การอ่านเรือนสัมพันธ์ประสมดาวลอย
๒
การศึกษาเรียนรู้ทางโหราศาสตร์ย่อมทำให้เราได้เรียนรู้ความเป็นไปของชีวิต
ซึ่งส่วนหนึ่งก็คือการศึกษาเรื่อง “กรรม” ตามแบบพระพุทธศาสนา
การพิจารณากรรมทางโหราศาสตร์ในส่วนที่กำกับการกระทำได้ จะต้องเห็นว่ากรรมคือการกระทำที่ตนเองรับผิดชอบได้
หากไม่สามารถจะรับผิดชอบกรรมนั้นได้ก็จงอย่ากระทำเสีย แต่คนเราต่างความคิดจิตใจ
โดยเฉพาะเรื่องการตัดสินใจเลือกแนวโน้มความเป็นไปของชีวิต
แม้จะรู้ผลด้านลบที่จะพึงเกิดมีเมื่อเลือกทางเดินนั้น
แต่บางคนหรือหลายคนก็เลือกที่จะกระทำกรรมที่ตนเองรับผิดชอบไม่ได้เสมอ
เป็นเรื่องของ “ดวงชะตา” ตามความหมายของกรรมคือการกระทำ
เรื่องราวที่จะนำเสนอเป็นการพิจารณาดวงแบบเรือนสัมพันธ์ในครั้งนี้
เป็นเรื่องราวของ “กดุมภะ” ซึ่งเป็นเรือนที่ ๒ หากนับจากลัคนาไปจะอยู่หน้าลัคนา ๑
ราศี ความหมายในดวงชะตาเกี่ยวกับการเงิน ทรัพย์สิน สมบัติ รายได้(รายรับรายจ่าย)
ตามรูปแบบการพิจารณาดวงชะตาอย่างเป็นขั้นตอนนั้น
เราจะจับดูดาวเกษตรเจ้าเรือนกดุมภะนั้นไปสถิตแห่งหนราศีใด
มีตำแหน่งมาตรฐานดีหรือเสื่อมอย่างไร เกษตรเรือนที่ตนอาศัยนั้นเป็นมิตรหรือศัตรู
ธาตุราศีที่ตนสถิตให้ผลส่งเสริมหรือขัดแย้งกับธาตุดาวกดุมภะแห่งตน
การพิจารณาอย่างนี้เพื่อตรวจดูสถานะของดาวเจ้าเรือนกดุมภะว่ามีความเป็นอยู่ที่จะให้ผลความหมายในเบื้องแรกอย่างไร
ขั้นต่อไปเพื่อเป็นการขยายผลภาพความหมายที่ได้นี้
จะต้องตามดูเจ้าเรือนที่ดาวกดุมภะไปอาศัยว่าไปสถิตยังเรือนใด
ให้เอาความหมายของเรือนนั้นมาสอบประกอบเข้ากับเรื่องราวที่เราได้อ่านไว้แล้วเป็นลำดับขั้นตอนมา
เพื่อให้เรื่องมีความกระจ่างชัดขึ้น
จากนั้นพิจารณาถึงความสัมพันธ์ในเรือนกดุมภะว่ามีความสัมพันธ์ในลักษณะ
“ดาวลอย” มาสถิตอยู่หรือไม่
หากมีจะต้องพิจารณาภาพความหมายที่ดาวลอยนั้นนำมาประสมกับความหมายที่ได้จากการอ่านในชั้นแรก
เป็นการพิจารณาดวงชะตาจากดาวที่มีความเป็น “ดาว” คือเกษตรราศี และความเป็น “เจ้าเรือน”
อันเป็นเกษตรแห่งเรือน มาสำทับความหมายให้มีความชัดเจนหนักแน่นขึ้น
จากรูปดวงชะตานี้เราจะเห็นว่าลัคนาสถิตราศีสิงห์
ราศีกันย์จึงเป็นเรือนกดุมภะ ให้ภาพความหมายราศีในเรือนว่า “การรู้จักรอบคอบ
รัดกุม แยกแยะ วิเคราะห์ ก่อนการใช้จ่ายและหาเพิ่มเสริมประสงค์ป้องกันสภาพพร่อง”
แสดงถึงเจ้าชะตามีความเข้าใจในการหาทรัพย์และนำทรัพย์นั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์ให้ชีวิตมีความคล่องตัว
ก.ดาว ๔
คือเจ้าเรือนกดุมภะ ไปสถิตยังราศีกุมภ์อันเป็นเรือนปัตนิ หมายถึงการเงินของเจ้าชะตาจะมีในลักษณะของ
“ผู้ร่วม” เข้ามาเกี่ยวข้อง และบุคคลที่จะมาร่วมในเรื่องการเงินของเจ้าชะตานั้นคือบุคคลตามความหมายของเรือนปัตนิ
คือ ครอบครัว สามีภรรยา คนรัก คู่ครอง ผู้ที่เกี่ยวข้องผูกพัน หุ้นส่วน
และเมื่อดาว ๔ ไปอยู่เรือนปัตนิ ให้ภาพความหมายดาวสถิตเรือนว่า “การใช้มิติแห่งการสื่อสาร
เจรจาพูดคุย แสดงออก ปรับประยุกต์ในการมีส่วนร่วม/คบหา”แสดงถึงว่าเจ้าชะตาจะต้องกระทำการมีส่วนร่วมกับบุคคลที่คบหา
เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินการเงิน
ข.ดาว ๔
เจ้าเรือนกดุมภะสถิตราศีกุมภ์ ไม่มีมาตรฐานตำแหน่งใดให้พิจารณา
จึงมองต่อไปที่ราศีกุมภ์นั้นมีเกษตรเจ้าราศีคือดาว ๘ ความสัมพันธ์ของดาว ๔ และ ๘
ถือว่าเป็นคู่ศัตรูกันโดยตรง จึงให้ผลขัดแย้งรุนแรง เสียหาย ผิดพลาด
อันเป็นเหตุร้ายแก่เรื่องการเงินของเจ้าชะตา ถือว่าเป็นผลทางลบมากกว่าผลทางบวก
ความเป็นคู่ศัตรูระหว่างดาว ๔ ๘ ท่านระบุไว้ว่า “เป็นสภาวะที่ถูกล่าวร้าย ใส่ความ
ถูกยุยง กลโกง ลับลวงพราง ไม่สุจริต”
ค.ดาว ๔
เป็นดาวธาตุน้ำ ไปสถิตราศีกุมภ์ธาตุลม
ธาตุราศีกับธาตุดาวมิได้ถือว่าส่งเสริมหรือขัดแย้งกันโดยตรง ดาว ๔
มาสถิตราศีกุมภ์ย่อมได้รับอิทธิพลราศีกล่อมเกลาดาว ๔ ให้มีความหมายในลักษณะของการมีความถนัดชำนาญในการปรับประยุกต์สื่อสารเรื่องยากๆให้เป็นเรื่องง่าย
มีความรู้ในการเปลี่ยนแปลงการแสดงออกให้เข้ากับกลุ่มหมู่พวกได้เป็นอย่างดี
พร้อมที่จะเรียนและรับรู้สิ่งใหม่ๆ
ซึ่งแสดงว่าเจ้าชะตาย่อมมีทักษะในการแก้ปัญหาที่จะพึงมีเกิดขึ้นจากตัวบุคคลหรือเรื่องต่างๆที่มากระทบได้
ง.เมื่อรู้ที่มาที่ไปพอจับเป็นภาพความหมายพยากรณ์ได้เค้าโครงแล้ว
ต่อไปเพื่อเป็นการขยายผลความหมายให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้นเราจะติดตามดาว ๘
เจ้าเรือนราศีกุมภ์ที่ดาว ๔ ไปสถิต ว่าจะชี้ผลความหมายอยู่ในเรือนใด
แล้วหยิบยกเอาความหมายนั้นมาประกอบเสริมเพิ่มเติมกับความหมายที่อ่านมาตั้งแต่ต้น
ดังนี้
ดาว ๘
นั้นไปสถิตเรือนลาภะ ราศีมิถุน เป็นเกษตรแลกเรือนกับดาว ๔
ความเป็นเกษตรแลกเรือนนี้ให้ผลความหมายทางด้านความกลับไปกลับมา
ถ่ายโอนเปลี่ยนแปลงในลักษณะแลกเปลี่ยนกัน
เป็นความหมายทางการเงินของเจ้าชะตาว่าจะต้องมีความหมุนเวียนเปลี่ยนผ่าน
แล้วจึงทำให้ชีวิตการเงินของเจ้าชะตาประสบความสำเร็จขึ้นมาได้จากความเปลี่ยนกลับไปกลับมานั้น
จ.ต่อไปพิจารณาดาวที่มีความสัมพันธ์กับเรือนกดุมภะในลักษณะ
“ดาวลอย” ในที่นี้คือดาว ๓ ๗ ที่จะนำเอาภาพความหมายของความเป็นดาวและเจ้าเรือนมายังเรือนกดุมภะที่เราพิจารณาอยู่นี้
ดาว ๓
เป็นเจ้าเรือนพันธุและศุภะ มาสถิตราศีกันย์มีมาตรฐานเป็นมหาจักร มาสถิตเรือนกดุมภะ
ความเป็นมหาจักรของดาว ๓ นี้แสดงถึงความผันผวนโลดโผนทำให้ต้องพลิกแพลงปรับประยุกต์เอาตามสถานการณ์
โดยเรื่องการเงินของเจ้าชะตานี้มักมีความผันผวนต่อความมั่นคง(พันธุ-มหาจักร)
อันเนื่องมาจากการที่ต้องพลิกแพลงแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย(ศุภะ-มหาจักร)
ดาว ๗
เป็นเจ้าเรือนอริ มาสถิตราศีกันย์เรือนกดุมภะ มีความหมายว่า เกิดความยุ่งยากทางการเงินแก่เจ้าชะตา
อันเนื่องมาจากบุคคลที่เป็นผู้มีส่วนร่วม(กดุมภะไปตกปัตนิ)
สรุปความหมายจากปัจจัยที่พิจารณามาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนได้ว่า
ภาวะการเงินของเจ้าชะตามักประสบปัญหา แต่ก็สามารถทำมาหาได้ด้วยความสามารถของตนเอง
โดยการพลิกแพลงปรับประยุกต์วิธีในการหาเงิน หรือมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบทางการหาเงิน
การเงินในลักษณะหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านของการมีส่วนร่วมทางการเงินกับบุคคลอื่นทำให้เจ้าชะตาประสบความสำเร็จทางด้านการเงินและความมั่นคงขึ้นมาได้
ข้อเท็จจริงของดวงชะตานี้คือ
เจ้าชะตาเพศชายเคยไปทำงานต่างประเทศ ได้เงินก้อนมาลงทุนทำสวนผลไม้เพื่อหวังผลระยะยาว
ร่วมลงทุนกับญาติ แต่ก็ปรากฏว่าเกิดความเสียหายคล้ายการโกงขึ้นจากการดูแลไม่ทั่วถึงของตน
ญาติจึงได้ผลประโยชน์มากกว่า จึงทำให้สวนผลไม้และเงินที่ลงทุนนั้นเป็นอันล่มไป จากนั้นจึงหันมาลงทุนทำในสิ่งที่ให้ผลระยะสั้นในด้านการค้าขาย
โดยเป็นการค้าขายที่เปลี่ยนแปลงพลิกผันไปเรื่อยตามดวงชะตาที่พิจารณามาข้างต้น กระทำร่วมกับภรรยาคู่ชีวิต
คือฤดูใดมีผักผลไม้ก็จะนำเข้าไปขายที่ตลาดในเมืองแบบขายส่ง
พอหมดฤดูผักผลไม้ก็ไปเช่าแผงขายอาหารตามสั่งตามแหล่งท่องเที่ยว
พอหมดจากการขายอาหารตามสั่งก็ไปขายเสื้อผ้า หมุนเวียนกันอยู่อย่างนี้
โดยจะไม่ลงทุนอะไรในลักษณะที่หวังผลระยะยาว เพราะได้สังเกตวาสนาชะตาตนมาอย่างนั้น
จึงกระทำตนให้สอดคล้องกับดวงชะตาดังกล่าว
เมื่อพิจารณาติดตามอ่านผลลงไปตามเรือนตามดาวเรื่อยๆแล้ว
ท่านจะเห็นว่าภาพความหมายนั้นปรากฏชัดเจนขึ้นทุกขณะที่อ่านสืบสาวตามเรื่องราวอิงดาวอิงเรือนนั้นไป
และให้ภาพความหมายละเอียดหนักแน่น ไม่ฉาบฉวยแค่การสังเกตเพียงผิวเผิน
การพิจารณาดวงอย่างนี้จะทำให้เราได้ภาพความหมายอย่างรู้ที่มาที่ไปและมีความเป็นเหตุเป็นผลตรงตามลีลาชีวิตของเจ้าชะตา
จึงขอให้ท่านผู้ศึกษาสนใจและตระหนักถึงความสำคัญของการพิจารณาดวงชะตาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนนี้ไว้ให้มาก
เพื่อประโยชน์แก่ตัวท่านเองในวันข้างหน้า
ธีรพร เพชรกำแพง
22
มีนาคม 2558