8 เมษายน 2558

ตัวอย่างการพยากรณ์ดวงชะตาพื้นฐาน ตอน การอ่านเรือนสัมพันธ์ประสมดาวลอย 5

การอ่านเรือนสัมพันธ์ประสมดาวลอย ๕

          ในบรรดาระบบการพิจารณาดวงชะตาด้วยวิชาโหราศาสตร์ไทย ระบบ “เรือนสัมพันธ์” นับว่าเป็นรูปแบบที่มีเหตุมีผลมากระบบหนึ่ง ด้วยความหมายที่โยงใยสัมพันธ์กันด้วย “ตัวการ” ที่เราเรียกว่า “เจ้าเรือน” ซึ่งก็คือ “ดาว” ในดวงชะตาที่ทำหน้าที่ในลักษณะของความเป็นดาวเอง ทำหน้าที่ในความเป็นเกษตรเจ้าราศี  และมีการพิจารณา “ความเป็นอยู่” ของดาวว่ามีความราบรื่นหรือติดขัดอย่างไรด้วยธาตุดาวธาตุราศีที่ดาวนั้นสัมพันธ์อยู่ด้วยในความเป็นเรือน ซึ่งเป็นที่มาที่ไปเพื่อให้ได้ภาพความหมายออกมามีประเด็นที่เป็นสาระโยงใย ทำให้เห็นขั้นตอนกระบวนวิธีทางโหราศาสตร์ที่สำคัญคือการ “วิเคราะห์” และ “สังเคราะห์” ซึ่งเป็นการใช้กระบวนวิธีทางโหราศาสตร์ในการพิจารณาดวงชะตาแบบแยกแยะแยกส่วนเพื่อให้เห็นภาพความหมายออกมาเป็นส่วนๆ(วิเคราะห์) และการรวบรวมภาพความหมายที่แยกแยะนั้นเป็นคำพยากรณ์ที่มีความหมายสอดคล้องกันตามหลักของเหตุและผล(สังเคราะห์) การใช้ระบบ “เรือนสัมพันธ์” ทำให้เห็นภาพขั้นตอนกระบวนวิธีดังกล่าวนี้ชัดเจน โดยสังเกตพิจารณาได้จากบทความการพิจารณาดวงชะตาในระบบเรือนสัมพันธ์ที่ผ่านมาในตอนก่อนๆ
          ครั้งนี้เราจะว่ากันถึงเรื่องราวของการพิจารณาเรือน “วินาส” อันเป็นเรือนที่ ๑๒ ของดวงชะตานับจากลัคนา เป็นเรือนที่ให้ความหมายได้ทั้งสองนัยคือทั้งดีและร้าย เป็นเรือนที่ต้องนำความหมายไปประกอบสัมพันธ์กับเรือนอื่นให้เกิดความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ตามความหมายของเรือนวินาสที่พอจะหยิบยกมาเป็นสังเขปได้ดังนี้ “ความปิดบัง ความลับ เบื้องหลัง ซ่อนเร้น ความเสียหาย วิกฤต ความล้มเหลว สันโดษ โดดเดี่ยว ลำพัง อ่อนแอ ไกลโพ้น แรงผลักดัน การสิ้นสุด การเสียสละ อุทิศตน อุปัทวะเหตุเภทภัยหรือความเจ็บป่วย เหตุการณ์ไม่คาดคิด การหยุดเพื่อเริ่มต้น/สิ้นสุดสิ่งเก่าเข้าสู่สิ่งใหม่” แต่ตามที่เราจะพิจารณากันในครั้งนี้ขอให้มองเรือนวินาสว่าเป็น “ความยุ่งยากผลักดัน” คือมองความหมายที่เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข อันจะผลักดันให้ชีวิตมีความเคลื่อนไปดีขึ้นหลังจากแก้ไขปัญหานั้นแล้ว ตามความหมายของเรือนที่เป็น “วินาสนะ” นั้นเอง
          บริบทกฎเกณฑ์ที่จะต้องตั้งเป็นตัวตั้งในการพิจารณาไว้อยู่เสมอ ซึ่งในที่นี้เป็นเรื่องของการพิจารณาดาวลอยประสมเรือนสัมพันธ์ หลักเกณฑ์ที่ต้องจดจำ คือ ดาวลอยนั้นเป็นเจ้าเรือนใดในดวงชะตา ดาวนั้นมีมาตรฐานตำแหน่ง(เกษตร ประ อุจ นิจ มหาจักร ราชาโชค) อันเป็นความเข้มแข็งอ่อนแอในการแสดงภาพความหมายอย่างไร จากนั้นพิจารณาความเป็นอยู่ของดาว โดยดูจากความสัมพันธ์ของธาตุดาวลอยกับธาตุราศีที่ตนมาสถิต และความสัมพันธ์ระหว่างดาวลอยกับดาวเกษตรราศีเจ้าเรือน แล้วขยายผลความหมายด้วยการติดตามดูดาวเกษตรเจ้าเรือนที่ดาวลอยมาสถิตว่าไปอยู่ที่ใด นำความหมายเรือนที่ไปอยู่นั้นมาอ่านประกอบเพื่อให้เห็นภาพความหมายชัดเจนมากยิ่งขึ้น
          ตามที่เกริ่นไว้แล้วว่าในที่นี้จะใช้ความหมายเรือนวินาสตามความที่ว่า “ยุ่งยากผลักดัน” ซึ่งจะเป็นไปในด้านดีและร้ายอย่างไรนั้น จะเห็นภาพความหมายเสริมเรื่องตามการพิจารณาอย่างเป็นขั้นตอนไปตามลำดับ ในที่นี้จะเห็นว่าเรือนวินาสมีดาวลอยมาสถิตสองดวงคือดาว ๖ และดาว ๘ ซึ่งเราจะได้พิจารณาบริบทของดาวที่มาสัมพันธ์ในเรือนวินาสนี้ก่อน
          ๑.พิจารณาดาว ๖
          ก.ดาว ๖ เป็นเกษตรสองราศีคือตุลและพฤษภ อันเป็นเรือนพันธุและลาภะของดวงชะตา ความหมายหนึ่งของเรือนพันธุคือเรื่องของเสถียรภาพความมั่นคงในชีวิตของเจ้าชะตา เช่น บ้าน รถ ที่ดิน ทรัพย์สินใหญ่ เป็นต้น และความหมายของลาภะคือเป้าหมายที่ประสงค์จะให้เกิดความสำเร็จประโยชน์ เช่น ทรัพย์สินเงินทอง โชคลาภความสำเร็จ การได้รับผลในสิ่งที่ตั้งใจไว้ เป็นต้น
          ข.ดาว ๖ เป็นดาวธาตุน้ำมาอยู่ในราศีมิถุนธาตุลม ไม่เชิงส่งเสริมหรือหักล้างต่อกัน ธาตุน้ำย่อมได้รับความแกว่งไกวจากธาตุลม ทำให้กระเพื่อมเกิดความไม่คงตัวบ้าง ความแน่นอนทางความหมายของพันธุและลาภะจึงไม่สู้จะมั่นคงนัก และก็ไม่มีความหยุดนิ่งในเรื่องเหล่านี้ (ให้นึกถึงความเป็นระลอกลูกคลื่นของน้ำที่มีความเคลื่อนตัวตลอด)
          ค.ดาว ๖ กับดาว ๔ เกษตรราศีมิถุน มีลักษณะของความส่งเสริมในเชิงเป็นมิตรต่อกัน และเป็นดาวธาตุน้ำเหมือนกัน(คู่ธาตุ) ทำให้ความหมายของดาว ๖ พันธุ,ลาภะ แสดงผลในด้านดีได้บ้างในเรือนวินาสนี้
          ภาพความหมายที่เราจะเห็นในชั้นนี้ก่อนคือ “ความยุ่งยากผลักดัน” ที่มาจากการต้องการความมั่นคงในสถานะชีวิตของเจ้าชะตา(พันธุ) เพื่อให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ต้องใจไว้(ลาภะ) ในเรื่องของทรัพย์สินเงินทอง บ้านช่องที่ดิน ฐานะความเป็นอยู่(ตามความหมายของดาว ๖) ซึ่งจะต้องมีการกระทำอยู่เรื่อยๆในช่วงชีวิตมีความหนักเบาในเรื่องนี้อยู่เป็นระยะ
          ๒.พิจารณาดาว ๘
          ก.ดาว ๘ เป็นเกษตรราศีกุมภ์ อันเป็นเรือนมรณะของดวงชะตา เรือนมรณะจะให้ความหมายเกี่ยวกับความเสื่อมสิ้นไป เสียหาย สิ้นเปลือง เปลี่ยนแปลงสภาพ ในที่นี้เราจะเห็นความหมาย มรณะ-วินาส คือความเสียหายจะก่อให้เกิดความเดือดร้อน
          ข.ดาว ๘ เป็นดาวธาตุลม สถิตในราศีธาตุลม มีลักษณะของความคล่องตัวในการแสดงภาพความหมายที่ตนนำมา เพราะธาตุดาวเป็นธาตุเดียวกับธาตุราศี ความเสียหายอันเป็นผลมาจากมรณะจึงสามารถส่งผลได้เร็ว ส่วนความรุนแรงนั้นจะต้องพิจารณาในข้อต่อไป
          ค.ดาว ๘ กับดาว ๔ เกษตรราศีมิถุน เป็นดาวคู่ศัตรูต่อกัน จึงให้ภาพความหมายในทางไม่ราบรื่น เป็นอุปสรรคปัญหาที่ต้องเผชิญแก้ไขจากเรื่องราวที่มากระทบอยู่ตลอดเวลา
          ภาพความหมายที่เราเห็นตรงนี้คือความเสียหายในลักษณะความหมายของมรณะ มาก่อความ “ยุ่งยากผลักดัน” ให้กับเจ้าชะตา ซึ่งปัญหาของมรณะนั้นเราต้องมองว่าเป็นทั้งปัญหาที่มีทางแก้ไขและปัญหาที่ไม่อาจจะแก้ไขได้(ตาย พลัดพราก) ซึ่งดาว ๘ นำเอาปัญหาตรงนี้มาก่อเป็นอุปสรรคในเรือนวินาสได้อย่างคล่องตัว(๘ ธาตุลม ในราศีมิถุนธาตุลมเหมือนกัน)
          ๓.ขยายผลความหมาย
          ติดตามดาว ๔ เกษตรราศีมิถุน อันเป็นเจ้าเรือนวินาส ไปสถิตยังเรือนกดุมภะซึ่งเกี่ยวข้องกับสถานะการเงินการทองของเจ้าชะตา เป็นภาพความหมายว่า วินาส-กดุมภะ คือ ความยุ่งยากผลักดันที่นำไปสู่เรื่องของสถานะทางการเงิน ดาว ๔ ในราศีสิงห์นี้มีมาตรฐานตำแหน่งเป็นมหาจักรและราชาโชค จึงแสดงผลความหมายที่ผาดแผลงมีความขึ้นๆลงๆ(มหาจักร) และความราบรื่นตามเป้าประสงค์ที่ต้องการ(ราชาโชค)
          เมื่อได้ทำการ “วิเคราะห์” แยกแยะสาระของเรือนวินาสที่จะส่งผลต่อดวงชะตา จากนี้เราจึงต้อง “สังเคราะห์” สรุปเป็นภาพความหมายรวมความออกมาเป็นคำพยากรณ์จากหลักการเหตุผลที่เราแสดงตามขั้นตอนมาแล้ว สรุปได้ดังนี้
          เจ้าชะตามีความยุ่งยากจากเรื่องความมั่นคงในฐานะความเป็นอยู่ของชีวิต(๖ พันธุ) จึงปรารถนาที่จะสร้างความมั่นคงนั้นให้เกิดขึ้น(๖ ลาภะ) ซึ่งความหมายของความมั่นคงนั้นอาจเป็นในเรื่องของการเงินการทอง ทรัพย์สินที่ดินบ้านช่อง ยานพาหนะ สถานภาพฐานะทางสังคม แต่เจ้าชะตามักต้องเผชิญปัญหาอันเป็นอุปสรรคหนักเบาอยู่เป็นระยะ(๘ มรณะ) ซึ่งเจ้าชะตาเองจะเป็นผู้แก้ไขฝ่าฟันอุปสรรคนั้นไปได้ด้วยตนเอง(มรณะ-วินาส) ซึ่งความหมายเหล่านี้เป็นเรื่องของความ “ยุ่งยาก” ที่จะเป็น “แรงผลักดัน” ให้เจ้าชะตาเผชิญหน้าไปเพื่อประโยชน์สำเร็จทางด้านสถานะการเงิน โดยเป็นไปในลักษณะของการแก้ไขปัญหาเพื่อความพัฒนา คือถ้าผ่านพ้นไปได้แล้วจะทำให้สถานภาพของเจ้าชะตาดีขึ้น(๔ มหาจักร) และความอุปถัมภ์ช่วยเหลือที่จะทำให้เกิดความราบรื่นคล่องตัว(๔ ราชาโชค) ต่อการแสวงหาเพื่อสร้างความมั่นคงทางสถานะการเงินนั้นได้อย่างสำเร็จ(๔ กดุมภะ)
          ข้อเท็จจริงของดวงชะตานี้ เจ้าชะตาเป็นชาย ฐานะความเป็นอยู่ทางครอบครัวแต่เดิมมาไม่ดีนัก(๖ พันธุ,ลาภะ-วินาส) แต่มีโอกาสจับพลัดจับผลูได้ไปทำงานต่างประเทศถึงสองครั้ง(๘ มรณะ-วินาส) ซึ่งงานที่ไปทำนั้นก็มีความขึ้นๆลงๆ(๔ มหาจักร) บางช่วงก็มีงานทำได้รับค่าตอบแทนเต็มอัตราหรือมากกว่า แต่บางช่วงก็ไม่ได้ทำต้องอาศัยทำงานอื่นเสริมที่มีผู้อุปการคุณให้(๔ ราชาโชค และเจ้าเรือนสหัสชะด้วยส่วนหนึ่ง) ทำให้เจ้าชะตาสั่งสมจากการแสวงหา(๔ กดุมภะ) เมื่อกลับมาจึงสามารถปลดหนี้ครอบครัว และสร้างฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ เป็นภาพความหมายที่มองได้อย่างสมส่วนเข้ามาจากเรือนวินาสในเรื่องของ “ความยุ่งยากเป็นแรงผลักดัน” ได้อย่างดี

ธีรพร  เพชรกำแพง
9 เมษายน 2558