บุราณท่านตรวจลักขณาว่าผิดฤๅถูก ตามเหตุผลความเป็นอยู่ของเจ้าชะตา
(การสอบลัคนาอย่างโบราณ)
ลักขณาอยู่เมษ ว่าลักขณาพระเตมีย์ ทายตามที่ปัทธิยาย
เมื่อน้อยว่าเลี้ยงยาก ได้ลำบากยากปางตาย สบทุกข์เป็นมากมาย ลำบากกายแต่น้อยมา เมื่อถึงกลางอายุ จึงได้ลุดังปรารถนา ทำกินยังชั่วรา ญาติกาก็ปราณี พ่อแม่ของผู้นั้น เผ่าพงศ์พันธุ์ขั้นผู้ดี ที่เกิดสำคัญมี หนบุรพ์มีต้นโพธิ์ไทร หนทิศประจิมา มีพฤกษาต้นไม้ใหญ่ สำนักที่อาศัย มีทั้งน้ำและห้วยคลอง อายุสามสิบทัศ เกิดวิบัติเสียเงินทอง สี่สิบห้าจักหม่นหมอง จากพี่น้องพลัดพรากไกล อายุห้าสิบหก ทุกข์เต็มอกเกิดความใหญ่ ลูกเมียและข้าไท ย่อมจรจากพรากถิ่นฐาน พักแต่นั้นได้ความสุข พ้นจากทุกข์หายรำคาญ ทำกินค่อยสำราญ จนตราบเท่าอายุชนม์
ลักขณาอยู่พฤษภ ว่าลักขณาสิทธาตุราชกุมาร ทายตามที่ปัทธิยาย
ว่าลักขณาสิทธาตุราชกุมาร เมื่อน้อยมีความสุข เมื่อกลางอายุกาล จากถิ่นฐานภายแก่ดี ที่เกิดข้างอุดร มีสาครสระคงคา ในทิศบุรพา มีท่าน้ำแลบัวเพรง อายุสามสิบหก ทุกข์เต็มอกเพราะตัวเอง สามสิบแปดนั้นจงเร่ง เกรงจะเกิดภัยอันตราย อายุเมื่อสี่สิบ มักรีบทุกข์บ่มิวาย อายุจะเบียนกาย ให้ลำบากเพียงถึงกาล พ้นแต่นั้นพลันความสุข พ้นจากทุกข์หายรำคาญ เป็นสุขอยู่สำราญ ตราบเท่าถึงอายุชนม์
ลักขณาอยู่มิถุน ว่าลักขณาพระวิธูร ทายตามที่ปัทธิยาย
ลักขณาอยู่มิถุน จิตปองบุญตามเล่ห์กล ลักขณาเจ้าจุมพล พระวิธูรผู้โฉมฉาย ผู้นั้นมีมารยาท อันฉลาดซึ่งอภิปราย ท่านท้าวผู้ฤๅสาย มัทรราชให้รางวัล ตระกูลพ่อย่อมสูงศักดิ์ อีกทุนทรัพย์มากครามครัน ที่เกิดอุดรนั้น มีท่าน้ำและกอไผ่ อาคเนย์และบูรพา มีต้นหว้าและโพธิ์ไทร ทักษิณมีไม้ใหญ่ ประจิมไซร้มีบัวเพรง ขุนนางย่อมชอบใจ คนทั้งหลายย่อมกลัวเกรง มีทุกข์ภัยให้ตนเอง เมื่ออายุยี่สิบสามปี ครั้นถึงสี่สิบทัศ เกิดวิบัติมายายี ครั้นถึงสี่สิบสาม ห้าสิบหก เจ็ดสิบหกปี ความร้ายมีที่มุ่งมา
ลักขณาอยู่กรกฎ ว่าลักขณาพระเจ้ามิลินท ทายตามที่ปัทธิยาย
ลักขณาอยู่กรกฎ โดยกำหนดท่านกล่าวมา ลักขณะพระราชา พระยามิลินทแคล้วทุกข์ รูปทรงนั้นสูงศักดิ์ เมื่อน้อยมักมีสุข รูปนั้นดังปั้นปลุก เนื้อดำแดงงามโสภา ผมเผ้าเจ้างามนัก พ่อแม่รักเป็นหนักหนา คอสูงรีมีพงศา ที่เกิดหนาว่าสำคัญ ทักษิณมีห้วยหนอง ทั้งสระคลองคงคาคั่น ข้างทิศหรดีนั้น มีสวนหมากและพร้าวตาล ประจิมมีโพธิ์ไทร อิสานไซร้มีสถาน อยู่อุดรแต่โบราณ หนทางตรอกซอกชาลา ต้องพลัดพรากจากญาติ เมื่ออายุมาตรครบชันษา ยีสิบสามยี่สิบเก้า รวดรวบเร้าถึงกันมา ควรประหยัดอย่าอุเบกขา จึงจะพ้นซึ่งทุกข์ใหญ่
ลักขณาอยู่สิงห์ ว่าลักขณาพระเวสสันดร ทายตามที่ปัทธิยาย
ลักขณาอยู่สิงห์ กล่าวตามจริงอย่าสงสัย ลักษณาเจ้าจอมไกร คือพระเจ้าเวสสันดร บ้านที่ออกมีไม้ใหญ่ มีป่าไร่อันบวร ประจิมมีสาคร ข้างอุดรมีหนทาง แต่ว่าใคร่จรจาก ด้วยฝูงญาติกาปาง บิดามักคิดร้าง ห่างมารดาเป็นนิรันดร์ ผู้นั้นได้สมบัติ อีกทุนทรัพย์มากอนันต์ ท่านมักบูชากัน ให้รางวัลได้ง่ายดาย อายุยี่สิบสามและสามสิบ ให้เกรงรีบอันตราย สี่สิบทัศนั้นเล่าไซร้ หกสิบใกล้มรณากาล
ลักขณาอยู่กันย์ ว่าลักขณาพระภูริฑัตกุมาร ทายตามที่ปัทธิยาย
ลักขณาอยู่กันย์ ว่าผู้นั้นงามบวร ลักษณาพระภูธร ภูริฑัตกุมาร ผู้นั้นเมื่อแต่น้อย ท่านคอยเลี้ยงเป็นลูกหลาน ที่เกิดมีสถาน และวัดวาข้างประจิม หนบูรพ์มีต้นไม้ ทั้งนาไร่และบางบึง ความนั้นจะมาถึง เมื่ออายุสามสิบหก ครั้นถึงเจ็ดสิบห้า ทุกข์เท่าฟ้ามาทับอก เสียสินน้ำตาตก เพราะพระกาฬมาสู่หา
ลักขณาอยู่ตุล ว่าลักขณาพระเจ้าวิสัขนู ทายตามที่ปัทธิยาย
ลักขณาอยู่ตุล ใคร่จักปูนพระราชา วิสัชนูผู้โสภา เนื้อดำแดงงามมีศรี ที่เกิดมีสำคัญ หนบูรพ์นั้นมีพงพี ไม้ใหญ่ก็ย่อมมี อีกหมากพร้าวและล้าวตาล ฝ่ายข้างทิศพายัพ มีหนทางและสถาน อายุสิบหกกาล ได้ประมาณซึ่งนานมา ยี่สิบเจ็ดยี่สิบเก้า ความเร่าร้อนเป็นหนักหนา เจ็ดสิบสีจะมรณา อายุสิ้นชีพชนมาน
ลักขณาอยู่พิจิก ว่าลักขณาพระโคธกุมาร ทายตามที่ปัทธิยาย
ลักขณาอยู่พิจิกราศี ทายตามคำที่อาจารย์ ลักษณาโคธกุมาร ใครจะปานปัญญามี ถ้อยคำก็อ่อนหวาน รู้ทุกประการช่างพาที ใจบุญมักภักดี แก่พ่อแม่และพฤฒา แต่ว่ามากศัตรู มิตรมวลหมู่ริษยา มีสวนอยู่ต่อออกมา มีไม่ใหญ่อยู่อุตตราถ้าเป็นหญิงมักกามา อัคคีมักจักไหม้ตน อายุสามสิบทัศ เกิดอุบัติความร้อนรน สี่สิบสองครั้งหนึ่งจน –จวบจวบความไข้มาบีทา ว่าแรกเมื่อน้อยนัก มักจากที่เป็นหนักหนา มักได้ทรัพย์แต่นั้นมา จากผู้เลี้ยงเป็นมงคล อายุสี่สิบสาม โรคติดตามมาถึงตน โศกเศร้ามาร้อนรน ความไข้นั้นดันเข้ามา อายุหกสิบสาม โรคติดตามเป็นหนักหนา พระกาฬจักตามหา พาเอาไปให้สิ้นชนม์
ลักขณาอยู่ธนู ว่าลักขณาพระมโหสถ ทายตามที่ปัทธิยาย
ลักขณาอยู่ธนู ครูกล่าวมาเป็นยุบล ว่าลักษณาเจ้าจุมพล พระมโหสถฤทธิไกร รูปทรงงามสะคราญ ช่างอ่อนหวานอัชฌาสัย ชอบเนื้อและพึงใจ แก่บุรุษและสตรี อาคเนย์และอุดร มีสาครป่าพงพี อารามนั้นย่อมมี ทั้งต้นโพธิ์ไทรและไร่นา อิสานมีสวนหมาก ตาลมะพร้าวมากหนักหนา หนบูรพ์มีสถาน ทั้งต้นไม้สำคัญตรา อายุสามสิบแปด จะผิดแผกกันแลนา ต้องราชทัณฑ์มา สี่สิบเจ็ดจะร้อนใจ หากว่ามิฉะนั้น ท่านว่าต้องถ้อยความใหญ่ ครั้นพ้นแต่นั้นไป ย่อมจักคลายหายอาวรณ์
ลักขณาอยู่มกร ว่าลักขณาพระชนกกุมาร ทายตามที่ปัทธิยาย
ลักขณาใดอยู่มกร พระภูธรชนกกุมาร รูปทรงขาวสูงสะ เมื่อน้อยปะความรำคาญ เร่งจากที่ถิ่นฐาน ส่วนที่เกิดมิได้อยู่ หนบูรพ์และอาคเนย์ มีป่าใหญ่เป็นสมภู อุดรนั้นมีอยู่ ทั้งบ่อน้ำและสระเพรง ศัตรูใช่อื่นไกล คือเผ่าพันธุ์พวกตนเอง มาเบียนกันบ่มิเกรง ให้พลัดพรากจากที่ไป เมื่อถึงกลางอายุ คิดใดลุได้ดังใจ สามสิบเอ็ดสี่สิบหก ทุกข์เต็มอกร้อนดั่งไฟ
ลักขณาอยู่กุมภ์ ว่าลักขณาโปริสาท ทายตามที่ปัทธิยาย
ลักขณาอยู่กุมภ์ราศี ทายตามมีคำครูบา โปริสารทโสภา มีวัจนโวหาร เนื้อดำงามพรรณสี เมื่อน้อยเบ่งสูงศรี เมื่อใหญ่ถอยฤทธี โคจรลี้จึงเป็นผล ที่เกิดของตนแล ฝ่ายพ่อแม่ก็ชอบกล หนบูรพ์ประจิมชล มีห้วยหนองเป็นสำคัญ ที่เกิดมิได้อยู่ มีหมู่นาเป็นกระชั้น ภายหลังสมบูรณ์ครัน พรรคพวกนั้นมาหาสู่ ครั้นถึงเมื่อภายแก่ แผ่กุศลตามค้ำชู ยี่สิบเจ็ดสี่สิบเจ็ด ความร้อยเท็จมาปะสู่ เจ็ดสิบเจ็ดมรณาฤดู ชีวินสิ้นอย่าได้แคลง
ลักขณาอยู่มีน ว่าลักขณาท่าวสุตตโสมทายตามที่ปัทธิยาย
ลักขณามีนราศี ทายตามที่อย่าได้แคลง อาจารย์ท่านกล่าวแจ้ง ชื่อว่าท้าวสุตตโสม ผู้นั้นมีลูกมาก ว่าเมียน้อยเป็นปรัดติโลม ภายหลังมีสมบัติ ทั้งทุนทรัพย์มาสวมโสม ทุกสิ่งปรัดติโลม มีอเนกมากเหลือหลาย ตระกูลพ่อสูงศักดิ์ ฝ่ายข้างแม่แย่ทรามกาย ที่เกิดมีโดยหมาย มีท่าน้ำข้างอุดร หนบูรพ์มีไร่นา กอปลวกหญ้าแลสิงขร ใจบุญมักฟังพร รูปนั้นเจ้ามิสูงต่ำ ยี่สิบเก้าห้าสิบเจ็ด จะเกิดเหตุรุมรันทำ พ้นแต่นั้นอาจารย์พร่ำ ทายว่าจักได้เป็นนาย ผิมิได้ที่แดน แต่จะแสนสุขสบาย เจ็ดสิบเจ็ดจักวอดวาย ชีพมลายจนปราลัย
บุราณจารย์ท่านอรรถาปัทธิยายกาพย์นี้เพื่อพิจารณาซึ่งลักขณาคนที่มา พยากรณ์ที่มิได้ล่วงทราบเวลาเกิดเป็นที่แน่ชัด แล้วให้สอบจัดคำพยากรณ์ให้สมส่วนเพื่อวางลักขณาดูความเป็นไปของผู้นั้น ว่ามีลักษณะความเป็นอยู่อย่างไร พระเคราะห์ทั้งหลายก็จักทานซ้ำกับลักขณาให้เห็นชัดอีกพรรณหนึ่งด้วย
ธีรพร เพชรกำแพง