ตัวอย่างการพยากรณ์ดวงชะตาพื้นฐาน ตอน การอ่านดาวลอยในเรือนชะตา 1

การอ่านดาวลอยในเรือนชะตา

          การอ่านดาวลอยในเรือนชะตา หมายถึงการอ่านความหมายดาวที่มาสถิตในเรือนนั้นอันไม่ใช่เรือนของตน จะต้องพิจารณาถึงที่มาของดาวนั้นว่ามาจากที่ใดเรือนใดของดวงชะตา เพื่อให้รู้ว่าดาวนั้นมีบทบาทหน้าที่อย่างไร โดยพิจารณาจากความเป็น “เจ้าเรือน” แห่งดวงชะตาเป็นความหมายหลัก จากนั้นจึงมองต่อว่าดาวนั้นมาสถิตในเรือนใด และจะมาแสดงผลบุญคุณโทษดีร้ายอย่างไรต่อดวงชะตา การอ่านดาวลอยเพียงจุดเดียวที่สถิตราศีหรือเรือนให้เป็นความหมายทางการพยากรณ์ นับเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเพราะถือว่าเป็นความฉาบฉวยมักง่ายขาดความรอบคอบ อันจะเป็นผลให้เกิดความผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากหลักเกณฑ์ได้ง่าย

          ในครั้งนี้จะแสดงตัวอย่างการอ่านดาวลอยสัมพันธ์เรือนชะตา โดยตามรูปดวงที่ยกมาเป็นตัวอย่างนั้น เพื่อความชัดเจนเป็นขั้นตอนจึงขอเลือกอธิบายเฉพาะประเด็น คือ การพิจารณาดาว ๓ อันเป็นดาวลอยมาสถิตอยู่ในเรือนศุภะ ตามขั้นตอนดังจะยกมาแสดงดังนี้

          ก. ๓ เป็นเกษตรแห่งราศีเมษ เป็นเจ้าเรือนพันธุ ความหมายของเรือนพันธุ คือ ญาติพี่น้อง เผ่าพงศ์วงศ์ตระกูล ครอบครัว อสังหาริมทรัพย์ ความมั่นคงเป็นปึกแผ่น และ ๓ ยังเป็นเกษตรแห่งราศีพิจิก เป็นเจ้าเรือนลาภะ ความหมายของเรือนลาภะ คือ ความสำเร็จ สิ่งที่มุ่งหวัง การแสวงหา การได้รับ และ ๓ มาสถิตอยู่ในเรือนศุภะ ความหมายคือ ครรลองของชีวิต ความราบรื่น ความช่วยเหลือส่งเสริม ความหมายในเบื้องแรกนี้จึงได้ว่า “ญาติพี่น้อง วงศืตระกูล ครอบครัว ให้ความสนับสนุนช่วยเหลือความเป็นอยู่ในครรลองชีวิตของเจ้าชะตาให้ได้รับความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งเป็นเป้าหมาย”

          ข. ลำดับต่อไปคือตามดูดาวเจ้าเรือนที่ ๓ มาสถิตอยู่ คือดาว ๔ อันเป็นเจ้าเรือนศุภะ สถินในราศีมิถุนมีมาตรฐานเป็นเกษตรในเรือนอริ ความหมายของเรือนอริ คือ ขัดข้อง ยุ่งยาก เดือดร้อน ไม่เป็นปกติสุข ซึ่งความหมายนี้จะประกอบกับความหมายที่อ่านได้ในเบื้องแรก(ข้อ ก.) คือ พันธุ=ลาภะ=ศุภะ=อริ ในที่นี้จะได้ภาพความหมายว่า “ญาติพี่น้อง(พันธุ) ให้ความช่วยเหลือส่งเสริม(ศุภะ) ได้รับความสำเร็จ(ลาภะ) รอดพ้นจากอุปสรรค(อริ) อันเป็นความเดือดร้อนยุ่งยากในชีวิต”

          ค. ๓ ในราศีกันย์มีมาตรฐานเป็นมหาจักร แสดงถึงความโลดโผน ไม่ราบเรียบหรือเรียบง่าย มีในเรื่องของความต่อสู่พลิกแพลง ขึ้นๆลงๆ บ่งถึงความไม่น่าจะเป็นไปได้ ทำให้ได้ความหมายเพิ่มเติมในที่นี้คือ ญาติพี่น้อง(พันธุ) ได้ช่วย(ศุภะ) ให้เกิดความสำเร็จ(ลาภะ) รอดพ้นจากวิกฤต(อริ) อย่างไม่น่าเป็นไปได้(มหาจักร)

          ง. พิจารณาธาตุของดาว ๓ คือ ธาตุลม มาสถิตในราศีกันย์ธาติดินปลาย ความหมายของดาว ๓ ไม่ถูกขัดแย้งและไม่ได้รับการส่งเสริมจากธาตุราศี จึงไม่ส่งผลดีร้ายให้ดาว ๓ ต้องเด่นขึ้นหรือด้อยลงไป ดาว ๓ ในราศีกันย์นี้ให้ภาพความหมายว่า “การสร้างความชำนาญ,คล่องตัวในการกระทำกิจ(๓ ลม) มีความอดทนในการปฏิบัติให้ประสบความสำเร็จอย่างเป็นลำดับ(กันย์ ธาติดินปลาย)

          จ. ดาว ๓ กับเกษตรเจ้าเรือนราศีกันย์คือดาว ๔ มีความสัมพันธ์กันในลักษณะของความเป็น “ศัตรู” จึงถือว่า ๓ สถิตในเรือนศัตรู ซึ่งจะทกให้เกิดความหมายในเชิงหักล้าง ขัดขวาง และ ๔ เองเป็นเกษตรหนักแน่นมั่นคงมีสถานะหนักแน่นกว่าด้วย จึงได้ความหมายในเชิงที่ว่า ญาติพี่น้อง(พันธุ) ที่ให้ความช่วยเหลือ(ศุภะ) ทำให้ความขัดแย้ง อุปสรรค ความขัดขวาง(๓ ๔) นั้นสิ้นไป(ลาภะ อริ) คือ ญาติเข้ามาช่วยในยามที่ตนเดือดร้อน ไม่เหมือนกับกรณีที่ญาติมาช่วยส่งเสริมในขณะที่เจ้าชะตาสมบูรณ์พร้อม ที่จะได้รับผลประโยชน์เต็มที่มากกว่าช่วงที่ตนเดือดร้อนนั้น

          ที่ได้กล่าวสรรบรรยายมามากพอสมควรนี้ เพื่อที่จะแสดงให้ท่านผู้ศึกษาเห็นขั้นตอนการอ่านดาวลอยที่มาสถิตในเรือนชะตา โดยเน้นย้ำว่าไม่อาจมองดาวลอยเป็นการพยากรณ์ที่โดดเดี่ยวได้ แต่จำเป็นจะต้องหาที่มาที่ไปความสัมพันธ์ในดวงชะตา ว่ามีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอย่างไร ดาวจะแสดงผลความหมายโดยลำพังก็หาไม่ แต่มีความโยงใยกันทั้งหมดในดวงชะตา ที่เราเรียกว่าการ “ดูดวงทั้งกระดาน” นั้นเอง

ธีรพร  เพชรกำแพง

11 มีนาคม 2558