4 กันยายน 2555

ประสาโหรา..ก็ว่ากันไป ๒

...พวกเราเหล่าผู้ศึกษาวิชาโหราศาสตร์ทั้งหลาย เปรียบเสมือนผู้สะพายตะกร้าใบใหญ่ไว้บนหลัง เดินทางแสวงหาความรู้ไม่สิ้นสุด เจอความรู้ใดก็หยิบโยนใส่ตะกร้าเป็นคลังความรู้สะสมของตนเอง ยิ่งแสวงหาก็ยิ่งพบความรู้แปลกใหม่เรื่อยไปตามยุคตามสมัยตามกาลเวลา
...ผู้ที่แสวงหามากย่อมมีความรู้ในตะกร้ามาก ผู้ที่แสวงหาน้อยย่อมมีความรู้ในตะกร้าน้อยฉันใด ไม่ได...้หมายความว่าใครเป็นผู้เก่งกาจสามารถมากกว่ากัน เหตุเพราะยังไม่ได้วัดกันด้วยการใช้ความรู้นั้น บางทีคนที่แบกความรู้จนหนักแอ้อาจจะไม่มีแม้ความสามารถในเชิงปฏิบัติพยากรณ์จริงเลยก็เป็นได้ ในทางกลับกัน ผู้ที่แบกความรู้น้อยกลับมีความจัดเจนในเชิงพยากรณ์มากกว่าเสียอีก...เหตุที่เป็นดังนี้เพราะ...การรู้จักการวาง...
...ในเมื่อต่างฝ่ายต่างแบกหามความรู้กันไว้ไม่เท่ากัน คนที่จะใช้ความรู้นั้นได้คือคนที่รู้จักวางแล้วเท่านั้น คือรู้จักวางตะกร้าลง มองดูความรู้นานาประการที่เก็บสะสมมา แล้วหาส่วนที่ตนเองจะนำมาใช้ จะด้วยการแยกแยะของเดิมหรือประยุกต์ของใหม่ เพื่อใช้พยากรณ์จริงให้เข้ากันได้ สอบเหตุสอบผลจนเป็นความสามารถของตน จากความรู้ที่แบกไว้นั้นเอง
...หากเรารู้จักการ วางเราจะพบว่าทั้งคนที่มีความรู้มากและคนที่มีความรู้น้อย แต่ใช้บ่อยหมั่นฝึกฝนค้นหาหลักพยากรณ์ของตนเองได้ นั้นจึงจะเป็นผู้มีความสามารถอย่างแท้จริง ผู้ไม่รู้จักวาง แม้รู้น้อยก็เย่อหยิ่ง(ว่าตนเองมีวิชาดีทั้งที่เป็นกบนอกกะลา) รู้มากก็มักนิ่งอยู่(เพราะตัดสินใจในการพยากรณ์ไม่ได้ หลักมีมาก)
...ฉะนั้น เราท่านทั้งหลายในฐานะที่เป็นผู้ศึกษาโหราศาสตร์ พอพึงรู้เป้าหมายทางโหราศาสตร์ของตนเองแล้ว อีกสถานจงรู้จัก วางอันเป็นทั้งวางทางโหราศาสตร์ ทางโลก และทางธรรม ท่านจะประสบความสำเร็จในการเป็นนักพยากรณ์ด้วยความภูมิใจ
 
...ธีรพร เพชรกำแพง...
๒๕/๑๒/๒๕๕๓