20 มีนาคม 2558

ตัวอย่างการพยากรณ์ดวงชะตาพื้นฐาน ตอน การอ่านเรือนสัมพันธ์ประสมดาวลอย 1

การอ่านเรือนสัมพันธ์ประสมดาวลอย ๑

          การพิจารณาดวงชะตาด้วยระบบเรือนสัมพันธ์นั้น จะต้องนำเรื่องราวที่ต้องการจะพิจารณาหาความหมายนั้น ว่ามีความเกี่ยวข้องกับเรือนใดแล้วจึงพิจารณาเรื่องราวของเรือนนั้นตามลำดับขั้นตอน และหากมีดาวลอยมาสถิตในเรือนนั้น จำเป็นจะต้องพิจารณาความหมายที่ดาวนั้นนำมาให้สู่เรือนที่ตนสถิตด้วย
          ในครั้งนี้เราจะพิจารณาเรือน “กดุมภะ” อันเป็นเรือนที่ให้ความหมายในด้านของการเงิน ทรัพย์สิน สมบัติ รายรับรายจ่าย เป็นการแสดงถึงสถานะการเงินของเจ้าชะตา โดยเมื่อเราจะพิจารณาดูภาวะการเงินของเจ้าชะตา เบื้องแรกให้พิจารณาเกษตรเจ้าเรือนแห่งกดุมภะนั้นไปสถิตอยู่ในราศีใด มีตำแหน่งเป็นเกษตร ประ อุจ นิจ มหาจักร ราชาโชคอย่างไร จากนั้นก็มองว่าดาวแห่งกดุมภะนั้นไปสถิตอาศัยในราศีที่เกษตรเจ้าเรือนนั้นเป็นคู่มิตร คู่ศัตรู ทำให้เกิดผลความหมายขัดแย้งหรือส่งเสริมกันประการใด แล้วจึงดูว่าดาวกดุมภะนั้นเป็นดาวธาตุใดไปสถิตในราศีธาตุใด ราศีธาตุที่อาศัยกับธาตุดาวนั้นมีความส่งเสริมหรือขัดแย้งในภาพผลความหมายอย่างไรเช่นเดียวกัน การพิจารณานี้เพื่อตรวจดูสถานะของดาวกดุมภะว่าอยู่ในภาวะเข้มแข็งหรืออ่อนแอที่จะส่งผลในดวงชะตาอย่างไร แล้วจึงพิจารณาตามดูดาวเกษตรเจ้าเรือนที่ดาวกดุมภะนั้นไปสถิตอยู่ ว่าไปสถิตเรือนใดของดวงชะตา เพื่อที่จะนำเอาภาพความหมายของเรือนนั้นมาสมทบประกอบเป็นเหตุผลร่วมกับเงื่อนไขแรกที่เราได้พิจาณาเกรินกล่าวไว้ตอนแรกแล้ว

          จากรูปดวงชะตาที่ยกตัวอย่างมานี้จะเห็นว่าลัคนาสถิตอยู่ในราศีกรกฎ โดยมีราศีสิงห์เป็นเรือนกดุมภะ และดาว ๑ เป็นเกษตรเจ้าเรือนกดุมภะ มาสถิตกุมลัคนาในราศีกรกฎ มีตำแหน่งเป็นมหาจักร เพื่อให้ได้ข้อมูลเบื้องต้นในชั้นแรก จึงต้องพิจารณาเป็นลำดับขั้นตอนไปดังนี้
          ก.ดาว ๑ เจ้าเรือนกดุมภะมากุมลัคนาคือการเงินนี้ถึงตัวเจ้าชะตาโดยตรง ถือว่าเรื่องการเงินมีความสำคัญกับชีวิตของเจ้าชะตามาก ไม่ว่าจะเป็นด้านร้ายหรือด้านเสียก็ตาม ตรงนี้เราจะได้ภาพความหมายดาว ๑ ที่มาสถิตลัคนาหรือเรือนตนุได้ว่า “การกระทำมุ่งตรงไปข้างหน้า ริเริ่มกระทำ ตรงไปตรงมา” แสดงให้เห็นถึงเจ้าชะตามีความมุ่งกระทำในเรื่องที่เป็นฐานมาจากกดุมภะอย่างจริงจังด้วย
          ข.ดาว ๑ เจ้าเรือนกดุมภะราศีกรกฎ มีตำแหน่งเป็นมหาจักร อิทธิพลของดาวมหาจักรจะให้ผลในด้านของความโลดโผน ไม่ดำเนินไปอย่างปกติธรรมดา ความหมายคือ การเงินที่จะส่งผลต่อชีวิตเจ้าชะตานั้นจะเป็นไปโดยไร้รูปแบบที่กำหนด มีความพลิกแพลง และเมื่อพิจารณาความหมายเพิ่มเติมจากดาวในราศี ดาว ๑ สถิตราศีกรกฎ ความหมายคือ “การกระทำในเชิงดูแล ปกป้อง ประสาน ผลประโยชน์” คือเมื่อได้การเงินนั้นมาแล้ว เจ้าชะตาย่อมจะดูแลรักษา,สร้างหรือก่อให้เกิดประโยชน์ต่อไป
          ค.ดาว ๑ สถิตราศีกรกฏ ซึ่ง ๒ เป็นเกษตรเจ้าราศี ความสัมพันธ์ระหว่าง ๑ และ ๒ ไม่เป็นคู่มิตรหรือศัตรูต่อกันโดยตรงนัก เพราะฉะนั้นการส่งเสริมหรือขัดแย้งกันระหว่างความเป็นเจ้าเรือนทั้งดาว ๑ และ ๒ จึงไม่มีผลทางบวกและทางลบ
          ง.ดาว ๑ เป็นดาวธาตุไฟ ไปสถิตราศีกรกฎอันเป็นราศีธาตุน้ำ ความเป็นธาตุไฟของดาว ๑ ย่อมอ่อนกำลังลง เพราะธรรมชาติของน้ำย่อมหักล้างไฟ ตัดทอนผลได้ผลเสียทางการเงิน คือจากเดิมที่อาจจะรุ่งโรจน์ดั่งเปลวไฟโหม หรือเสียหายดั่งไฟไหม้เผาผลาญ ก็ลดความหมายดีร้ายนั้นลงกลายเป็นไฟที่อ่อนแรงทางความหมายพยากรณ์
          จ.พิจารณาติดตามดาว ๒ ตนุลัคน์ หรือเจ้าเรือนตนุที่ดาวกดุมภะไปอาศัยอยู่นั้น ว่าไปสถิตยังเรือนใด เพื่อที่จะเป็นการชี้ผลขยายความภาพความหมายที่เราได้อ่านในเบื้องแรกตั้งแต่ข้อ ก.-ง. นั้นมาแล้ว ในที่นี้ดาว ๒ สถิตราศีเมษ มีตำแหน่งเป็นมหาจักรในเรือนกัมมะ จะเห็นได้ว่ามีความเป็นมหาจักรทั้งสองตำแหน่งคือดาว ๑ มหาจักรที่มากุมลัคนา และดาว ๒ มหาจักรในเรือนกัมมะอันเป็นตัวขยายผล ถือว่าเป็นกำลังมหาจักรถึงสองเท่า ความหมายคือภาวะการเงินของเจ้าชะตา(กดุมภะ) มีความเกี่ยวข้องกับการจัดการของเจ้าชะตาโดยตรง(ตนุ) ต้องใช้สติปัญญาไหวพริบพลิกแพลง(๑ ๒ มหาจักร) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการงานและการลงทุนของเจ้าชะตา(กัมมะ) และความหมายดาวในเรือนของดาว ๒ ในเรือนกัมมะ ยังให้ภาพความหมายอีกว่า “การปรารถนาความสำเร็จในกิจทั้งก่อนและหลัง หวังผลในระยะยาว” แสดงว่าเจ้าชะตามีความคาดหวังทางด้านการเงินอย่างยิ่ง และมุ่งกระทำหวังผลในระยะยาวเพื่อความมั่นคงของชีวิต
          ฉ.พิจารณาความสัมพันธ์ของดาวที่มามีอิทธิพลความหมายในเรือนกดุมภะ หรือที่เรียกว่าดาวลอยในเรือน ซึ่งในที่นี้ก็คือดาว ๔ และ ๖ ที่มาสถิตในเรือนกดุมภะ ย่อมนำความหมายของความเป็นดาวและเจ้าเรือนมายังกดุมภะที่เราพิจารณาด้วย ดังนี้
          ดาว ๔ เป็นเจ้าเรือนสหัสชะและวินาส มีตำแหน่งมาตรฐานเป็นมหาจักร/ราชาโชค ให้ความหมายถึงการเงินที่ต้องมีความหมุนเวียนที่เรียกว่า “เงินหมุน” โดยมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเจ้าชะตามามีส่วนร่วม(สหัสชะ) ในการแก้ไขปัญหาอันจะมีเกิดขึ้นเฉพาะหน้าเป็นแรงผลักดัน(วินาส) ด้วยการพลิกแพลงให้มีความราบรื่นสำเร็จไปด้วยดี(มหาจักร/ราชาโชค) และความหมายดาวในเรือนของดาว ๔ ให้ภาพความหมายว่า “คิดพลิกแพลงในการใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์สูงสุด” จึงเป็นการย้ำในข้อที่ว่าเจ้าชะตาจะต้องมีรูปแบบในการปรับเปลี่ยนการเงินให้มีความงอกเงยนั้นเอง
          ดาว ๖ เป็นเจ้าเรือนพันธุและลาภะ ให้ความหมายถึงการเงินของเจ้าชะตาในครั้งนี้เป็นไปเพื่อความมั่นคงในครอบครัว(พันธุ) และจะประสบความสำเร็จในเรื่องลาภผล รายได้ กำไร ตามที่ต้องการ(ลาภะ) และความหมายดาวในเรือนของดาว ๖ ให้ภาพความหมายว่า “การคิดสร้างสรรค์ไว้ล่วงหน้าก่อนจับจ่ายใช้สอยในสิ่งที่มีคุณค่าต่อความเป็นอยู่” ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าเจ้าชะตามีการวางแผนในการดำเนินงานเพื่อให้ได้มาซึ่งการเงิน โดยการแก้ไขดิ้นรนพลิกแพลงหนทางวิธีการ เพื่อที่จะสั่งสมเข้าเป็นความมั่นคงของครอบครัวและฐานะชีวิตความเป็นอยู่ในชีวิตให้ดีขึ้น
          ท่านผู้สนใจศึกษาเมื่ออ่านมาเป็นลำดับย่อมที่จะทราบความหมายได้ไม่ยาก โดยไม่จำเป็นต้องมาสรุปเรียบเรียงให้ดูใหม่ เพราะได้เห็นภาพความหมายแต่ละขั้นตอนในการอ่านดวงชะตาด้วยระบบเรือนสัมพันธ์ประสมดาวลอยในเรือนชะตา ที่ได้แสดงให้ดูอย่างชัดเจนนั้นแล้ว สิ่งที่ประสงค์จะเน้นย้ำคือเรื่องความสำคัญของการพิจารณาดวงชะตาอย่างเป็นลำดับขั้นตอนนี้ว่า ทำให้เรารู้ถึงที่มาที่ไปและความเป็นเหตุเป็นผลของปัจจัยความหมายในดวงชะตา ซึ่งเมื่อเราพิจารณาฝึกฝนทบทวนให้มากเข้า ความจัดเจนชำนาญในการอ่านดวงชะตาระบบนี้ย่อมเกิดมีขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อหยิบดวงใดขึ้นมาพิจารณาด้วยระบบเรือนสัมพันธ์ก็จะมีความคล่องตัวและรวดเร็วในการอ่านดวงอย่างชัดเจนตามลำดับ

ธีรพร  เพชรกำแพง

20 มีนาคม 2558