26 กันยายน 2555

บ่นความโหราศาสตร์ เรื่อง เปรต กิเลส อบายภูมิ

 

                ป้าฉันเล่าให้ฟังว่า ตอนป้าสาวๆ ไปทำไร่ถั่วในดง ต้องปลูกกระท่อมนอนเฝ้า คอยดูแลถั่วที่ปลูกจนกว่าจะหมดฤดูเก็บเกี่ยว จึงจะยกเข้าบ้าน ครั้งหนึ่งตอนกลางคืนป้าได้ยินเสียงกรีดร้องวี๊ดๆ ดังก้องระงมป่า ป้าก็รู้ทันทีว่าเป็นเสียงเปรต รุ่งเช้าไปหาพ่อทวด (พ่อทวดของฉันคือปู่ของป้า) บอก “ปู่ฉันมาขอยันต์ไล่ผีเปรต” พอทวดตอบ “ เอ้อ..จะไปไล่มันทำไม เขามาขอส่วนบุญ เอ็งก็ไปทำบุญให้เขาสิลูก เดี๋ยวเขาก็ไม่มากวนแล้ว” ป้าก็ทำตามนั้นเตรียมของไปทำบุญตักบาตรให้ 2-3 วันจากนั้นเสียงก็ยังไม่หมดไป ก็กลับไปหาพ่อทวดอีก “ปู่ฉันมาขอยันต์ไปไล่เปรต มันไม่ยอมไป” เสียงพ่อทวดบอก “เอ็งก็ไปทำบุญให้เขาอีกสิลูก”  ป้าบอกว่า “ฉันทำให้ไปแล้วปู่” พ่อทวดตอบกลับว่า “ เปรตน่ะมันเกิดจากความโลภ บาปมันหนา ความโลภมันมากความพอมันไม่มี มันมาทักท้วงเอ็ง เพราะเป็นกรรมต่อกันมา เอ็งไปตักบาตรกรวดน้ำให้มันสักเจ็ดวันติดต่อกันเถอะลูก” ป้าก็ไปทำตามตักบาตรกรวดน้ำถึง 7 วัน ก็ปรากฏว่าเสียงนั้นหายไป
                ฉันมาฟังป้าเล่า ก็ให้นึกถึงว่าสมัยก่อนป่ายังไม่แตก เรื่องผีเรื่องเปรตนี่คนเก่าๆ เขาเห็นเป็นเรื่องชินกันเสียแล้ว ทุกวันนี้ลูกหลานคนไหนได้ยินเสียงประหลาดตามรบกวน ป้าก็จะแนะนำเหมือนที่พ่อทวดเคยสอน ฉันเองก็มาพิจารณาตามที่พ่อทวดชี้แนะ “เปรตมันเกิดจากความโลภ ความพอมันไม่มี” แล้วนึกถึงหนังสือธรรมะที่กล่าวว่า หากมีโลภะมากตายไปจะเกิดเป็นเปรต มีโทสะมากจะเป็นอสุรกาย มีโมหะหมากจะเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน การไปเกิดในอบายภูมิเนื่องจากกิเลสร้ายนำพาไป ถึงจะเกิดในอบายแล้วอำนาจกิเลสก็ยังมีอยู่ เหมือนเปรตไม่รู้จักพอที่ต้องการบุญเยอะๆ อย่างที่เกริ่นมา ...แม้แต่สัตว์เดรัจฉานที่อยู่ใกล้เราจะเห็นได้ชัด ฉันเคยเก็บหมามาเลี้ยง เมื่อแรกให้กินข้าวเปล่าๆ ก็กินกะลกกะลนจนหมด พอเปลี่ยนอาหารที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นกับข้าว เป็นไก่ย่าง เป็นอาหารหมามียี่ห้อตามโฆษณา ปรากกฎว่าหมาก็กินแต่ของดีกว่ามาใหม่ทั้งสิ้น ข้าวเปล่าของเก่าไม่สนใจเสียแล้ว ความรู้จักอยากได้อยากมีสัตว์เดรัจฉานมันก็ยังมีอยู่ ...มาหวนคิดได้ว่าอบายนี่มันต่ำกว่าเรา กิเลสอะไรต่างๆมันยังมีอยู่ครบ อยากได้อยากดีอยากมีอยากเป็นครบหมดทุกอย่าง มาคิดถึงตัวเอง เออ...เรานี่มนุษย์สัตว์ประเสริฐ แต่กิเลสยังไม่คลาย ยังคล้ายสัตว์ในอบายภูมิ มีทั้งโลภ โกรธ หลง หากมีครบมีเท่าหรือมากกว่ามัน ไม่แคล้วตายไปก็คงต้องไปอยู่กับมันเสียแล้ว
                คิดได้ก็มาใช้เป็นอุทธาหรณ์สอนใจตัวเอง พ่อทวดทิ้งร่องรอยไว้ให้ฉันได้ศึกษาเยอะมาก โดยเฉพาะความดีที่ต้องมีในการใช้โหราศาสตร์ พ่อทวดบอกหมอดูที่ดีต้องมีธรรมะ ตลอดชีวิต 112 ปีของท่าน มีสิ่งมหัศจรรย์ให้ลูกหลานประจักษ์ด้วยบารมี สิ่งที่ฉันถ่ายทอดก็พื่อบันทึกเตือนความจำให้เจริญรอยตาม แม้จะเท่าเศษเสี้ยวของท่าน ฉันก็คิดว่า...ยังดีกว่าที่ฉันจะไม่ได้อะไรเลย

หมอฮิปโป
๓๐/สิงหาคม/๒๕๕๒