พระศุกร์นี้เล่า..เมื่อเจ้าวิกลคติ
โดย ธีรพร
เพชรกำแพง ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๕
...ครั้นมาถึงพระศุกร์วิกลคติเข้า มี พักร
มณฑ์ เสริด เป็นอันดี ท่านให้มีความหมายถึง ปัญหาการเงิน ความรัก
ความสมบูรณ์พูนพร้อมของชีวิตที่สมควรจะเป็น รวมถึงการแสวงหา การมุ่งกระทำ ผลสำเร็จ
ตามนัยความหมายแห่งศุกร์ ทั้งโดยเจ้าพระศุกร์เองและสมญาความหมายที่ทำหน้าที่
ล้วนแต่ให้มีความวิปริตวิปลาสณาการคลาดเคลื่อนไปจากความที่ควรจะเป็นอยู่เดิม
...ยกตัวอย่างเช่น การเงินฝืดพร่อง
ขาดความคล่องตัวทางด้านการจับจ่ายใช้สอย การหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านเงินหรือการบริหารจัดการตนขาดความรอบคอบทำให้มีผลเสียหาย
, ความรักที่มีผลแปรปรวน ตีรวนไม่เข้าอกเข้าใจกันอย่างเดิม
ความขึ้นๆลงๆทางความรัก , ชีวิตทำอะไรมักขาดๆเกินๆ
ความสอดคล้องสมดุลในชีวิตพร่องลงไป ความราบรื่นไม่ปรากฏต่อการที่จะกระทำ , ขาดความเป็นที่เมตตารักใคร่ เสน่ห์ในตัวลดน้อยถอยลง
การสนับสนุนให้ความร่วมไม้ร่วมมือต่างๆไม่เป็นไปดังใจปรารถนา , โรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจากการที่ร่างกายไม่ประสานกับระบบการทำงานของประสาทสัมผัสทั้งห้า
คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกาย ,ส่วนใจนั้นไปในอาการหลงด่ำต่ำลงในอารมณ์ที่สุขจากของภายนอกเพียงชั่วคราว
การไม่สามารถที่จะมุ่งจิตให้เป็นกลางเพราะอำนาจริตด้านเสียของศุกร์ชักนำให้ติดสุขหรือทุกข์(จากศุกร์)ไปในด้านใดด้านหนึ่ง
...กรณีอย่างนี้บุราณจารย์ทางโหราศาสตร์ไทยเดิมนั้นท่านสังเคราะห์เป็นกลางไว้ดีแล้ว
ว่าทั้งสองกรณีนั้น สุข เป็นอย่างไร ทุกข์ เป็นอย่างไร อย่างเรื่องแรกปัญหาจากความรักนั้นเป็นทุกข์
แต่ความสุขคือการได้ประเมินคุณค่าความรักแล้วเลือกกระทำในสิ่งที่ดีกว่า
เรื่องที่สองความทุกข์คือความจนไม่ค่อยมีเงิน
แต่ความสุขคือการได้ใช้คุณค่าที่ตนเองมีคือการทำงานหาเงิน(คนจนเรานั้นทำงานหนักแทบตายได้เงินเล็กๆน้อยๆก็ดีใจมหาศาลแล้ว)นี่ก็นับว่าเป็นความสุข
หรือจะนึกถึงนักกีฬาถ้าไม่ลงสนามลงไปเหนื่อยนักกีฬาเขาจะมีความสุขดีอยู่หรือ?
...ต้องแยกให้เห็นชัดให้ดีว่าเราตีความหมายของท่านนั้นออกหรือไม่
หากจับแค่เพียงเปลือกเพียงกระพี้ก็จะได้ผลไม่ถึงแก่น การวิกลคตินี้ก็เช่นกัน
การส่งผลความหมายจากดาวเป็นไปตามลักษณาการที่วิกลคตินั้น(เร็ว ถดถอย,ช้า
อยู่กับที่,พุ่ง มุ่ง เร็ว) ผลที่ได้ก็ย่อมมีสองด้านเสมอ
อย่าได้ตัดสินสิ้นลงไปอย่างหนักหน่วงว่า "วิกลคติต้องเสียหาย" เท่านั้น
วิกลคตินั้นเป็นเรื่องการโคจรของดาว แต่เหตุปัจจัยความหมายที่ได้พึงพิจารณาแยกออกมาให้เห็นเป็นสองด้านแล้วสอบทานเข้ากับรูปดวงที่เราพิจารณาอีกที..สรุปไว้เป็นประเด็นเล็กๆว่า
“วิกลคติเป็นเรื่องการโคจรของดาว
มิใช่การโคจรหรืออโคจรของความหมาย”...นี้จึงเป็นเหตุสมควร”
d
หมายเหตุ
: บทความนี้เป็นทัศนคติความรู้เล็กๆที่ประสงค์จะมุ่งแสดงออกถึงความภูมิใจในชาติภูมิแห่งโหราศาสตร์ไทยเท่านั้น