาวธาตุลม มาสถิตในราศีธาตุดินคือพฤษภ ซึ่งไม่ได้จัดว่ามีความส่งเสริมกัน ภาพความหมายย่อมเสริมกับความติดขัด และเกษตรเจ้าราศีคือดาว ๖ เองก็มิได้แสดงผลสัมพันธ์อันดีกับดาว ๘  ประกอบกับดาว ๘ มีสภาพมาตรฐานเป็นนิจ จึงทำให้ผลเสียของดาว ๘ มีความซ้ำซ้อนมากยิ่งขึ้นไปอีก

          ภาพความหมายที่ได้ตรงนี้คือ มรณะ-ลาภะ ความว่า ลาภผลนั้นเกิดความเสียหาย การได้มาซึ่งสถานะการเงินมีความยุ่งยาก มักมีอุปสรรคความเดือดร้อนทางด้านทรัพย์สินเงินทอง

          จ.พิจารณาดาว ๖ เจ้าเรือนลาภะ ไปสถิตยังเรือนตนุ เรื่องราวความหมายของเรือนลาภะที่เราอ่านได้จากดาวลอยมาสถิตเรือน จึงติดตามมาถึงเรือนตนุ คือตนเองย่อมได้รับความเดือดร้อนนั้นโดยตรง ดาว ๖ มีตำแหน่งมาตรฐานเป็นราชาโชค สถิตในราศีธาตุน้ำอันเป็นธาตุเดียวกับตนที่ส่งเสริมกัน และดาว ๒ ก็เอื้อความหมายในทางที่ดีแก่ดาว ๖ ถือว่ามีความส่งเสริมกันอยู่ เพราะฉะนั้นปัญหาสถานะทางการเงินที่มาจากเรือนลาภะนั้นก็ไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอกกันเสียทีเดียวนัก ยังมีหนทางแก้ไขให้รอดพ้น หรือความส่งเสริมช่วยเหลือจากบุคคลอื่นให้สามารถผ่านพ้นไปได้

          สรุปภาพความหมายจากการพิจารณาดาวลอยสถิตเรือนลาภะในที่นี้ได้ว่า เจ้าชะตามักประสบกับปัญหาการเงินในครรลองการดำเนินชีวิตตามบริบทต่างๆ ทั้งการดิ้นรนขวนขวายเพื่อให้ได้มา และเหตุที่ทำให้ต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทองนั้นอยู่เรื่อยๆ กระนั้นเจ้าชะตาก็ยังพอมีความสามารถหรือหนทางที่พอจะฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อแสวงหาพยุงรักษาไว้ซึ่งสถานะทางการเงินของเจ้าชะตาให้พ้นวิกฤตอยู่รอดได้ด้วยตนเองและความสนับสนุนช่วยเหลือจากผู้อื่น

          ข้อเท็จจริงของดวงชะตานี้ เป็นผู้หญิงที่ต่อสู้ชีวิตด้วยความลำบาก มีอาชีพทางเกษตรกรรมทำนาไร่ซึ่งก็ไม่ได้มีมากอะไร เงินไม่พอใช้ก็รับซื้อของเก่าควบคู่ไปด้วย เล่าว่าทั้งชีวิตทำงานลำบากมาตั้งแต่เด็กจนแก่ตัวมาก็ยังต้องทำอยู่อย่างนั้น และสถานะการเงินไม่เคยมีความสะดวกสบายใจที่จะใช้สอยเลย ต้องหามาใช้ไปมีเหตุให้ต้องหมุนเวียนเงินคือเป็นหนี้และต้องขวนขวายหาหนทางใช้หนี้ พอไม่มีก็หามาใหม่วนๆซ้ำๆอยู่อย่างนั้น  มีลูกต้องเป็นภาระรับผิดชอบส่งเสียเล่าเรียนจนจบทุกคน แม้จบแล้วลูกมีปัญหาการเงินก็ยังต้องหาเงินกู้หนี้ยืมสินมาช่วยลูกของตน และส่วนใหญ่แล้วตนก็ต้องรับผิดชอบใช้หนี้นั้นด้วยตนเองเกือบทั้งสิ้น แต่ก็ยังดีที่ว่าเจ้าหนี้ให้ความอนุเคราะห์ทางการเงินที่จะหยิบยืมกู้มาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาทางสถานะทางการเงิน เพราะเห็นในความลำบากของเจ้าชะตา และเจ้าชะตาเองก็ตรงเวลาในเรื่องของการใช้หนี้สินนั้นด้วย

ธีรพร  เพชรกำแพง

6 เมษายน 2558

ตัวอย่างการพยากรณ์ดวงชะตาพื้นฐาน ตอน การอ่านเรือนสัมพันธ์ประสมดาวลอย 3

การอ่านเรือนสัมพันธ์ประสมดาวลอย ๓

          จากที่ได้แสดงการพิจารณาดวงชะตาด้วยระบบเรือนสัมพันธ์มาในครั้งก่อนๆ สิ่งที่เน้นย้ำมากคือเรื่องของการฝึกอ่านเพื่อเป็นแนวทางไปสู่การพยากรณ์อย่างเป็นลำดับขั้นตอน โดยการอ่านความหมายดาวที่สถิตราศีหรือที่เรียกว่า “ดาวลอย” ประสมกับการอ่านทางเรือนสัมพันธ์ให้มีความเกี่ยวเนื่องกัน ทิศทางของคำพยากรณ์นั้นจะมีความสอดคล้องให้ความหมายเสริมเรื่องประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องชัดเจนขึ้น

          ในครั้งนี้เราจะพิจารณาเรือน “กัมมะ” คือเรือนที่ ๑๐ นับจากลัคนา ให้ความหมายถึงอาชีพการงาน ภารกิจ การกระทำ ในการพิจารณาดวงชะตาเรายังคงยึดหลักเกณฑ์เพื่อปรับความคิดให้เป็นลำดับขั้นตอน ซึ่งต่อไปเมื่อมีความชำนาญแล้วเราจะสามารถพิจารณาดวงชะตาได้คล่องตัวรวดเร็วและไม่ตกหล่นจากหลักการพยากรณ์ที่มีเหตุมีผลรองรับ โดยหลักการพิจารณาที่ต้องเน้นย้ำอยู่เสมอมีดังนี้

๑.ดาวเจ้าเรือนกัมมะสถิตที่ราศีใด มีตำแหน่งมาตรฐานเข้มแข็งหรืออ่อนแอ

๒.ดาวเจ้าเรือนกัมมะไปสถิตในราศีแห่งดาวเกษตรอะไรและความสัมพันธ์ระหว่างดาวเจ้าเรือนที่ไปสถิตกับดาวเกษตรเจ้าเรือนที่ตนสถิตนั้นเป็นอย่างไร

๓.ดาวเจ้าเรือนกัมมะเป็นดาวธาตุใด และสถิตในราศีธาตุใด ธาตุแห่งราศีนั้นหักล้าง ส่งเสริม หรือเป็นกลางๆต่อกัน (พิจารณาความราบรื่นของดาวกัมมะ)

๔.ดาวเจ้าเรือนกัมมะสถิตในเรือนใด จะบอกถึงความหมายที่จะเกิดตามความสัมพันธ์ความหมายแห่งเรือนนั้นๆ

๕.เกษตรเจ้าเรือนที่ที่ดาวเจ้าเรือนกัมมะสถิต ไปสถิตอยู่ในเรือนใด จะเป็นความหมายบอกผลประกอบเรื่องราวให้ได้รายละเอียดชัดเจนขึ้น

๖.พิจารณาความสัมพันธ์ในเรือนกัมมะว่ามีดาวลอยปรากฏหรือไม่ หากมีให้พิจารณาความหมายความเป็นดาวหรือเจ้าเรือนนั้นประกอบด้วย

          ในที่นี้ราศีเมษเป็นเรือนกัมมะ ให้ความหมายว่า “ความกล้า บุกเบิก ริเริ่มกระทำในกิจการงาน โดยเฉพาะเมื่อมีแรงกระตุ้นหรือสิ่งเร้าท้าทายความตั้งใจ” แสดงถึงว่าการงานของเจ้าชะตานี้เป็นลักษณะที่ต้องบุกเบิก ริเริ่ม พุ่งมุ่งกระทำอย่างตรงประเด็นไปตามความหมายของราศีเมษ

          ก.ดาว ๓ เจ้าเรือน กัมมะ สถิตราศีเมษเป็นเกษตรในเรือนกัมมะเอง ให้ความหมายถึงการประกอบการงานที่จะสร้างความมั่นคงเป็นปึกแผ่นให้เจ้าชะตา ความหมายทางดาวสถิตเรือนของดาว ๓ ในเรือนกัมมะ ความว่า “การมุ่งพุ่งกระทำ บุกเบิกเร่งรีบ ราวกับการเร้าการแข่งขันท้าทายกับเวลา หวังผลโดยเร็ว” สอดคล้องให้ความหมายเต็มที่ในลักษณะของราศีเมษเป็นเรือนกัมมะ เพราะดาว ๓ เป็นเกษตรมีอำนาจความหมายชัดเจนในทางส่งเสริมกันของเรือนนี้

          ข.ดาว ๓ เจ้าเรือน กัมมะ สถิตราศีเมษอันเป็นเกษตรราศีตนเอง จึงไม่ต้องพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างดาว ๓ กับเกษตรเจ้าเรือนอีก

          ค.ดาว ๓ ธาตุลม มาสถิตในราศีเมษธาตุไฟ และเป็นเรือนเกษตร จึงถือว่าธาตุดาวและธาตุราศีมีความส่งเสริมกันเป็นอย่างดี

          ง.ดาว ๓ ในราศีเมษมีมาตรฐานตำแหน่งเป็นเกษตรแสดงถึงความหมายที่เถียรของดาว ๓ ราศีเมษ และเรือนกัมมะ เสมือนมีอำนาจเต็มในบ้านของตน จึงไม่ต้องติดตามอ่านดาวเจ้าเรือนกัมมะว่าไปอยู่ที่ใดเพื่อขยายผลภาพความหมายอีก

          จ.พิจารณาความสัมพันธ์ในลักษณะ “ดาวลอย” สถิตเรือนกัมมะในที่นี้คือดาว ๖ อันเป็นเจ้าเรือนพันธุและลาภะ มาสถิตราศีเมษมีมาตรฐานตำแหน่งเป็นประ ความเป็นประของดาว ๖ นี้แสดงถึงความพร่องให้ผลไม่เต็มที่ ต้องสรรสร้างสั่งสมให้เกิดมีขึ้นทีละเล็กทีละน้อยอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยการงานของเจ้าชะตานั้นมักมีความพร่องทางด้านความมั่นคงมาก่อน(พันธุ-ประ) จึงต้องเพียรแสวงสั่งสม(๖ ประ) ตามจุดมุ่งหมายแห่งความสำเร็จที่หลากหลาย(ลาภะ-ประ) เพื่อให้เกิดความมั่นคงเป็นปึกแผ่นประดุจเนื้อเดียวกัน(๓ เกษตร) สอดคล้องกับความหมายดาวสถิตเรือนที่ว่าดาว ๖ สถิตเรือน กัมมะ “การใช้อรรถแวดล้อมที่เป็นประโยชน์สร้างความคล่องตัวในการทำกิจการงาน รวมถึงการกระทำที่เป็นข้อตกลง”

          ข้อเท็จจริงดวงนี้เป็นดวงฤกษ์ก่อตั้งชมรมพัฒนาวิชาโหราศาสตร์ไทย ที่นำมาอ่านอย่าง “ดวงคน” ตามรูปแบบระบบการอ่านด้วยเรือนสัมพันธ์ ความหมายประกอบความจริงในภาพรวมของ “กัมมะ” ตามดวงนี้จะต้องกระทำเพื่อให้เกิดความมั่นคงเป็นปึกแผ่น(กัมมะ-เกษตร) โดยการบุกเบิก บากบั่น ริเริ่ม พุ่งมุ่งกระทำให้เกิดความชัดเจนเห็นผล(๓-เมษ) แต่การกระทำนั้นต้องสั่งสมรวบรวมสิ่งที่พร่องกระจัดกระจายอยู่เดิม(พันธุ-ประ) เพื่อก้าวสู่เป้าหมายความสำเร็จที่ต้องการอย่างค่อยเป็นค่อยไป(ลาภะ-ประ) เพราะความสำเร็จราบรื่นมิได้ปรากฏในคราวเดียว(๖ ประ) จะต้องใช้ความเพียรพยายามกระทำการเพื่อให้ไปสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคงถาวร(๓ กัมมะ เกษตร)

ซึ่งจุดประสงค์ของชมรมพัฒนาวิชาโหราศาสตร์ไทยนั้นเพื่อเป็นไปในการรวบรวมพัฒนาความรู้ทางโหราศาสตร์ที่มีความหลากหลายอยู่เดิม มาสรรประโยชน์ให้เป็นระบบสะดวกต่อเชิงชั้นกระบวนวิธีทางการศึกษาและเผยแพร่โหราศาสตร์ในลักษณะที่เป็นรูปธรรม ซึ่งก็มีความยากที่จะปฏิบัติเพราะ “ความหลากหลาย” ที่ถือว่าเป็นความพร่องจะต้องเก็บรายละเอียดต่างๆมาเสริมเติมเต็มให้เกิดความเป็น “น้ำหนึ่ง” ทางโหราศาสตร์ไทยต่อไปในอนาคต

ธีรพร  เพชรกำแพง

4 เมษายน 2558

แจกฟรี !! ..โปรแกรมกาลชะตา "โหรทายหนู"

โปรแกรมโหรทายหนู ตามแนวทาง อ.ประทีป  อัครา นี้ พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการศึกษาโหราศาสตร์ไทยภาคดวงกาลชะตา(จับยาม,ทายยาม) มีรูปแบบการขับดาวเข้าจักรจากยามอัฐกาล ประกอบไปด้วยปัจจัยที่ใช้พยากรณ์ คือ ลัคนา อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ ราหู และใช้วิธีการพิจารณาตามหลักการทางโหราศาสตร์ไทยแบบเรือนสัมพันธ์ ทั้งนี้ผู้จัดทำได้ประยุกต์เพิ่มเติมในส่วนที่เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ในเชิงพยากรณ์ และเพื่อความสะดวกแก่ผู้ใช้งาน โดยสมควรที่จะต้องทำความเข้าใจร่วมกันดังนี้

๑.ปัจจัยพยากรณ์วงในเกิดจากการขับดาวเข้าจักร(ยามอัฐกาล) มิใช่ปัจจัยจริงบนท้องฟ้า

๒.ปัจจัยพยากรณ์วงนอก เป็นพระเคราะห์จรปัจจุบันตามการคำนวณแบบสุริยยาตรวิธี

๓.ผู้จัดทำได้เพิ่ม ตนุเศษ ส่วนวิเคราะห์ปัจจัย เรือนสัมพันธ์ และดาวจรกระทบดวงยาม ยามอัฐกาลชั้นฉาย จุดพยากรณ์เฉพาะเวลา

ท่าน อ.ประทีป  อัครา ระบุถึงกฎการพยากรณ์แบบของท่าน ดังนี้

๑.เริ่มดูจากจุดพยากรณ์

๒.ดูว่าดาวเกษตรของจุดพยากรณ์นั้นไปสถิตในภพใด-มีความหมายอย่างไร

๓.ดูต่อไปว่าเจ้าเรือนของดาวเกษตรนั้นไปสถิตอยู่ในภพใด-มีความหมายอย่างไร

ความรู้และขั้นตอนวิธีการสร้างดวงยามสามารถศึกษาได้จากตำรา “โหรทายหนู” ฉบับ อ.ประทีป  อัครา

ขอให้ท่านผู้สนใจที่ใช้โปรแกรมนี้จงเจริญสุขวัฒนะทางโหราศาสตร์ด้วยกันทุกท่าน

ธีรพร  เพชรกำแพง

หมายเหตุ : คลิกที่ราศีวงในและวงนอกเพื่อเพิ่ม/ลดขนาดอักษรปัจจัยในราศีจักร

ลิงค์ดาวน์โหลด : http://www.mediafire.com/download/od0tqk5dufu26bt/โหรทายหนู.rar

...โปรแกรมโหรทายหนู ฉบับ อ.ประทีป อัครา (แก้ไข 2 พฤษภาคม 2558)
...แก้ไขจุดพยากรณ์ตามเวลาแสดงผลผิดพลาดในยามที่ 8 (กลางวัน)
...นำตรับยามมาไว้หัวข้อแรกให้สังเกตง่าย (เดิมอยู่ในแถบจักรทีปนีจร)
::: โปรแกรมโหรทายหนู :::
http://www.mediafire.com/download/b4bdn8dv6ccodda/โหรทายหนูfix020558.rar