“ถ้าพระ
อังคารสถิตอยู่ในราศีมิถุน สิงห์ มกร เหล่านี้ ท่านปัตถิยายไว้ว่าเป็น
“ตรีโชค” ถ้าผู้หญิงจักได้เป็นนางพญา ถ้าเป็นชายจักได้เป็นมหาอำมาตย์
ถ้าเป็นสงฆ์จักถึงซึ่งราชาคณะแล
ถ้าดวงชาตาผู้ใด พระอังคารกุมลัคนา ท่านว่าผู้นั้นปากกล้าใจกล้า และถ้าพระอังคารเล็งลัคนาชายหญิงก็ดี มีคู่มักเอาใจออกห่างหย่าร้างกัน ถ้าพระอังคารนำหน้าลัคนาจักเป็นคนกล้าหาญ มีความอดทนขยันขันแข็ง หมั่นเพียรต่อการงาน ถ้าพระอังคารเป็นสี่แก่ลัคนา มักจะตายด้วยอุปัทวะเหตุ ตายมิดีแล”
จากการพิจารณาเกณฑ์ตรีโชคที่ท่านกำหนดไว้ โดยมีหลักว่า อังคาร จะต้องสถิตอยู่ในราศีบังคับ ๓ ราศี คือ มิถุน สิงห์ มกร ตามนี้ขึ้นชื่อว่า “ตรีโชค” มีฝอยพยากรณ์ผลคุณไว้พอเป็นที่สังเขป ว่าหญิงจักได้เป็นถึงนางพญา ชายเป็นมหาอำมาตย์ สงฆ์เป็นราชาคณะ ซึ่งถ้านำมาใช้ในยุคสังคมปัจจุบันเรา ต้องประยุกต์คำพยากรณ์เสียใหม่ จากที่เราดูผลคุณจะเห็นว่าเป็นตำแหน่งใหญ่ระดับผู้นำ มียศถาบรรดาศักดิ์ ฉะนั้นฐานะตำแหน่งใดเข้าในข่ายนี้ก็ถือว่าเป็นผลคุณจากเกณฑ์ตรีโชคได้
คราวนี้ต้องพิจารณา อังคาร ในราศี ๓ สถานว่าท่านให้ผลคุณเกณฑ์ตรีโชคไว้เช่นนั้นอย่างไร โดยพิจารณาดังนี้
พระอังคาร คือ พละ กำลัง การกระทำ พลังงาน ความตั้งใจ ชัดเจน ตรงประเด็น บุ่มบ่าม
ราศีมิถุน มีความหมายว่า สื่อสาร การแสดงออก การเรียนรู้ การมีส่วนร่วม ตั้งมโนภาพไว้ในใจก่อน “เพื่อให้ได้คิดแล้วแสดงออก”
ราศีสิงห์ มีความหมายว่า ผู้นำ ความภูมิใจ ลงมือกระทำ วางตัว ชั้นเชิง ความที่ต้องสมบูรณ์พร้อม “เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ”
ราศีมกร มีความหมายว่า เด็ดขาด รอบคอบ ความต้องการอันแรงกล้า การตัดสินชี้ขาด ความทะเยอทะยานสู่ความสำเร็จ “เพราะเป็นสิ่งที่ต้องใช้เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของชีวิต”
เมื่อทราบภาพความหมายของปัจจัยที่เกี่ยวข้องของเกณฑ์ตรีโชคแล้ว พึงดูต่อไปว่าเมื่อ อังคาร สถิตในราศีนั้นมีความหมายอย่างไร ดังนี้
อังคารสถิตในราศีมิถุน มีความหมายว่า เจตนาแห่งการคิดการพูดการแสดงออกที่ตรงประเด็น มักมีกุศโลบายในการนั้น การกระทบทางวาทะ (การกระตุ้นด้วยการสื่อสาร)
เกณฑ์ตรีโชคกรณีนี้ อังคารสถิตราศีมิถุน อันเป็นราศีแห่งการเรียนรู้และปรับประยุกต์ การคิดการแสดงออก ผลคุณทางผู้นำจึงเป็นลักษณะนี้ เช่น ผู้นำทางการสื่อสาร นักพูด นักวิเคราะห์ ครูอาจารย์ โดยต้องนำผลความหมายของอังคารเข้าไปจับด้วย คือมีความ “กล้า แข็ง ขยัน” เมื่อมีฐานะดังกล่าวแล้วมีความกล้าที่จะแสดงออก มีความแข็งขันขยัน ก็ย่อมเจริญในหน้าที่การงานประสบผลสำเร็จดังเกณฑ์ตรีโชคท่านว่าไว้
อังคารสถิตในสิงห์ มีความหมายว่า การแสดงออกถึงภาวะที่แข็งแกร่ง มุ่งนำกระทำ พยายามกำหนดทิศทาง/แบบแผน/ความแน่นอนด้วยตนเอง (การกระทำเชิงจุดเด่น,เรียกร้อง)
เกณฑ์ตรีโชคกรณีที่ ๒ อังคารสถิตราศีสิงห์ อันเป็นราศีแห่งการกระทำที่ต้องเป็นผู้นำ เข้าไปจัดการกระทำด้วยตนเอง มีแบบมีแผน เจ้ายศเจ้าอย่าง เมื่อรวมความหมายกับอังคารซึ่งเสริมการกระทำอย่างจริงจังเข้าไปอีก เสริมให้เกณฑ์ตรีโชคออกมาในลักษณะของการเป็นผู้นำจุดเด่นในกลุ่มในหมู่คณะ
อังคารสถิตในมกร มีความหมายว่า อดทน มานะ พากเพียร ไม่ย่อหย่อนท้อถอย พร้อมกำลังสติปัญญารอบคอบในการกระทำ (การกระทำด้วยจิตประสงค์อันกล้าแกร่ง)
เกณฑ์ตรีโชคกรณีที่ ๓ นี้ อังคารสถิตราศีมกร อันเป็นราศีแห่งความมุ่งปฏิบัติ จริงจัง ถี่ถ้วน รอบคอบ มุ่งสู่ความสำเร็จตามตั้งใจ มีโครงสร้างรูปแบบของชีวิต เมื่อรวมความหมายกับอังคาร จึงทำให้ความหมายดังกล่าวแกร่งกล้าด้วยความหมาย “กล้า แข็งขยัน ทายอังคาร” มากเข้าไปอีก สถานหนึ่งเป็นเรือนอุจของอังคาร ย่อมแสดงอานุภาพความหมายผลคุณเกณฑ์ตรีโชคนี้ได้เต็มที่
ปราชญ์โหราศาสตร์ไทย ท่านหมายให้อนุชนโหราศาสตร์รุ่นหลังได้ฝึกสังเกตใช้ความถี่ถ้วนรอบคอบในการ อ่านดวงชะตา จึงตั้งกฎตั้งเกณฑ์ต่างๆ ไว้มากมาย จนทำให้รุ่นหลังอย่างเราบ้างก็ไม่เข้าใจว่ากฎเกณฑ์ใดใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง เอาหลักสถิติเข้าสอบได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง ซึ่งความจริงโหราศาสตร์เอาหลักสถิติมาจับไม่ได้ แม้ว่าจะใช้วิธีทางสถิติร่วมด้วยได้ก็ตาม ทำให้หลายกฎเกณฑ์ก็ถูกปรามาสขาดหายไม่ได้ใช้ไป เพราะไม่ทราบที่ไปที่มาของกฎเกณฑ์นั้น ยกตัวอย่างเรื่องตนุเศษซึ่งบางสายวิชาก็ตัดทิ้งออกไปจากสารระบบ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายยิ่งนัก
กัลยาณมิตรอันเป็นที่รัก การที่หยิบยกเรื่องราวเก่าๆ ทางโหราศาสตร์มาเขียนเป็นบทความนั้นค่อนข้างเป็นเรื่องยากลำบากใจสำหรับฉัน อยู่เหมือนกัน เพราะจดจำสืบๆมาในวงศ์ตระกูลบ้านนอกบ้านนา ไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนอย่างเป็นระบบมีครูบาอาจารย์ที่โด่งดังอย่างคนอื่นเขา ครั้นจะไปฝากตัวเป็นศิษย์ใครก็ไม่เคยถูกจริตกับสายวิชาใดเลย แค่ใส่ใจว่าอะไรเข้ากับจริตใช้ได้ก็จับมาศึกษาทำความเข้าใจดั่งนายมาลัยกาล คัดดอกดีไว้เอาดอกเสียทิ้งไป นายมาลัยกาลก็คือนายช่างชาญชำนาญสันทัดในการจัดดอกไม้มาร้อยเป็นพวงมาลัย หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยท่านผู้รู้ทั้งหลายไว้ในโอกาสนี้ ขอความสุขจงมีแก่ท่านทั้งหลายเถิด
ธีรพร เพชรกำแพง
๒ ตุลาคม ๒๕๕๕
ถ้าดวงชาตาผู้ใด พระอังคารกุมลัคนา ท่านว่าผู้นั้นปากกล้าใจกล้า และถ้าพระอังคารเล็งลัคนาชายหญิงก็ดี มีคู่มักเอาใจออกห่างหย่าร้างกัน ถ้าพระอังคารนำหน้าลัคนาจักเป็นคนกล้าหาญ มีความอดทนขยันขันแข็ง หมั่นเพียรต่อการงาน ถ้าพระอังคารเป็นสี่แก่ลัคนา มักจะตายด้วยอุปัทวะเหตุ ตายมิดีแล”
จากการพิจารณาเกณฑ์ตรีโชคที่ท่านกำหนดไว้ โดยมีหลักว่า อังคาร จะต้องสถิตอยู่ในราศีบังคับ ๓ ราศี คือ มิถุน สิงห์ มกร ตามนี้ขึ้นชื่อว่า “ตรีโชค” มีฝอยพยากรณ์ผลคุณไว้พอเป็นที่สังเขป ว่าหญิงจักได้เป็นถึงนางพญา ชายเป็นมหาอำมาตย์ สงฆ์เป็นราชาคณะ ซึ่งถ้านำมาใช้ในยุคสังคมปัจจุบันเรา ต้องประยุกต์คำพยากรณ์เสียใหม่ จากที่เราดูผลคุณจะเห็นว่าเป็นตำแหน่งใหญ่ระดับผู้นำ มียศถาบรรดาศักดิ์ ฉะนั้นฐานะตำแหน่งใดเข้าในข่ายนี้ก็ถือว่าเป็นผลคุณจากเกณฑ์ตรีโชคได้
คราวนี้ต้องพิจารณา อังคาร ในราศี ๓ สถานว่าท่านให้ผลคุณเกณฑ์ตรีโชคไว้เช่นนั้นอย่างไร โดยพิจารณาดังนี้
พระอังคาร คือ พละ กำลัง การกระทำ พลังงาน ความตั้งใจ ชัดเจน ตรงประเด็น บุ่มบ่าม
ราศีมิถุน มีความหมายว่า สื่อสาร การแสดงออก การเรียนรู้ การมีส่วนร่วม ตั้งมโนภาพไว้ในใจก่อน “เพื่อให้ได้คิดแล้วแสดงออก”
ราศีสิงห์ มีความหมายว่า ผู้นำ ความภูมิใจ ลงมือกระทำ วางตัว ชั้นเชิง ความที่ต้องสมบูรณ์พร้อม “เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ”
ราศีมกร มีความหมายว่า เด็ดขาด รอบคอบ ความต้องการอันแรงกล้า การตัดสินชี้ขาด ความทะเยอทะยานสู่ความสำเร็จ “เพราะเป็นสิ่งที่ต้องใช้เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของชีวิต”
เมื่อทราบภาพความหมายของปัจจัยที่เกี่ยวข้องของเกณฑ์ตรีโชคแล้ว พึงดูต่อไปว่าเมื่อ อังคาร สถิตในราศีนั้นมีความหมายอย่างไร ดังนี้
อังคารสถิตในราศีมิถุน มีความหมายว่า เจตนาแห่งการคิดการพูดการแสดงออกที่ตรงประเด็น มักมีกุศโลบายในการนั้น การกระทบทางวาทะ (การกระตุ้นด้วยการสื่อสาร)
เกณฑ์ตรีโชคกรณีนี้ อังคารสถิตราศีมิถุน อันเป็นราศีแห่งการเรียนรู้และปรับประยุกต์ การคิดการแสดงออก ผลคุณทางผู้นำจึงเป็นลักษณะนี้ เช่น ผู้นำทางการสื่อสาร นักพูด นักวิเคราะห์ ครูอาจารย์ โดยต้องนำผลความหมายของอังคารเข้าไปจับด้วย คือมีความ “กล้า แข็ง ขยัน” เมื่อมีฐานะดังกล่าวแล้วมีความกล้าที่จะแสดงออก มีความแข็งขันขยัน ก็ย่อมเจริญในหน้าที่การงานประสบผลสำเร็จดังเกณฑ์ตรีโชคท่านว่าไว้
อังคารสถิตในสิงห์ มีความหมายว่า การแสดงออกถึงภาวะที่แข็งแกร่ง มุ่งนำกระทำ พยายามกำหนดทิศทาง/แบบแผน/ความแน่นอนด้วยตนเอง (การกระทำเชิงจุดเด่น,เรียกร้อง)
เกณฑ์ตรีโชคกรณีที่ ๒ อังคารสถิตราศีสิงห์ อันเป็นราศีแห่งการกระทำที่ต้องเป็นผู้นำ เข้าไปจัดการกระทำด้วยตนเอง มีแบบมีแผน เจ้ายศเจ้าอย่าง เมื่อรวมความหมายกับอังคารซึ่งเสริมการกระทำอย่างจริงจังเข้าไปอีก เสริมให้เกณฑ์ตรีโชคออกมาในลักษณะของการเป็นผู้นำจุดเด่นในกลุ่มในหมู่คณะ
อังคารสถิตในมกร มีความหมายว่า อดทน มานะ พากเพียร ไม่ย่อหย่อนท้อถอย พร้อมกำลังสติปัญญารอบคอบในการกระทำ (การกระทำด้วยจิตประสงค์อันกล้าแกร่ง)
เกณฑ์ตรีโชคกรณีที่ ๓ นี้ อังคารสถิตราศีมกร อันเป็นราศีแห่งความมุ่งปฏิบัติ จริงจัง ถี่ถ้วน รอบคอบ มุ่งสู่ความสำเร็จตามตั้งใจ มีโครงสร้างรูปแบบของชีวิต เมื่อรวมความหมายกับอังคาร จึงทำให้ความหมายดังกล่าวแกร่งกล้าด้วยความหมาย “กล้า แข็งขยัน ทายอังคาร” มากเข้าไปอีก สถานหนึ่งเป็นเรือนอุจของอังคาร ย่อมแสดงอานุภาพความหมายผลคุณเกณฑ์ตรีโชคนี้ได้เต็มที่
ปราชญ์โหราศาสตร์ไทย ท่านหมายให้อนุชนโหราศาสตร์รุ่นหลังได้ฝึกสังเกตใช้ความถี่ถ้วนรอบคอบในการ อ่านดวงชะตา จึงตั้งกฎตั้งเกณฑ์ต่างๆ ไว้มากมาย จนทำให้รุ่นหลังอย่างเราบ้างก็ไม่เข้าใจว่ากฎเกณฑ์ใดใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง เอาหลักสถิติเข้าสอบได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง ซึ่งความจริงโหราศาสตร์เอาหลักสถิติมาจับไม่ได้ แม้ว่าจะใช้วิธีทางสถิติร่วมด้วยได้ก็ตาม ทำให้หลายกฎเกณฑ์ก็ถูกปรามาสขาดหายไม่ได้ใช้ไป เพราะไม่ทราบที่ไปที่มาของกฎเกณฑ์นั้น ยกตัวอย่างเรื่องตนุเศษซึ่งบางสายวิชาก็ตัดทิ้งออกไปจากสารระบบ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายยิ่งนัก
กัลยาณมิตรอันเป็นที่รัก การที่หยิบยกเรื่องราวเก่าๆ ทางโหราศาสตร์มาเขียนเป็นบทความนั้นค่อนข้างเป็นเรื่องยากลำบากใจสำหรับฉัน อยู่เหมือนกัน เพราะจดจำสืบๆมาในวงศ์ตระกูลบ้านนอกบ้านนา ไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนอย่างเป็นระบบมีครูบาอาจารย์ที่โด่งดังอย่างคนอื่นเขา ครั้นจะไปฝากตัวเป็นศิษย์ใครก็ไม่เคยถูกจริตกับสายวิชาใดเลย แค่ใส่ใจว่าอะไรเข้ากับจริตใช้ได้ก็จับมาศึกษาทำความเข้าใจดั่งนายมาลัยกาล คัดดอกดีไว้เอาดอกเสียทิ้งไป นายมาลัยกาลก็คือนายช่างชาญชำนาญสันทัดในการจัดดอกไม้มาร้อยเป็นพวงมาลัย หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยท่านผู้รู้ทั้งหลายไว้ในโอกาสนี้ ขอความสุขจงมีแก่ท่านทั้งหลายเถิด
ธีรพร เพชรกำแพง
๒ ตุลาคม ๒๕๕๕