21 มีนาคม 2558

ตัวอย่างการพยากรณ์ดวงชะตาพื้นฐาน ตอน การอ่านเรือนสัมพันธ์ประสมดาวลอย 2

การอ่านเรือนสัมพันธ์ประสมดาวลอย ๒
          การศึกษาเรียนรู้ทางโหราศาสตร์ย่อมทำให้เราได้เรียนรู้ความเป็นไปของชีวิต ซึ่งส่วนหนึ่งก็คือการศึกษาเรื่อง “กรรม” ตามแบบพระพุทธศาสนา การพิจารณากรรมทางโหราศาสตร์ในส่วนที่กำกับการกระทำได้ จะต้องเห็นว่ากรรมคือการกระทำที่ตนเองรับผิดชอบได้ หากไม่สามารถจะรับผิดชอบกรรมนั้นได้ก็จงอย่ากระทำเสีย แต่คนเราต่างความคิดจิตใจ โดยเฉพาะเรื่องการตัดสินใจเลือกแนวโน้มความเป็นไปของชีวิต แม้จะรู้ผลด้านลบที่จะพึงเกิดมีเมื่อเลือกทางเดินนั้น แต่บางคนหรือหลายคนก็เลือกที่จะกระทำกรรมที่ตนเองรับผิดชอบไม่ได้เสมอ เป็นเรื่องของ “ดวงชะตา” ตามความหมายของกรรมคือการกระทำ
          เรื่องราวที่จะนำเสนอเป็นการพิจารณาดวงแบบเรือนสัมพันธ์ในครั้งนี้ เป็นเรื่องราวของ “กดุมภะ” ซึ่งเป็นเรือนที่ ๒ หากนับจากลัคนาไปจะอยู่หน้าลัคนา ๑ ราศี ความหมายในดวงชะตาเกี่ยวกับการเงิน ทรัพย์สิน สมบัติ รายได้(รายรับรายจ่าย)
          ตามรูปแบบการพิจารณาดวงชะตาอย่างเป็นขั้นตอนนั้น เราจะจับดูดาวเกษตรเจ้าเรือนกดุมภะนั้นไปสถิตแห่งหนราศีใด มีตำแหน่งมาตรฐานดีหรือเสื่อมอย่างไร เกษตรเรือนที่ตนอาศัยนั้นเป็นมิตรหรือศัตรู ธาตุราศีที่ตนสถิตให้ผลส่งเสริมหรือขัดแย้งกับธาตุดาวกดุมภะแห่งตน การพิจารณาอย่างนี้เพื่อตรวจดูสถานะของดาวเจ้าเรือนกดุมภะว่ามีความเป็นอยู่ที่จะให้ผลความหมายในเบื้องแรกอย่างไร
ขั้นต่อไปเพื่อเป็นการขยายผลภาพความหมายที่ได้นี้ จะต้องตามดูเจ้าเรือนที่ดาวกดุมภะไปอาศัยว่าไปสถิตยังเรือนใด ให้เอาความหมายของเรือนนั้นมาสอบประกอบเข้ากับเรื่องราวที่เราได้อ่านไว้แล้วเป็นลำดับขั้นตอนมา เพื่อให้เรื่องมีความกระจ่างชัดขึ้น
จากนั้นพิจารณาถึงความสัมพันธ์ในเรือนกดุมภะว่ามีความสัมพันธ์ในลักษณะ “ดาวลอย” มาสถิตอยู่หรือไม่ หากมีจะต้องพิจารณาภาพความหมายที่ดาวลอยนั้นนำมาประสมกับความหมายที่ได้จากการอ่านในชั้นแรก เป็นการพิจารณาดวงชะตาจากดาวที่มีความเป็น “ดาว” คือเกษตรราศี และความเป็น “เจ้าเรือน” อันเป็นเกษตรแห่งเรือน มาสำทับความหมายให้มีความชัดเจนหนักแน่นขึ้น

          จากรูปดวงชะตานี้เราจะเห็นว่าลัคนาสถิตราศีสิงห์ ราศีกันย์จึงเป็นเรือนกดุมภะ ให้ภาพความหมายราศีในเรือนว่า “การรู้จักรอบคอบ รัดกุม แยกแยะ วิเคราะห์ ก่อนการใช้จ่ายและหาเพิ่มเสริมประสงค์ป้องกันสภาพพร่อง” แสดงถึงเจ้าชะตามีความเข้าใจในการหาทรัพย์และนำทรัพย์นั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์ให้ชีวิตมีความคล่องตัว
ก.ดาว ๔ คือเจ้าเรือนกดุมภะ ไปสถิตยังราศีกุมภ์อันเป็นเรือนปัตนิ หมายถึงการเงินของเจ้าชะตาจะมีในลักษณะของ “ผู้ร่วม” เข้ามาเกี่ยวข้อง และบุคคลที่จะมาร่วมในเรื่องการเงินของเจ้าชะตานั้นคือบุคคลตามความหมายของเรือนปัตนิ คือ ครอบครัว สามีภรรยา คนรัก คู่ครอง ผู้ที่เกี่ยวข้องผูกพัน หุ้นส่วน และเมื่อดาว ๔ ไปอยู่เรือนปัตนิ ให้ภาพความหมายดาวสถิตเรือนว่า “การใช้มิติแห่งการสื่อสาร เจรจาพูดคุย แสดงออก ปรับประยุกต์ในการมีส่วนร่วม/คบหา”แสดงถึงว่าเจ้าชะตาจะต้องกระทำการมีส่วนร่วมกับบุคคลที่คบหา เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินการเงิน
ข.ดาว ๔ เจ้าเรือนกดุมภะสถิตราศีกุมภ์ ไม่มีมาตรฐานตำแหน่งใดให้พิจารณา จึงมองต่อไปที่ราศีกุมภ์นั้นมีเกษตรเจ้าราศีคือดาว ๘ ความสัมพันธ์ของดาว ๔ และ ๘ ถือว่าเป็นคู่ศัตรูกันโดยตรง จึงให้ผลขัดแย้งรุนแรง เสียหาย ผิดพลาด อันเป็นเหตุร้ายแก่เรื่องการเงินของเจ้าชะตา ถือว่าเป็นผลทางลบมากกว่าผลทางบวก ความเป็นคู่ศัตรูระหว่างดาว ๔ ๘ ท่านระบุไว้ว่า “เป็นสภาวะที่ถูกล่าวร้าย ใส่ความ ถูกยุยง กลโกง ลับลวงพราง ไม่สุจริต”
ค.ดาว ๔ เป็นดาวธาตุน้ำ ไปสถิตราศีกุมภ์ธาตุลม ธาตุราศีกับธาตุดาวมิได้ถือว่าส่งเสริมหรือขัดแย้งกันโดยตรง ดาว ๔ มาสถิตราศีกุมภ์ย่อมได้รับอิทธิพลราศีกล่อมเกลาดาว ๔ ให้มีความหมายในลักษณะของการมีความถนัดชำนาญในการปรับประยุกต์สื่อสารเรื่องยากๆให้เป็นเรื่องง่าย มีความรู้ในการเปลี่ยนแปลงการแสดงออกให้เข้ากับกลุ่มหมู่พวกได้เป็นอย่างดี พร้อมที่จะเรียนและรับรู้สิ่งใหม่ๆ ซึ่งแสดงว่าเจ้าชะตาย่อมมีทักษะในการแก้ปัญหาที่จะพึงมีเกิดขึ้นจากตัวบุคคลหรือเรื่องต่างๆที่มากระทบได้
ง.เมื่อรู้ที่มาที่ไปพอจับเป็นภาพความหมายพยากรณ์ได้เค้าโครงแล้ว ต่อไปเพื่อเป็นการขยายผลความหมายให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้นเราจะติดตามดาว ๘ เจ้าเรือนราศีกุมภ์ที่ดาว ๔ ไปสถิต ว่าจะชี้ผลความหมายอยู่ในเรือนใด แล้วหยิบยกเอาความหมายนั้นมาประกอบเสริมเพิ่มเติมกับความหมายที่อ่านมาตั้งแต่ต้น ดังนี้
ดาว ๘ นั้นไปสถิตเรือนลาภะ ราศีมิถุน เป็นเกษตรแลกเรือนกับดาว ๔ ความเป็นเกษตรแลกเรือนนี้ให้ผลความหมายทางด้านความกลับไปกลับมา ถ่ายโอนเปลี่ยนแปลงในลักษณะแลกเปลี่ยนกัน เป็นความหมายทางการเงินของเจ้าชะตาว่าจะต้องมีความหมุนเวียนเปลี่ยนผ่าน แล้วจึงทำให้ชีวิตการเงินของเจ้าชะตาประสบความสำเร็จขึ้นมาได้จากความเปลี่ยนกลับไปกลับมานั้น
จ.ต่อไปพิจารณาดาวที่มีความสัมพันธ์กับเรือนกดุมภะในลักษณะ “ดาวลอย” ในที่นี้คือดาว ๓ ๗ ที่จะนำเอาภาพความหมายของความเป็นดาวและเจ้าเรือนมายังเรือนกดุมภะที่เราพิจารณาอยู่นี้
ดาว ๓ เป็นเจ้าเรือนพันธุและศุภะ มาสถิตราศีกันย์มีมาตรฐานเป็นมหาจักร มาสถิตเรือนกดุมภะ  ความเป็นมหาจักรของดาว ๓ นี้แสดงถึงความผันผวนโลดโผนทำให้ต้องพลิกแพลงปรับประยุกต์เอาตามสถานการณ์ โดยเรื่องการเงินของเจ้าชะตานี้มักมีความผันผวนต่อความมั่นคง(พันธุ-มหาจักร) อันเนื่องมาจากการที่ต้องพลิกแพลงแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย(ศุภะ-มหาจักร)
ดาว ๗ เป็นเจ้าเรือนอริ มาสถิตราศีกันย์เรือนกดุมภะ มีความหมายว่า เกิดความยุ่งยากทางการเงินแก่เจ้าชะตา อันเนื่องมาจากบุคคลที่เป็นผู้มีส่วนร่วม(กดุมภะไปตกปัตนิ)
สรุปความหมายจากปัจจัยที่พิจารณามาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนได้ว่า ภาวะการเงินของเจ้าชะตามักประสบปัญหา แต่ก็สามารถทำมาหาได้ด้วยความสามารถของตนเอง โดยการพลิกแพลงปรับประยุกต์วิธีในการหาเงิน หรือมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบทางการหาเงิน การเงินในลักษณะหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านของการมีส่วนร่วมทางการเงินกับบุคคลอื่นทำให้เจ้าชะตาประสบความสำเร็จทางด้านการเงินและความมั่นคงขึ้นมาได้
ข้อเท็จจริงของดวงชะตานี้คือ เจ้าชะตาเพศชายเคยไปทำงานต่างประเทศ ได้เงินก้อนมาลงทุนทำสวนผลไม้เพื่อหวังผลระยะยาว ร่วมลงทุนกับญาติ แต่ก็ปรากฏว่าเกิดความเสียหายคล้ายการโกงขึ้นจากการดูแลไม่ทั่วถึงของตน ญาติจึงได้ผลประโยชน์มากกว่า จึงทำให้สวนผลไม้และเงินที่ลงทุนนั้นเป็นอันล่มไป จากนั้นจึงหันมาลงทุนทำในสิ่งที่ให้ผลระยะสั้นในด้านการค้าขาย โดยเป็นการค้าขายที่เปลี่ยนแปลงพลิกผันไปเรื่อยตามดวงชะตาที่พิจารณามาข้างต้น กระทำร่วมกับภรรยาคู่ชีวิต คือฤดูใดมีผักผลไม้ก็จะนำเข้าไปขายที่ตลาดในเมืองแบบขายส่ง พอหมดฤดูผักผลไม้ก็ไปเช่าแผงขายอาหารตามสั่งตามแหล่งท่องเที่ยว พอหมดจากการขายอาหารตามสั่งก็ไปขายเสื้อผ้า หมุนเวียนกันอยู่อย่างนี้ โดยจะไม่ลงทุนอะไรในลักษณะที่หวังผลระยะยาว เพราะได้สังเกตวาสนาชะตาตนมาอย่างนั้น จึงกระทำตนให้สอดคล้องกับดวงชะตาดังกล่าว
เมื่อพิจารณาติดตามอ่านผลลงไปตามเรือนตามดาวเรื่อยๆแล้ว ท่านจะเห็นว่าภาพความหมายนั้นปรากฏชัดเจนขึ้นทุกขณะที่อ่านสืบสาวตามเรื่องราวอิงดาวอิงเรือนนั้นไป และให้ภาพความหมายละเอียดหนักแน่น ไม่ฉาบฉวยแค่การสังเกตเพียงผิวเผิน การพิจารณาดวงอย่างนี้จะทำให้เราได้ภาพความหมายอย่างรู้ที่มาที่ไปและมีความเป็นเหตุเป็นผลตรงตามลีลาชีวิตของเจ้าชะตา จึงขอให้ท่านผู้ศึกษาสนใจและตระหนักถึงความสำคัญของการพิจารณาดวงชะตาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนนี้ไว้ให้มาก เพื่อประโยชน์แก่ตัวท่านเองในวันข้างหน้า

ธีรพร  เพชรกำแพง
22 มีนาคม 2558