๕ ๗ เจ้าสมญา
พิจารณาโชคเคราะห์
ตอน ความเข้าใจเกี่ยวกับสมญาเคราะห์
ธีรพร เพชรกำแพง
กัลยาณมิตรอันเป็นที่รัก
มหันตภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยที่ผ่านมา(อุทกภัย)
ทำให้เราได้เห็นข้อคิดในโหราศาสตร์ข้อหนึ่งว่า
คนทั้งหลายเหล่านั้นดวงดีดวงร้ายไม่เท่ากันแต่ต้องรับผลเหมือนๆกันนั้นเป็นเพราะอะไร
เหตุผลทางพระพุทธศาสนาจะบ่งไปในลักษณะของกรรมร่วม ที่ผู้มีกรรมเกี่ยวข้องกันมาจะได้อยู่ในสถานที่เดียวกันและได้รับผลแบบเดียวกัน
อย่างนั้นก็คงจะไม่ผิดเป็นแน่ แต่ในทางโหราศาสตร์เราสามารถที่จะบอกได้หรือไม่ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น
เรื่องนี้คงต้องฝากไว้เป็นข้อคิดพิจารณาถึงเหตุผลกันต่อไป
ในครั้งนี้เรายังว่ากันด้วยเรื่องของ ๕
๗ สมญาโชคเคราะห์ ที่ใช้พิจารณาความดีร้ายของดวงชะตา
โดยสามารถพิจารณาได้ทั้งมูลเหตุดวงชะตาและเงื่อนไขปัจจัยจร
ที่จะทำให้เราเห็นโอกาสและอุปสรรคของเจ้าชะตาทั้งในภาพกว้างตีรายละเอียดของดวงชะตา
แล้วจำกัดแคบเข้าด้วยเงื่อนไขเวลา ทำให้เราสามารถที่จะกำหนดช่วงเวลาของผลการพยากรณ์ได้
การให้สมญาหรือการให้ความหมายเชิงสัญลักษณ์นี้
ความหมายดีร้ายย่อมเป็นไปตามดาวที่เราให้สมญา คือ ๕ ว่าโชค ๗ ว่าเคราะห์
ทั้งนี้ให้ยึดความหมายหลักไว้อย่างนี้
แต่ในทางปฏิบัติเมื่อเราอ่านด้วยขั้นตอนวิธีจะเห็นได้ว่า ในร้ายมีดี ในดีมีร้าย ถามว่าเป็นอย่างนี้จะอ่านดวงออกมาอย่างไร
วิธีที่ท่านบอกต่อกันมานั้นพอจะจำได้อยู่สองประการ คือ
1.ให้อ่านสมญาที่เราให้ไว้เป็นความหมายหลัก
และความหมายที่แปลกไปจากสมญาให้อ่านในทำนองเสริมหรือขยายสมญานั้น
2.ให้แยกอ่านเรื่องนั้นออกจากสมญา
แล้วพิจารณาถึงความดีร้ายในเรื่องนั้นอีกที
ภาพความหมายที่เราได้จากการอ่านสมญาเคราะห์นั้น
ความหมายที่ได้หากไม่เหมือนกันนั้นไม่แปลก
แต่หากความหมายมีขึ้นเหมือนกันย่อมเสริมความหมายนั้นให้หนักแน่นขึ้นไปอีก
ดังเช่นครั้งก่อนได้เกริ่นถึง “ภาพซ้ำๆ” ของความหมายที่เราได้จากการอ่านดวงชะตาในแง่มุมหรือขั้นตอนวิธีต่างๆ
ภาพความหมายที่อ่านทางหนึ่งเหมือนกับที่อ่านได้จากอีกทางหนึ่ง
ภาพความหมายนั้นย่อมมีน้ำหนักในการเกิดเหตุการณ์มากขึ้น เช่น
เราพิจารณาจากตนุลัคน์แล้วเห็นว่าเจ้าชะตาจะเกิดอุบัติเหตุ
พอลองอ่านเรื่องการงานทางเรือนกัมมะ
ก็บ่งเกี่ยวไปถึงการเกิดอุบัติเหตุของเจ้าชะตาอีก
อย่างนี้ภาพความหมายที่เราเห็นซ้ำกันจากดวงชะตา
ย่อมมีน้ำหนักหรือโอกาสในการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวต่อเจ้าชะตามากขึ้น
ชี้ให้เห็นว่าเวลาเราพิจารณาดวงชะตาที่ละส่วนนั้น แท้จริงความหมายจาก ดาว ราศี
เรือน นั้นมีความเกี่ยวข้องโยงใยกันหมดทั้งกระดาน
เพราะฉะนั้นเราจะเห็นครูบาอาจารย์ท่านสอนให้รู้จักวิเคราะห์(แยกแยะ)และสังเคราะห์(รวบรวม)ในการอ่านดวงชะตาตามขั้นตอนวิธีอยู่บ่อยครั้ง
ถึงกับมีคำกล่าวว่า “ให้อ่านเสริมกัน อย่าอ่านหักล้างกัน” ก็เพราะความเกี่ยวเนื่องโยงใยของดวงชะตานี้เอง