9 กันยายน 2555

๕ ๗ เจ้าสมญา พิจารณาโชคเคราะห์ ตอน ความเข้าใจเกี่ยวกับสมญาเคราะห์

๕ ๗ เจ้าสมญา


พิจารณาโชคเคราะห์


ตอน ความเข้าใจเกี่ยวกับสมญาเคราะห์


ธีรพร เพชรกำแพง
กัลยาณมิตรอันเป็นที่รัก มหันตภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยที่ผ่านมา(อุทกภัย) ทำให้เราได้เห็นข้อคิดในโหราศาสตร์ข้อหนึ่งว่า คนทั้งหลายเหล่านั้นดวงดีดวงร้ายไม่เท่ากันแต่ต้องรับผลเหมือนๆกันนั้นเป็นเพราะอะไร เหตุผลทางพระพุทธศาสนาจะบ่งไปในลักษณะของกรรมร่วม ที่ผู้มีกรรมเกี่ยวข้องกันมาจะได้อยู่ในสถานที่เดียวกันและได้รับผลแบบเดียวกัน อย่างนั้นก็คงจะไม่ผิดเป็นแน่ แต่ในทางโหราศาสตร์เราสามารถที่จะบอกได้หรือไม่ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น เรื่องนี้คงต้องฝากไว้เป็นข้อคิดพิจารณาถึงเหตุผลกันต่อไป

          ในครั้งนี้เรายังว่ากันด้วยเรื่องของ ๕ ๗ สมญาโชคเคราะห์ ที่ใช้พิจารณาความดีร้ายของดวงชะตา โดยสามารถพิจารณาได้ทั้งมูลเหตุดวงชะตาและเงื่อนไขปัจจัยจร ที่จะทำให้เราเห็นโอกาสและอุปสรรคของเจ้าชะตาทั้งในภาพกว้างตีรายละเอียดของดวงชะตา แล้วจำกัดแคบเข้าด้วยเงื่อนไขเวลา ทำให้เราสามารถที่จะกำหนดช่วงเวลาของผลการพยากรณ์ได้ การให้สมญาหรือการให้ความหมายเชิงสัญลักษณ์นี้ ความหมายดีร้ายย่อมเป็นไปตามดาวที่เราให้สมญา คือ ๕ ว่าโชค ๗ ว่าเคราะห์ ทั้งนี้ให้ยึดความหมายหลักไว้อย่างนี้ แต่ในทางปฏิบัติเมื่อเราอ่านด้วยขั้นตอนวิธีจะเห็นได้ว่า ในร้ายมีดี ในดีมีร้าย ถามว่าเป็นอย่างนี้จะอ่านดวงออกมาอย่างไร วิธีที่ท่านบอกต่อกันมานั้นพอจะจำได้อยู่สองประการ คือ

          1.ให้อ่านสมญาที่เราให้ไว้เป็นความหมายหลัก และความหมายที่แปลกไปจากสมญาให้อ่านในทำนองเสริมหรือขยายสมญานั้น

          2.ให้แยกอ่านเรื่องนั้นออกจากสมญา แล้วพิจารณาถึงความดีร้ายในเรื่องนั้นอีกที

          ภาพความหมายที่เราได้จากการอ่านสมญาเคราะห์นั้น ความหมายที่ได้หากไม่เหมือนกันนั้นไม่แปลก แต่หากความหมายมีขึ้นเหมือนกันย่อมเสริมความหมายนั้นให้หนักแน่นขึ้นไปอีก ดังเช่นครั้งก่อนได้เกริ่นถึง ภาพซ้ำๆ ของความหมายที่เราได้จากการอ่านดวงชะตาในแง่มุมหรือขั้นตอนวิธีต่างๆ ภาพความหมายที่อ่านทางหนึ่งเหมือนกับที่อ่านได้จากอีกทางหนึ่ง ภาพความหมายนั้นย่อมมีน้ำหนักในการเกิดเหตุการณ์มากขึ้น เช่น เราพิจารณาจากตนุลัคน์แล้วเห็นว่าเจ้าชะตาจะเกิดอุบัติเหตุ พอลองอ่านเรื่องการงานทางเรือนกัมมะ ก็บ่งเกี่ยวไปถึงการเกิดอุบัติเหตุของเจ้าชะตาอีก อย่างนี้ภาพความหมายที่เราเห็นซ้ำกันจากดวงชะตา ย่อมมีน้ำหนักหรือโอกาสในการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวต่อเจ้าชะตามากขึ้น ชี้ให้เห็นว่าเวลาเราพิจารณาดวงชะตาที่ละส่วนนั้น แท้จริงความหมายจาก ดาว ราศี เรือน นั้นมีความเกี่ยวข้องโยงใยกันหมดทั้งกระดาน เพราะฉะนั้นเราจะเห็นครูบาอาจารย์ท่านสอนให้รู้จักวิเคราะห์(แยกแยะ)และสังเคราะห์(รวบรวม)ในการอ่านดวงชะตาตามขั้นตอนวิธีอยู่บ่อยครั้ง ถึงกับมีคำกล่าวว่า ให้อ่านเสริมกัน อย่าอ่านหักล้างกัน ก็เพราะความเกี่ยวเนื่องโยงใยของดวงชะตานี้เอง