17 เมษายน 2558

คุยเรื่องเก่า..เล่าความหลัง ตอนที่ 1

ความเป็นอยู่อย่างมีความสุขจากความทุกข์ลำบากจนชินนั้นเกิดขึ้นกับฉันอยู่เสมอ จะกระไรเสียได้เพราะเรามิใช่พื้นฐานคนมีมาก่อน เพียรพยายามสร้างตัวตามสติปัญญาตามกำลังที่พอจะทำได้ไหว ซึ่งตอนนี้ถือว่าดีกว่าเมื่อสมัยก่อนที่ต้องอยู่บ้านขี้ฟากแบบเล้าไก่ มาเป็นบ้านคอนกรีตหลังคาสังกะสีที่ทำได้ครึ่งๆกลางๆ ไม่เสร็จสมบูรณ์เพราะไม่มีกำลังทรัพย์ แต่มีความมั่นคงแข็งแรงดี แม้บางทีฝนตกแรงๆสาดเข้ามาจะหาที่อยู่กันไม่ได้ ฝนก็ไม่ได้ตกตลอดกาลไม่เกินนานสองนานมันก็ต้องหยุด แล้วเก็บข้าวของเช็ดถูน้ำให้แห้ง เป็นการอยู่แบบมีสติดีไปอีกแบบ
ชีวิตฉันนั้นอยู่ด้วยความหมายแห่ง "คุณค่า" มากกว่า "ราคา" ที่นอนเบาะเก่าดำขาดจนสิ้นเค้าเดิมนั้น เป็นของปู่เชษฐ์ในปีที่ปู่กินยาพิษฆ่าตัวตาย ปู่นอนตายบนเบาะนี้ ครั้งเก่าเป็นเบาะแบบที่นอนสามอัน ปีนั้นหนาวมาก ฉันนั่งอยู่ระเบียงบ้านสวมเสื้อแขนยาวกันลมผ้าร่มบางๆที่พรรคการเมืองเขาแจกตอนหาเสียง ย่าเดินมาเห็นเข้าถามว่าหนาวมากไหม ตอบว่าหนาวมาก แล้วย่าถามว่ากลางคืนไม่หนาวยิ่งกว่านี้หรือ ฉันตอบหนาวยิ่งกว่านี้ ย่าถามว่าทำอย่างไร ฉันบอกว่าเอาผ้าห่มซ้อนกันกับมุ้งเก่าที่เก็บไว้ไม่ได้ทิ้ง ถ้าวันไหนหนาวมากก็เอากระสอบป่านมาซ้อนทับด้วย ย่าคงเวทนา ถามว่าเอาที่นอนของปู่ที่นอนตายไหม เก็บไว้ไม่มีใครกล้าเอาไป ฉันดีใจก็ว่าเอา ย่าก็เอามาให้นอนลดหนาว ฉันเองได้มาก็ดีใจว่าคลายหนาวอย่างหนึ่ง และดีใจว่านี่เป็นของปู่ที่เคยดูแลเลี้ยงฉันเมื่อคราวเด็ก ปู่ตายไปแล้ว ฉันชอบสวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิบนที่นอนนี้ก็จะระลึกถึงปู่ ให้ปู่ได้รับกุศลอยู่ทุกวันเวลาที่ฉันได้กระทำ พอนานเข้าเก่าขาดผุพังไป ฉันก็หาซื้อปลอกเบาะมาใหม่ แต่เอานุ่นในเบาะเก่ามาใส่ไว้ นอนจนเก่าคร่ำคร่าดำขาดเปลี่ยนสภาพ มีพี่น้องญาติมิตรจะเอาไปเผาไปทิ้งแล้วซื้อของใหม่ให้ แต่ฉันไม่ยอมแล้วเล่าถึงความสำคัญที่มาของเบาะอันนี้ให้ทราบ ไม่รู้ว่าเขาจะเวทนาหรืออย่างไร พยายามจะเอาของใหม่มาให้ แต่ฉันไม่ขอรับเกรงว่าจะเป็นการรบกวนเขาด้วย หมอนสองใบที่ดำๆนั้นก็เหมือนกัน ฉันเรียก "หมอนเหม็น" ไปไหนต้องเอาไปด้วย ไม่กระนั้นนอนไม่หลับ ใบหนึ่งเป็นหมอนที่ฉันนอนมาแต่คราวเด็ก พอปลอกมันเก่าดำผุพังขาดไปฉันก็หาปลอกมาใส่นุ่นภายในนั้นใหม่ อีกอันเป็นหมอนที่ข้างในมีนุ่นของหมอนที่พ่อกับแม่เคยนอน ฉันเอามารวมกัน โต๊ะที่เห็นนั้นพ่อทำให้ใช้สมัยรับดูดวงปีแรก ฉันก็ใช้ตอนรับแขกดูดวง เขียนหนังสือ วางคอมพิวเตอร์ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน กระเป๋าสะพายข้างและกระเป๋าใส่เงินของฉันทุกใบ ฉันจะขอให้แม่ซื้อให้ เพราะฉันถือว่าของที่มาจากพ่อจากแม่นั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของฉัน แม้มันจะไม่ทันสมัยราคาไม่กี่สตางค์ แต่ก็จะเห็นฉันใช้ของเหล่านี้คู่ตัวในชีวิตประจำวันของฉันเสมอ

ที่นำมาเล่านี้มิได้ขอความเห็นใจอะไร เพราะฉันอยู่ได้ในสภาพอย่างนี้เป็นปรกติ อยากให้สะดุดใจว่าในสิ่งที่ฉันเป็นอยู่ก็อย่างนี้แล้ว แต่ทำไมถึงรักงานจิตอาสาและเห็นประโยชน์ทางด้านโหราศาสตร์นัก นั่นเพราะฉันเกิดมาเป็นหลานของพ่อทวดที่ใช้วิชาหมอดูช่วยเหลือคนจวบจนสิ้นอายุขัยของท่าน ๑๑๒ ปี ฉันประจักษ์ว่าวิชาและสิ่งที่พ่อทวดทำช่วยเหลือคนได้จริง จึงมั่นใจยิ่งอย่างบริสุทธิ์ทั้งใจว่าศาสตร์เหล่านี้ "เป็นที่พึ่งพาอาศัยได้" ขอให้รู้จริงและทำจริงเท่านั้น ในโอกาสต่อไปฉันจะนำเอาเรื่องราวคราวหลังต่างๆอันเป็นเกร็ดประวัติชีวิตจริงชนิดที่ตรวจสอบได้ของฉันมาเล่าสู่กันฟังเป็นลำดับไป