9 กันยายน 2555

ตูนโหน (สะกิดใจโหราศาสตร์) ตอน วิกลคติ


ตูนโหน

(สะกิดใจโหราศาสตร์)

ธีรพร  เพชรกำแพง

6 พฤศจิกายน 2554

          วันนี้นั่งดื่มน้ำตาลมะพร้าวสด ครัวมหาชัย ซื้อจากรถขายกับข้าววานก่อน หวานชื่นใจกำลังดี ก็อดนึกถึงผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมไม่ได้ ว่าจะมีของดีๆไว้กินไว้ใช้กันมาน้อยเพียงพอหรือไม่ เวลามีการเรียกรับบริจาคทางบ้านฉันก็จะร่วมกับเขาด้วยทุกครั้งไป โดยเฉพาะข้าวสาร แหม!ไอ้เราหรือก็ลูกชาวนา สิ่งที่ดีที่สุดและภูมิใจที่สุดในชีวิตก็คือ ข้าว นี้เอง หวังให้ผู้ประสบภัยได้อิ่มกายสบายท้อง ส่วนความหวั่นวิตกทั้งช่วงน้ำท่วมและหลังน้ำลดที่ต้องเริ่มต้นชีวิตกันใหม่นั้น ก็ไม่รู้จะทัดทานบรรเทาได้อย่างไร นอกจากเป็นเพียงกำลังใจห่างๆได้แค่นั้น

          พูดถึงเรื่องน้ำตาลสดนี่เดี๋ยวนี้หาซื้อง่าย ตามตลาดร้านค้าเครื่องดื่มนี่มีวางเรียงเป็นขวดๆ หลายยี่ห้อ ของแท้หรือผสมมาบ้างแล้วก็ไม่รู้ แต่ก็หอมหวานดี เมื่อก่อนน้ำตาลสดของแท้ของดีนี่ต้องไปที่ เกยชัย น้ำตาลสดน้ำตาลปึกของเขานี้ของแท้ชนิดรับประกัน ฉันว่าไม่ต้องเห็นคนไปปีนต้นตาลหรอก เอาแค่กลิ่นกับรสชาตินี่กินขาดกว่าที่วางขายตามตลาดนัดเยอะ ถ้าไม่ไปด้วยตัวเองก็ฝากใครเขาผ่านไปช่วยซื้อให้ น้ำตาลสดก็มาไว้ดื่มดับกระหายคลายร้อนให้ชื่นใจ หรือจะเอาน้ำตาลปึกน้ำตาลก้อนมาทำขะหนุกขนมกินก็หอมหวานเข้าที ไม่เสียชื่อ เกยชัย แน่นอน

          ไหนๆก็พูดแล้ว ขอเล่าถึง มีดปาดตาล อีกสักหน่อย นึกถึงตอนเด็ก แหม!มันคมได้ใจ ล่อมือเลือดอยู่เสียทุกคราวไปที่แอบหยิบมาใช้ ไม่มีตาลให้ขึ้นให้ปีนอะไร ของเขาเก็บไว้ สีนี่มันวาวสะท้อนขวับ เรียกว่าโกนผมนาคได้เลยก็แล้วกัน นี่ถือว่าเป็นอาวุธคู่กายนักปาดตาลกันเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าปาดงวงมะพร้าวเขาจะใช้มีดลักษณะเดียวกันนี้หรือเปล่า ใช้เสร็จแล้วเก็บเข้าที่เรียบร้อยพ้นหูพ้นตาลูกหลาน เพราะมีประโยชน์แต่ก็อันตรายมาก ท่านก็เก็บงำไว้ดี ไอ้เราหรือเวลาใช้มีดอันไหนไม่คมถึงใจเป็นต้องแอบหยิบมาใช้ สุดท้ายได้แผลด้วยโดนตีด้วย ไม่รู้ว่าคุ้มกันหรือเปล่า แต่สิ่งที่ผู้ใหญ่ท่านทำก็ความปลอดภัยของเรานั้นแหละ ประเดี๋ยวนี้ไม่รู้หายไปยังไงแล้วก็ไม่เห็นมีใครซื้อมาใหม่ หรือจะไม่มีขายก็ไม่ทราบ ใช้มีดทื่อทีไรต้องนึกถึง คมมีดปาดตาล ขึ้นมาทุกที

          มาว่ากันถึง ตูนโหน ที่ให้ข้อคิดสะกิดใจในความรู้ทางโหราศาสตร์แง่มุมต่างๆ ตอนนี้ว่ากันด้วยเรื่อง วิกลคติ คือความไม่ปกติของดวงดาวในการโคจรนั้นเอง นักโหราศาสตร์โบราณท่านสังเกตโคจรวิถีแห่งพระเคราะห์ต่างๆ พบถึงลักษณาการความเป็นไปที่ไม่ปกติของดวงดาว กล่าวว่า เมื่อบางคราวดาวนั้นก็เดินหน้าด้วยความเร็วไม่คงที่เหมือนปกติ บางคราวก็เดินช้าหยุดนิ่งพักเป็นเวลานาน หรือบ้างก็วิปริตถอยหลังกลับคืนเป็นวิกลเสียได้ ท่านเรียกอาการผิดปกติเหล่านั้นว่า วิกลคติ และเรียกลักษณาการผิดปกติตามความเป็นไปคือ เสริด หมายถึงเดินเร็ว, มนท์ หมายถึงโคจรช้าเสมือนอยู่กับที่, พักร หมายถึงเดินถอยหลัง ในการสังเกตนี้ก็จักเป็นความรู้ส่วนคำนวณและพยากรณ์ต่อไป ก็เพราะการสังเกตและค้นคว้านี้ทำให้เราทราบว่าเป็นผลมาจากการ ดู ที่เป็นมายาลวงตาของดวงดาว ในความเป็นจริงแล้ว ดวงดาวเหล่านั้นก็ยังโคจรไปอยู่ตามปกติเป็นอันดี แต่พอเข้าถึงจุด ไม่เท่า ในระยะหนึ่งก็ทำให้การสังเกตเห็นเหมือนกับว่าดวงดาวเหล่านั้นโคจรวิปริต เดินไวบ้าง เดินช้าบ้าง ดีไม่ดีถอยหลังเอาอีกเสียด้วย หากดวงดาวเหล่านั้นจะมีการเดินผิดปกติบ้าง แต่ก็คงไม่ถึงกับเป็นการ วิกลคติ กระมัง ? (ทางคำนวณเราจะทราบการผิดปกติได้จากอัตราเฉลี่ยในการโคจรของดาวนั้น)

          ว่ากันถึงในส่วนของการพยากรณ์ ความวิกลคติจากการสังเกตวิถีโคจรดวงดาวนี้ ท่านว่ามีผลต่อการพยากรณ์ตามความหมายของดวงดาวนั้นๆ คือ

          เสริด ดวงดาวเดินหน้าเร็ว การแสดงออกทางความหมายของดาวนั้นรวดเร็ว ฉาบฉวย ขาดตกบกพร่องไม่ครบถ้วนทีเดียว

          มนท์ ดวงดาวโคจรช้าหรือเสมือนอยู่นิ่ง การแสดงออกทางความหมายของดาวนั้นให้เชื่องช้า ไม่ทันการ หน่วงถ่วงเหนี่ยว นิ่ง ไม่ประสบผลตามที่คาดไว้ (บ้างแยกว่าอาการหยุดนิ่งคืออาการ สถิต ด้วย)

          พักร ดวงดาวเดินถอยหลัง การแสดงออกทางความหมายของดาวนั้นแสดงถึงความไม่ต่อเนื่อง ไม่เด็ดขาด รีบร้อนกุรี้กุรน ไม่แน่นอน คล้ายอาการเสริด

          ความหมายทาง วิกลคติ ทั้งสามนี้ ท่านให้บ่งความหมายอันไม่ปกติลงในดวงดาวที่นำมาพิจารณานั้น โดยให้ทราบถึงการแสดงออกทางกำลังของดวงดาวเชิงพยากรณ์ที่จะแสดงออกมามากบ้างน้อยบ้างไม่เสมอกัน พูดง่ายๆคือให้มันแผกแปลกไปกว่าเดิมที่ควรจะเป็น อย่าง พุธ วิกลคติ การติดต่อสื่อสารในช่วงนั้น อาจไม่ดีเท่าที่ควร เป็นนักพูดที่ดีอยู่ก็ให้พูดช้าไปบ้าง พูดเร็วพูดรัวลิ้นแทบพัน ใจคอห่อเหี่ยวให้ไม่อยากพูด หรือหากเป็นเรื่องเอกสาร บางทีส่งไปรออนุมัติ พอวิกลคติเข้าก็ให้เป็นปัญหาให้ต้องแก้ไข ที่ว่าได้แน่สำเร็จแน่ก็จะต้องแก้ไขกันเสียรอบสองรอบ บางทีก็เนิ่นไม่ได้อย่างใจ นี่คือกำลังความหมายที่สำแดงออกมาไม่เสมอกันอย่างปกติ ท่านมักว่า พักร นี่ทำให้ดาวมีกำลังมาก เพราะช่วงนั้นจะสังเกตเห็นชัด ส่วนเสริดนี่น้อยเพราะสังเกตเห็นมันออกหน้าลิบๆแผ่วๆ และมนท์นี่ให้กำลังหน่วงไม่คงที่อาจจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการเดินและการรักษาสภาพนั้นไว้ด้วย

          ในเรื่องวิกลคตินี้ ฉันก็จำมาจากท่านอีกทีหนึ่ง ท่านแนะว่าหากจำเป็นต้องนำวิกลคติมาพิจารณาดวงชะตาด้วยแล้ว จะด้วยต้องการความละเอียดเฉพาะกรณีหรืออยากจะหยิบยกมาใช้ขยายเหตุขยายความ ก็อย่าได้หลงลืมพิจารณาร่วมกับอาทิตย์ เพราะกระแสดาวทั้งหลายที่เราได้รับนี้ย่อมมาจากอาทิตย์ทั้งสิ้น (อาจจะมีจากจันทร์บ้าง เพราะจันทร์นอกจากรับแล้วก็ยังกรองถ่ายทอดให้อีกต่อหนึ่ง แต่หลักใหญ่ก็จากอาทิตย์) ความวิกลคติให้ผลดีร้ายหนักเบาก็จะทราบได้ด้วยเหตุอย่างนี้

          นี้เสมือนมีดปาดตาล หยิบมาใช้ให้ถูกส่วนกับงานย่อมได้ผลเป็นอันดี แต่บางทีของวิจิตรมาใช้งานเถื่อนย่อมไม่เข้าท่า แถมยังจะไปว่าเสียของให้เข้าอีก โบราณท่านยกไว้เพราะมีเหตุผลของท่าน การปรับใช้ความรู้ให้เข้ากับสภาพการณ์ย่อมทำให้เราเห็นคุณค่าของวิชาที่ใช้ และจะใช้ได้อย่างถูกที่บรรจงอีกด้วย ท้ายนี้ขอหยิบยกเอาคัมภีร์อรรถสาลินี อันกล่าวถึงความหมายพยากรณ์วิกลคติมาให้พิจารณาเป็นการเอวังบทความนี้ ขอท่านกัลยามิตรผู้อ่านทุกท่านจงมีความสุขกายสบายใจ สมบูรณ์พูนพร้อมทุกด้าน ราบรื่นคล่องตัวทุกประการ คุณพระรักษาเทวดาคุ้มครองทุกท่านทุกคนเถิด .d

จักกล่าวพระเคราะห์จรตามราศี

อันอาจารย์แจ้งอรรถสาลินี                พระอภิธรรมโดยมีฎีกามา

พระอาจารย์จารึกบรรทึกไว้               คัมภีรไสยตามพุทธโฆษา

พระเคราะห์มนท์เสริดพักรนานา          ทำนายว่าต่างๆ จะเกิดเป็น

อังคารพักรมีศึกต่างเมืองมา                อังคารเสริดนั้นท่านว่าเกิดยุคเข็ญ

อังคารมนท์จะวิกลบังเกิดเป็น              มหาชนเกิดเข็ญออกผีตาย

จะเจ็บท้องลงแดงตายเสียมาก             ความทุกข์ยากในมนุษย์สิ้นทั้งหลาย

พระเสาร์และอังคารท่านภิปราย           พักรในราศีร้ายจำเพาะมี

คือพฤษภ สิงห์ มีน ธนู พักร               ว่าร้ายนักทำนายไว้สี่ราศี

จะเกิดความฉิบหายวายชีวี                 พระธรณีจะดูดกินซึ่งเลือดคน

พระอังคารผิวพักรราศีเมษ                 มหากษัตริย์จะเป็นเหตุแสดงผล

ในเดือนเก้าเจ็ดค่ำแรมพึงยล               จะม้วยชนม์สิ้นชีพสังขารา

พระพุธพักรในกุมภราศี                     พระบุรีร้อนทั่วทุกทิศา

ราชุบตรจะต่อยุทธต่อกษัตรา              ในเดือนแปดทุติยาเป็นมั่นคง

พระพุทธมนท์ว่าฝนนั้นจะน้อย             ข้าวกล้าตายฝอยดินแห้งผง

พระศุกร์ข้าวแพงทำนายตรง               บูรพาอาษฒเป็นมั่นคงทำนายมา

พระอังคารพักรในราศีเมษธนูสิงห์          สามนี้ร้ายหนักหนา

เป็นนิมิตรแก่แผ่นพสุธา                    จะแยกเป็นสองว่าอัศจรรย์

อีกจะเกิดลมพายุวิปริต                     จะเกิดไข้ทรพิษเป็นมหันต์

มหาชนจะพินาศลงดาษครัน               อังคารนั้นมนท์เกิดไข้ตาย

พฤหัสบดีมนท์แพ้สมณะพรหมณา          พระศุกร์มนท์ทายว่าฝนจะแห้งหาย

ข้าวจะแพงฝนแล้งข้าวกล้าตาย            พระเสาร์มนท์นั้นทายว่าศึกมี

เกิดอันตรายวัวควายจะตายห่า            จะร้อนราษฎร์ประชาทั่วกรุงศรี

ดูทำนายตามพระบาลี                      ที่กล่าวนี้เป็นฉบับโบราณเอย